7 มี.ค. 2020 เวลา 06:40 • ศิลปะ & ออกแบบ
การผูกดวงจรตามอายุขัยใน Astro Gold
1
Astro Gold ในเครื่อง iPhone หรือ Solar Fire ฉบับมินิ มีวิธีการพวกดวงจรตามอายุขัย อยู่หลายวิธี นอกเหนือไปจากดวงจรตามปฏิทิน (Transit) ที่แสดงตำแหน่งดาวจรบนท้องฟ้า ณ วันและเวลาประสงค์ โดยคุณสมบัติดังกล่าวจะอยู่ในเมนู Subsidiary Chart ซึ่งประกอบด้วย
5
1.Secondary Progressions
2.Solar Arc Directions
3.Solar Return
4.Lunar Return
5.Combined
อยากตั้งข้อสังเกตุว่าดวงชะตาตาม 5 ข้อข้างบนนี้ บางเรื่องเป็นการคำนวณตำแหน่งดาว ที่สัมพัทธ์กับตำแหน่งดาวบนพื้นดวง (Natal) จึงไม่ใช่ตำแหน่งดาวจริงบนท้องฟ้า แต่เป็นตำแหน่งดาวที่อุปโลกขึ้นจากพื้นดวงเดิม ดังนั้นการออกแบบคำพยากรณ์จะไม่เป็นอิสระจากความหมายตามขอบเขตภายใต้พื้นดวงเดิม ดังนั้นเรื่องราวใดที่มิได้ปรากฏบนพื้นดวงเดิม จะไม่สามารถนำมาใช้พยากรณ์ภายใต้ดวงชะตาทั้ง 5 แบบให้ตรงตามหลักการอุปมาอุปมัยและหลักเหตุและผลได้
1
1. Secondary Progressions เป็นวิธีพยากรณ์ตามอายุขัยแบบดั้งเดิมที่ใช้ในโหราศาสตร์สากล ด้วยกำหนดให้ตำแหน่งดาวในพื้นดวงเดิม (natal) ที่เคลื่อนที่ไปในทุก 1 วัน แสดงถึงดวงอายุไขที่ปรากฎขึ้นในละปี อาทิ เช่น สมมติเจ้าชะตาเกิดวันที่ 1 ม.ค. 2563 ดวงจรในวันที่ 2 ม.ค. 2563 ก็จะเป็นดวงโปรเกรสที่เจ้าชะตามีอายุ 2ปี อีกนัยหนึ่งดวงจร ณ วันที่ 30 ม.ค. 2563 ก็คือดวงโปรเกรสที่เจ้าชะตามีอายุย่าง 30 ปีนั่นเอง
จุดอ่อนของดวงโปรเกรสคือดาวเคราะห์วงนอกอย่างพฤหัสและเสาร์ในดวงโปรเกรสจะไม่ค่อยเคลื่อนไปจากพื้นดวงเดิม ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้ เนื่องจากการอ่านดวงโหราศาสตร์สากลจะเน้นไปที่ดาวเคราะห์วงใน (personal planets) อย่างจันทร์ อาทิตย์ ศุกร์ พุธ ที่เป็นตัวแทนเจ้าชะตาได้ดีกว่าดาวเคราะห์วงนอก (Social planets) ซึ่งแสดงความรู้สึกนึกคิดและค่านิยมตามยุคสมัย (conservative/progressive) การใช้ความหมายของเรือนชะตา จากความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์ภายในและเส้นแบ่งเรือน มาช่วยประกอบการพยากรณ์จึงช่วยแก้ไขจุดอ่อนนี้ได้
2.Solar Arc Direction เป็นวิธีแก้ข้อจำกัดของโหราศาสตร์ยูเรเนียน และ Cosmobiology ที่ไม่ได้ใช้เรือนชะตาในการพยากรณ์ แต่ใช้ศูนย์รังสีและจุดอิทธิพล (พระเคราะห์ 2-3 ปัจจัยประกอบกัน) มาผสมความหมาย ในการออกคำพยากรณ์ เวลาจุดเจ้าชะตาทำมุมสัมพันธ์กับปัจจัยเหล่านี้ โดยกำหนดให้ตำแหน่งอาทิตย์ในพื้นดวงเดิมที่เคลื่อนที่ไปในทุก 1 วัน แสดงถึงตำแหน่งอาทิตย์ของเจ้าชะตาที่มีอายุย่างในแต่ปี แล้วนำ มาหาระยะเชิงมุมหรือค่าความโค้ง (Arc) ระหว่างอาทิตย์ไดเร็คกับอาทิตย์เดิม นำค่านี้บวกเข้ากับทุกตำแหน่งดาวเคราะห์ในพื้นดวงเดิม กลายเป็นตำแหน่งใหม่ ซึ่งก็คือตำแหน่นงดาวของดวงไดเร็คชั่น ให้สังเกตว่าในทุก 30 และ 45 ปีโดยประมาณ ตำแหน่งดาวเคราะห์แต่ละดวงในดวงไดเร็ค จะทำมุมสัมพันธ์ 30 และ 45 องศา กับตัวมันเองในพื้นดวงเดิม วิธีการใช้งานดวงไดเร็คจึงเน้นไปที่การทำมุมระหว่างปัจจัยต่างๆในดวงชะตา ที่จะต้องมีการอุปมาอุปมัยความหมายของปัจจัยดังกล่าว (ดาวเข้ารูป) ว่าเป็นเรื่องราว/เหตุการณ์ใด วิธีการนี้ Ebertin เจ้าสำนัก Cosmobiology เคยบอก Noel Tyl ว่าเป็นวิธีการที่แม่นยำที่สุดในโลก
3.Solar Return วิธีการนี้เป็นวิธีการเก่าแก่ที่สุด และสมเหตุผลทางดาราศาสตร์มากสุดเนื่องจากใช้ตำแหน่งดาวที่ปรากฏขึ้นจริงบนท้องฟ้าตามวันและเวลาปฏิทิน เดิมวิธีการนี้มีใช้ในการพิจารณาเหตุการณ์บ้านเมือง (Mundane Astrology) ก่อน แล้วจึงประยุกต์ใช้ดวงกษัตริย์/ผู้นำบ้านเมือง จนต่อมาค่อยนำมาใช้พิจารณาดวงชะตาบุคคลเป็นการทั่วไป โดยดวงโซล่ารีเทิร์นของเจ้าชะตาในแต่ละปี จะกำหนดจากวันที่ดาวอาทิตย์จรทับดาวอาทิตย์เดิมในดวงชะตา โดยตำแหน่งดาวเคราะห์ที่ปรากฏในวันนั้นก็คือดวงโซล่ารีเทอร์ที่แสดงความเป็นไปในปีนั้นนั่นเอง บางคนวิจารณ์ว่าวิธีการนี้เหมือนกับการผูกดวงจรประจำวัน (Transit) นั่นเอง เพียงแต่เป็นการมองภาพรวมที่จะเกิดขึ้นในปีนั้น เนื่องจากการคำนวณตำแหน่งดาว หรือการบันทึกตำแหน่งดาวเป็นประจำทุกวัน อาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและใช้เวลานานสำหรับคนสมัยก่อน
ส่วนดวง Lunar Return ก็คล้ายกับดวง Solar คือผูกดวงในวันที่ดาวจันทร์จรทับดาวจันทร์เดิมในดวงชะตานั่นเอง
ส่วนดวง Combined เป็นดวงชะตาผสมของ 2 ดวง ไว้สำหรับการดูเรื่องสมพงศ์ดวงชะตา จึงไม่ขอกล่าวถึง ณ ที่นี้
โหราทาส
7 มีนาคม 2563
โฆษณา