II. กลยุทธ์ โต้ตอบ (Counter Offensive)
วิธีการ มีดังนี้
1. ชน ราคา (Competitive Price)
เมื่อเผชิญหน้ากับการลดราคาของคู่แข่ง สัญชาตญาณแรก คือ การโต้ตอบ ด้วยการลดราคา (Price Discount / Sales Promotion)
โดย การรวบรวมทรัพยากรที่มีอยู่ และทำการตีโต้ เพื่อรักษาลูกค้าทางธุรกิจไว้
วิธีตอบสนองที่ดูเหมือนจะชัดเจน คือ เพียงลดราคา ให้ต่ำกว่า ของคู่แข่ง
โดยเชื่อว่า เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ
คำถาม คือ จะชนะได้อย่างไร โดยไม่ทำลาย ความสามารถในการทำกำไรของตัวเอง ในระยะยาว
ขณะที่ ลดราคา มากกว่า และนานกว่าคู่แข่ง
หรือ ให้รางวัล ที่ใหญ่กว่า มีมูลค่า มากกว่า คู่แข่ง
เพราะ
สงครามราคา เป็นสุดยอดพฤติกรรม ทำลายล้างตนเอง (Self Destruction)
เนื่องจาก หลังจาก การลดราคา หรือรายการส่งเสริมการขาย ยอดขายจะลดลง และสูญเสียกำไร
ตัวอย่าง หากลดราคา 20% (ถ้า GP = 40%)
ต้องเพิ่มปริมาณยอดขายอีก 100% กำไรเบื้องต้น จึงจะ เท่าเดิม
การลดราคา จะก่อให้เกิด การสูญเสียความสามารถในการสร้างกำไร (Profitability) ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ
1. คู่แข่ง อาจตอบโต้กลับ ด้วยการลดราคาลง อีกครั้ง และลดราคาลง มากกว่าเดิม อีกด้วย
2. กำลังสอนลูกค้า ให้ทุบ (ต่อรอง) ราคาสินค้า ในทุกครั้ง เพราะแสดงให้เห็นว่า สามารถลดราคาได้
ยิ่งแย่ไปกว่านั้น ผลที่ตามมา ก็คือ
1. ความกลัวที่จะสูญเสียลูกค้าว่า หากไม่ตอบโต้ อาจตกอยู่ในอันตราย จากการสูญเสียลูกค้าอย่างถาวร (Lifetime Value of Relationship)
ผลักดันให้ ผู้จัดการ ตอบโต้ รุนแรงมากขึ้น
และในที่สุด โครงสร้างราคา ที่กำหนดไว้ และวินัยการเงิน ของบริษัท ก็จะพังทลายลง
2. เมื่อลูกค้า บังคับให้แบรนด์ ให้ความสำคัญกับการแข่งขันด้านราคา ก็จะเสียโอกาสในการทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มผลกำไรระยะยาว (Long Term Profit) เกิดอาการ Lose-Lose Behavior
สิ่งที่จะได้รับผลกระทบ คือ ยอดขาย, ส่วนแบ่งตลาด, ฐานลูกค้า, ความพึงพอใจของผู้บริโภค, กำไรเบื้องต้น, ภาพลักษณ์การผู้นำ ฯลฯ