เชื่อรึไม่ว่า การจะแก้ปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง
ไม่จำเป็นต้องสร้างนวรรตกรรมใหม่ ให้เสียเงินมากมายเสมอไป
แต่แค่ปรับเพิ่ม/ลด อะไรสักอย่างหนึ่งก็อาจจะช่วยได้แล้ว
วันนี้มีเรื่องราวหนึ่งที่เคยฟังมาจาก คลาสเรียน Design Thinking มาเล่าให้ฟังครับ
เรื่องราวมีอยู่ว่า ในสนามบินแห่งหนึ่ง สมมุติว่าเป็น อเมริกาและกันครับ
เป็นสนามบินที่มีคนพลุกพล่าน และรองรับผู้โดยสารเป็นหมื่นๆ คนต่อวัน
แน่นอนว่าจำนวนคนเยอะแบบนี้ย่อมทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง
หนึ่งในนั้นคือปัญหาของห้องน้ำชาย
คนทำความสะอาด มักจะชอบมาบ่นให้กับหัวหน้าฟัง บ่อย ๆ ว่า เวลาผู้ชายฉี่ ระยะวิธีของน้ำ ที่ไหลจากที่สูงลงที่ต่ำนั้น มันค่อนข้างกระเด็นกระดอนไปหลายทิศทางมาก ๆ ทั้งเลอะพื้น และขอบข้าง ๆ
ยิ่งเป็นสถานที่ที่มีคนเยอะแบบนี้แล้วยิ่งยากต่อการจัดการมาก ๆ เลย
ทำให้แม่บ้านต้องเสียเวลาทำความสะอาดจุดนี้ค่อนข้างบ่อย และใช้เวลานาน
ปัญหาเหล่านี้ถูกนำมารายงานให้แก่หัวหน้าหลายต่อหลายครั้ง
ซึ่งหัวหน้าก็ได้ลองวิธีการแก้ไขเบื้องต้น เช่นติดป้ายว่า กรุณาฉี่ให้ลงโถ หรือแต่นั่นก็ยังคงเปล่าประโยชน์ ปัญหาเดิม ๆ ก็เข้ามาเหมือนเดิม
ถ้าเป็นผู้อ่านจะแก้ปัญหายังไงดีครับ?? ลองคิดเล่น ๆ ดูได้
ไปติดตามกันต่อ
หลังจากที่ปัญหานี้ เริ่มถาโถมเข้ามาทุกทีและคงยังแก้ไขไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจจ้างบริษัท ๆ หนึ่งมาทำ Design Thinking เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้
***Design Thinking เป็นกระบวนการคิดรูปแบบหนึ่งที่เข้าถึงและเข้าใจลูกค้า
และระดมความคิดมาช่วยแก้ไขกัน
ซึ่งแน่นอนว่า ไอเดียการแก้ไข มีเยอะมาก
ทั้งออกแบบโถใหม่ เปลี่ยนจุดการติดตั้ง หรือ ทำขอบเสริมพิเศษขึ้นมา
แต่ทว่าไอเดียเหล่านี้ ไม่ได้ถูกนำมาใช้ครับ เพราะท้ายที่สุดแล้ว การสร้างสิ่งใหม่ต้องใช้เวลา และงบประมาณ แต่มีไอเดียหนึ่งครับที่ดู ไม่ค่อยจะ ว้าว!! สักเท่าไหร่ แต่สามารถทำได้ทันที และใช้งบไม่เยอะ
ซึ่งไอเดียนั้นก็คือ การติดสติ๊กเกอร์ แมลงวันลงไปในโถส้วมครับ
รู้ไหมครับว่า พอนำไอเดียนี้ไปทดลอง สามารถลดปัญหาจากเดิมที่มีลงไปกว่า90%
เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น??
เรื่องนี้ต้องอธิบายยาวหน่อยครับ เผื่อให้คุณผู้หญิงที่อ่านเห็นภาพด้วย
ปกติแล้วโถฉี่ผู้ชายก็จะมีหน้าตาประมาณนี้นะครับ
ซึ่งก็คล้าย ๆ กันทั้งโลกนั่นแหละ แต่ประเด็นที่ทำให้มันกระจายก็เพราะว่า ผู้ชายส่วนมากไม่รู้ว่าจะฉี่ไปทิศทางไหนดี บางคนเอียงซ้าย ก็ซ้ายจัด บางเอียงขวา ก็ขวาจัด บางคนตรงกลางแต่ชอบแบบกลางบนๆ เรียกง่าย ๆ ว่ามันไม่มีจุดที่จะเล็ง จึงทำให้มันกระจัดกระจายไปแบบนั้น
แต่เจ้าแมลงวันนั้นมาแก้ปัญหาในจุดนี้ครับ แค่เราแปะแมลงวันเข้าไปในโถ
เพียงเท่านั้น โถก็จะมีจุดเล็งโดยทันที
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่จะเล็งมาที่เจ้าแมลงวัน แต่เรียกว่าชายส่วนมากแล้วกัน ทำสิ่งนี้
ึคือพยายามฉี่ให้โดนแมลงวันตัวนี้ (บางทีอาจจะคิดว่าของจริง) เลยทำให้รัศมีการกระจายมันหายไปและไม่เลอะเทอะ
และปัญหานี้ก็ถูกแก้ไขโดยวิธีการที่ใช้ต้นทุนต่ำมากๆ เป็นอีก 1 เคสที่กระบวนการ Design Thinking ได้ถูกนำมาใช้อย่างมีประโยชน์และมีประสิทธิภาพ
ที่จริงเคส ของ การนำ Design Thinking มาใช้มีอีกหลายเคสมาก ๆ วันนี้เอาตัวอย่างนี้มาเป็นน้ำจิ้มให้และกันครับ
ปล.ถ้ามีคนสนใจเยอะ ๆ ไว้จะเขียนเรื่อง Design thinking ให้อ่านนะครับ
- 28
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
