6 มี.ค. 2020 เวลา 03:10 • ธุรกิจ
ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ กำลังเจอความท้าทาย
สมัยก่อน หากพูดถึงตลาดค้าส่งเสื้อผ้าที่ใหญ่สุดในประเทศไทย
เราคงจะต้องนึกถึง ประตูน้ำและโบ๊เบ๊
แต่ตอนนี้ตลาดเหล่านี้กำลังเปลี่ยนไป ผู้ประกอบการพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกค้าหายไปหมด
แล้วทำไมเรายังเห็นคนซื้อเสื้อผ้าใหม่กันตามปกติ?
เค้าไปซื้อกันที่ไหน?
เกิดอะไรขึ้นกับตลาดเสื้อผ้าที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของเมืองไทย
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรามาทำความรู้จักห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมขายเสื้อผ้ากัน
โดยแบ่งเป็นตัวละคร ออกเป็น 3 ประเภทคือ
ผู้ค้าย่านประตูน้ำ โบ๊เบ๊ ขอเรียกว่า “เถ้าแก่”
ผู้ซื้อของจากย่านค้าส่งไปขายทั่วประเทศไทย ขอเรียกว่า “คนกลาง”
และคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่อยากเริ่มธุรกิจออนไลน์ ขอเรียกว่า “เถ้าแก่น้อย”
1
สมัยก่อน เถ้าแก่ซื้อเสื้อผ้ามาจากจีนเป็นส่วนใหญ่
จากนั้นคนกลางก็มาซื้อจากเถ้าแก่ ในราคาขายส่ง เอาไปขายต่อให้ลูกค้าที่เป็นประชาชนทั่วไปอีกต่อหนึ่ง
แต่ปัจจุบัน การเกิดขึ้นของสมาร์ตโฟน และอินเทอร์เน็ต ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง..
ในปี 2019 มีคนไทย 57 ล้านคนจากทั้งหมด 69 ล้านคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ คิดเป็น 82%
ในขณะที่เวลาเฉลี่ยในการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยนั้นสูงถึง 9 ชั่วโมง 11 นาที
2
คนใช้เวลากับหน้าจอมากขึ้น
และออกไปเดินซื้อของหน้าร้านน้อยลง
คนกลางเริ่มจะหาข้อมูล ติดต่อ และซื้อของกับร้านค้าที่จีนโดยตรงไม่ผ่านเถ้าแก่
แต่คนกลางก็ใช่ว่าจะสบาย เพราะมีเถ้าแก่น้อยเกิดขึ้นมากมาย และพวกเขาก็มักจะสั่งจากจีนโดยตรงเช่นกัน ทำให้ตลาดเสื้อผ้ามีการแข่งขันสูงขึ้น ซึ่งคนกลางบางรายก็ต้องผันตัวมาทำตามเถ้าแก่น้อยคือ ขายออนไลน์ควบคู่ไปกับหน้าร้านจริง
Cr. Bangkok Destination
สิ่งที่น่ากลัวของเรื่องนี้ ก็คือ เถ้าแก่มักจะมีประสบการณ์สูง และคิดว่าตัวเองเก่ง
1
ความมั่นใจนี้บางทีก็ใช้ได้ผล แต่บางครั้งก็อาจกลายเป็นดาบสองคม
ด้วยความที่อยู่ในธุรกิจมานาน เถ้าแก่จึงมีความเชื่อที่ว่า การขายของนั้นต้องมีหน้าร้าน
ขายออนไลน์ได้ลูกค้าไม่เยอะ ยุ่งยาก รอลูกค้าประจำแหละเดี๋ยวเค้าก็มาซื้อ
1
แต่พอเวลาผ่านไป สิ่งที่ไม่เยอะมันค่อยๆ สะสม จนกว่าจะรู้ตัวอีกที เถ้าแก่คนนั้นก็ถูกทิ้งไปอย่างไม่เห็นฝุ่น
ส่วนคนที่ดูเหมือนจะก้าวตามทันโลกได้ที่สุดก็คือ
เถ้าแก่น้อยที่สั่งสินค้ามาจากจีนโดยตรง แล้วมาขายออนไลน์ในราคาถูก
ซึ่งพวกเขามีต้นทุนถูกกว่ามาก เพราะไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องมีพนักงาน
ยังไม่จบ
นอกเหนือจากตัวละคร 3 คนนี้แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ มาทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก
จากตัวละครที่ 4 ก็คือ ผู้ขายเสื้อผ้าที่มีแบรนด์ในห้าง..
Cr. CentralFestival Chiangmai
จากเศรษฐกิจที่ซบเซา และตัวเองก็ถูกออนไลน์แย่ง แบรนด์ในห้างจึงจัดโปรโมชันลดราคาสะบั้นหั่นแหลกทำให้ราคาลดลงมาไม่ต่างจากเสื้อผ้าที่ไม่มีแบรนด์
เมื่อราคาลงมาใกล้กันแบบนี้ ผู้บริโภคก็ย่อมเลือกเสื้อผ้าที่มีแบรนด์ มากกว่าเสื้อผ้าจากตลาดค้าส่ง
ในขณะเดียวกัน คลื่นลูกใหญ่ที่สุดที่กำลังจะซัดเข้าหาตลาด ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ ในไม่ช้า
ก็คือ ศูนย์กระจายสินค้า Alibaba ที่จะมาตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา
Cr. Nation Thailand
ศูนย์ Alibaba นี้จะส่งผลให้การสั่งของจากจีน มีราคาถูกลงกว่าเดิม ส่งไวกว่าเดิม และใครๆ ก็สั่งได้ จนแทบจะตัดตัวกลางไปทั้งหมด
คลื่นลูกนี้จะมาทำให้เถ้าแก่ทั้งหลายที่นำสินค้าเข้าจากจีนเครียดไปตามๆ กัน
เพราะใครๆ ก็จะสามารถสั่งสินค้าด้วยตัวเองในราคาส่งแม้จะซื้อเพียงไม่กี่ชิ้น..
จากนี้เราอาจจะได้เห็นร้านค้าส่งย่านประตูน้ำ โบ๊เบ๊ ปิดกิจการลงไปอีกมาก
หากเถ้าแก่ต้องการจะอยู่ในตลาดต่อไป ก็คงต้องปรับตัว หากลยุทธ์ที่เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น
ลดต้นทุน และนำเข้าสินค้าจากจีนมาจำหน่ายอาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป เพราะผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องซื้อผ่านพ่อค้าคนกลางอีกแล้ว ดังนั้นก็คงต้องหาสินค้าประเภทอื่นจากแหล่งอื่นที่มีมูลค่าเพิ่มมาทดแทนของเดิม
แต่ถ้าเถ้าแก่อยู่เฉยๆ ก็คงต้องทำใจ
เพราะประสบการณ์ในอดีต คงนำมาใช้กับปัจจุบัน ไม่ได้เสมอไป..
โฆษณา