10 มี.ค. 2020 เวลา 07:30 • สุขภาพ
“ไมเกรน”...เมื่อสมองของคุณ”ไว”กว่าปกติ!
1
โรคไมเกรนถูกจัดอันดับโดยองค์กรอนามัยโลกให้เป็น 1 ใน 10 ของโรคที่สร้างความทรมานและทำลายคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมากที่สุด
2
จริงๆแล้วต้องบอกว่ามีโรคมากมายที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ แต่กลับมีเพียงโรคไมเกรนที่คนทั่วไปรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า…
1
”ไมเกรนคือราชาของโรคปวดหัว”!
โรคนี้ไม่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต แต่สามารถทำให้ผู้ป่วยทรมานเหมือนกำลังใกล้เสียชีวิตได้!
คุณเคยปวดหัวจนอยากเอาหัวตัวเองทุ่มกับกำแพงไหมล่ะครับ?
ผู้ป่วยที่เป็นไมเกรนจำนวนมากอยากที่จะทำแบบนั้น เพราะอาการปวดจากภายนอกนั้นสามารถบรรเทาและลบเลือนความทรมานจากอาการปวดภายในได้
1
ไมเกรนเป็นโรคที่สมองมี”ความไวในการปวด”มากกว่าปกติ โดยใครที่มีสมองแบบนี้ก็ต้องบอกว่าโชคร้ายเสียจริงๆ แต่สมองแบบนี้กลับสามารถพบได้ในคนทั่วไปทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น วัยสูงอายุ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยทำงาน โดยมีความเชื่อว่าลักษณะสมองที่ไวแบบนี้น่าจะสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ด้วย เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยโรคไมเกรนจำนวนมากนั้นมีพ่อหรือแม่ที่เป็นโรคไมเกรนด้วยเช่นกัน
ทีนี้เนี่ย หลายคนน่าจะสงสัยว่า…”สมองมันไวแบบไหน?”
โดยปกติถ้าคุณปวดหัว คุณก็ต้องมีสิ่งกระตุ้นระดับหนึ่ง เช่น เครียดมากๆ นอนไม่พอมากๆ ทำงานหนักมากๆ เสียใจมากๆ ไม่สบายมากๆ ป่วย อะไรแบบนี้ ซึ่งมันก็จะกระตุ้นสมองให้หลั่งสารสื่อประสาทต่างๆที่ทำให้ปวดหัวได้
แต่ในคนที่มีสมองไวต่อการปวด พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีความเครียดอะไรมากมายครับ เพราะสมองของพวกเขาเตรียมพร้อมที่จะหลั่งสารสื่อประสาทหรือส่งกระแสประสาทที่ทำให้รู้สึกปวดอยู่แล้ว เรียกได้ว่าอะไรไปสะกิดนิดหน่อยต่อจากนี้ กระแสประสาทมันก็พร้อมลุกลามไปทั่วสมองเหมือนไฟลามทุ่งได้เลยทันที
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความอาการปวดหัวทุกๆครั้งจะเกิดจากโรคไมเกรนเสมอไป เพราะต้องบอกว่าอาการปวดหัวส่วนใหญ่นั้นเป็นอาการปวดหัวทั่วๆไปนี่ล่ะครับ และก็ยังมีโรคต่างๆอีกมากมายที่สามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่า…
1
“อาการปวดหัวแบบใดที่เหมือนโรคไมเกรน?”
โดยถ้าคุณมีอาการปวดหัวใกล้เคียงกับอาการ 5 ข้อดังกล่าวนี้ ก็มีโอกาสสูงมากที่คุณจะเป็นโรคไมเกรน
1. ปวดข้างเดียว
โรคไมเกรนส่วนใหญ่จะมีอาการปวดหัวเพียงซีกเดียว และสามารถเปลี่ยนข้างได้ในการปวดหัวแต่ละครั้ง แต่อย่างไรก็ตามก็อาจปวดทั้ง 2 ข้างได้เช่นเดียวกัน
2. ปวดมาก และปวดตุ๊บๆ
อย่างที่ได้เล่าไปว่าโรคไมเกรนส่วนใหญ่มีอาการปวดหัวที่ค่อนข้างรุนแรงมาก และอาการปวดหัวส่วนใหญ่มักปวดแบบตุ๊บๆเหมือนมีเส้นเลือดเต้นอยู่ภายในหัว
3. ปวดนานมาก และเป็นเรื้อรัง
เมื่อคุณปวดหัวจากโรคไมเกรน อาการปวดแต่ล่ะครั้งจะไม่หายไปเองอย่างง่ายๆและรวดเร็วอย่างแน่นอน!
โดยอาการปวดหัวชุดหนึ่งมักมีอาการปวดยาวนานหลายชั่วโมงหรือถึงวันก่อนที่จะทุเลาลง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยก็จะกลับมามีอาการปวดหัวใหม่ได้อีก โดยจะมีอาการเป็นๆหายๆแบบนี้เรื้อรังยาวนานหลายสัปดาห์จนถึงเดือนหรือแม้กระทั่งเป็นปี
4. คลื่นไส้อาเจียน
โรคไมเกรนส่วนใหญ่มักมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วย
5. แพ้เเสงเสียงต่างๆ
ผู้ป่วยที่กำลังปวดหัวไมเกรนหลายๆคนจะมีอาการมากขึ้นเวลาอยู่ในห้องสว่างๆหรือสิ่งแวดล้อมที่มีเสียงดัง แม้มีแสงหรือเสียงเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ผู้ป่วยรู้สึกทรมานมากขึ้นได้ ดังนั้นผู้ป่วยโรคไมเกรนจำนวนมากจะต้องเข้าไปนั่งห้องเงียบๆและปิดไฟเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น
นอกจากอาการทั้ง 5 ข้อนี้ ก็ยังมีผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งที่อาจมีอาการทางระบบประสาทก่อนหรือขณะที่มีอาการปวดหัว เช่น เห็นแสงระยิบระยับหรือภาพที่บิดเบือนไป อาการชาหรืออ่อนแรงที่เป็นครึ่งซีกของร่างกาย เป็นต้น
โดยผู้ป่วยโรคไมเกรนไม่จำเป็นต้องมีอาการตรงกับทุกข้อที่กล่าวไปนี้ แต่ยิ่งผู้ป่วยมีอาการปวดหัวตรงกับข้อเหล่านี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเป็นโรคไมเกรนมากขึ้นเท่านั้น!
สำหรับการรักษาโรคไมเกรน คือการรีบกินยาแก้ปวดทันทีที่รู้สึกว่าเริ่มปวดหัว เพราะอาการปวดไมเกรนแต่ละครั้งก็เหมือน”รถไฟความเร็วสูง”เบรกแตกที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงสุด ทางเดียวที่คุณจะหยุดมันได้ก็คือช่วงที่มันกำลังออกตัว ถ้าคุณไม่รีบหยุดมันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ การมากินยายับยั้งมันภายหลังก็อาจต้านได้ไม่อยู่แล้ว และไมเกรนก็อาจทำให้คุณปวดหัวลากยาวไปเป็นวันๆได้เลย
2
นอกจากนี้ โรคไมเกรนในหลายๆคนมาถี่เสียยิ่งกว่ารถไฟเหาะ การมานั่งกินยาเรื่อยๆทุกครั้งมันก็คงไม่ไหว ดังนั้นนอกจากการกินยายับยั้งเป็นครั้งคราวแล้ว ก็จำเป็นต้องสร้างกำแพงขวางทางรถไฟเหล่านั้นตั้งแต่ที่มันยังไม่ออกตัวด้วย เพื่อป้องกันไมเกรนไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น ดังนั้นผู้ป่วยที่ปวดถี่มากๆ หมอจึงให้ยาป้องกันอีกชนิดกินทุกวันแม้ไม่มีอาการปวดหัวแล้วก็ตาม
แต่อย่างไรก็ตามไมเกรนไม่ใช่โรคที่สามารถหายขาดได้ตลอดไป…
“หมอสามารถสร้างกำแพงช่วยหยุดรถไฟเหล่านั้นได้ แต่หมอไม่สามารถทำลายพวกมันได้ วันใดที่กำแพงเตี้ยลง หรือผู้ป่วยไม่ได้กินยา รถไฟความเร็วสูงเหล่านั้นก็อาจพังทลายกำแพงเข้ามาได้อีกสักวัน”
“โรคไมเกรน"คือโรคประจำตัวที่จะอยู่ติดตัวผู้ป่วยตลอดไป ดังนั้นการรักษาโรคไมเกรนจึงไม่ใช่การรักษาเพื่อให้ผู้ป่วยหายขาดจากโรค แต่เป็นการควบคุมไม่ให้โรคมันอาละวาดมากกว่า
สุดท้ายนี้ ก็ต้องบอกกันตามตรงว่าโรคไมเกรนยังคงเป็นโรคที่ไม่มีใครทราบสาเหตุที่ชัดเจน เพราะสมองที่ไวแบบนี้ก็เชื่อว่าผู้ป่วยน่าจะได้รับมาตั้งแต่เกิดแล้วโดยมาพร้อมกับพันธุกรรม ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าต้องมาจากพ่อแม่เสมอไป เพราะมันก็อาจกลายพันธุ์เกิดขึ้นมาเองก็ได้
ดังนั้นโรคนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นโรคที่ฟ้าลิขิต คุณอาจมีรถไฟความเร็วสูงที่ชื่อว่าไมเกรนนี้โดยไม่สามารถเลือกได้ แต่บางทีคุณอาจเลือกได้ว่าจะขึ้นรถไฟขบวนนั้นหรือไม่ ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี พักผ่อนให้เพียง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ บางทีแค่นี้ก็อาจเพียงพอที่จะทำให้รถไฟขบวนนี้จอดนิ่งสนิทไปอย่างถาวร…
📥Healthstory - เรื่องสุขภาพ ง่ายนิดเดียว
อย่าลืมกดLike&Shareด้วยนะครับ^^
📥ติดตามเรื่องราวสุขภาพดีๆจากปากหมออีกได้ที่
โฆษณา