12 มี.ค. 2020 เวลา 12:44 • สุขภาพ
Covid 19 จะจบเมื่อไร จบอย่างไร และ หลังการจบสถานการณ์ อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง?.
ผมติดตามเรื่องราวของ covid 19 มาตั้งแต่เริ่มระบาดที่เมืองหวู่ฮั่น และก็ได้รายงานให้เพื่อนๆ ในเพจได้รับทราบถึงสถานการณ์มาเป็นระยะๆ ด้วยความห่วงใย แต่ในระยะหลังๆก็มีแหล่งข่าวและท่านอื่นๆ ติดตามและรายงานข่าวมากขึ้น และ หวู่ฮั่นไวรัสก็กระจายตัวออกไปทั่วโลก เป็นที่รับรู้กันใหม่ในชื่อว่า Covid19 จึงลดเนื้อหาด้านนี้ลงไป จนมาถึงวันนี้ การระบาดของ covid 19 ได้กระจายออกไปจนเกือบครบทุกประเทศทั่วโลกแล้ว และ ทางองค์การอนามัยโลกก็ประกาศว่า covid 19 ได้กลายเป็นโรคระบาดที่แพร่กระจายไปทั่วโลกแล้วอย่างเป็นทางการ (Global Pandemic) คำถามของสถานการณ์ปัจจุบัน คำถามที่ถามกันมามากที่สุด ก็คือคำถามที่ว่า สถานการณ์การระบาดนี้จะอยู่กับเราไปยาวนานแค่ไหน จะจบเมื่อไร และเมื่อจบแล้วชีวิตจะไปอย่างไรกันต่อ จึงต้องกลับมาหาคำตอบให้แฟนๆ กลับมาที่เรื่องไข้หวัด covid19 อีกครั้ง
สถานการณ์นี้จะอยู่ไปกับเราอีกนานแค่ไหน คำตอบที่ดีที่สุด คือ อยู่ๆก็หายไปเลย เหมือนโรคซาส์ กับโรค เมิสก์ เพราะมันเป็นไวรัสที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน ก็ควรจะมีการเกิดมา ตั้งอยู่และดับไปคล้ายๆกัน ศาสตราจารย์เดวิด ฟิสแมน จากมหาวิทยาลัยโตรอนโตของแคนาดา ซึ่งเขียนบทวิเคราะห์เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในเมืองอู่ฮั่นให้กับสมาคมโรคติดต่อระหว่างประเทศ (International Society for Infectious Diseases) บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า จากการประเมินในกรณีดีที่สุด ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จะระบาดทั่วโลกนานถึงปลายเดือน ก.ย. หรือหยุดระบาดอย่างเร็วที่สุดคือเดือน ส.ค. ๒๕๖๓
 
ข้อสองการหยุดระบาดเกิดจากการบริหารจัดการที่ดี การหยุดระบาดมาจากฝีมือไม่ใช่ดวงเหมือนกรณีแรก ก็มาจาก1) วัคซีน ซึ่งเร็วสุดก็จะใช้เวลา 1.5 ปีขึ้นไป ในการคิดค้นและนำสู่การรักษาในวงกว้าง 2) ยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิผลในการรักษาสูง ซึ่งก็ยังไม่ใช่ระยะอันใกล้นี้เหมือนกัน ประมาณการด้วยตัวเลขและเงื่อนไขที่ดีที่สุดเราจะสามารถทำ ยาป้องกันและยาต้านกรณีที่ป่วยแล้ว ออกมาใช้งานได้โดยผ่านการรับรองของ อนามัยโลก ก็กลางปี ๒๕๖๔
ส่วนด้านเลวร้ายสุดก็ได้แก่การระบาดไปทั่วโลก แล้วเชื้อโรคก็กลายเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งหมายความว่าเชื้อโรคนี้จะหมุนเวียนอยู่อย่างถาวรในหมู่ประชากรในประเทศ กลายเป็นไข้หวัดใหญ่ที่ไม่ธรรมดาที่ใครๆก็เป็นได้เหมือนไข้หวัดใหญ่โดยทั่วไป แต่ร้ายแรงกว่ามีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่า
ไพ่ที่ออกสามารถออกมาได้ถึงสามหน้าไพ่ คือ อยู่ๆก็หายไปเลย หายด้วยประสิทธิภาพทางการรักษาและป้องกัน และ แย่สุดคือ มันจะอยู่กับเราตลอดไปเป็นเพื่อนบ้านนิสัยเลวรายใหม่ ตอนนี้เรายังอยู่ไกลจากสถานการณ์ที่จะตอบแบบฟันธงลงไปได้เลยว่าไพ่จะไปออกหน้าไหน
 
ปัจจุบันแม้จะเพิ่งเป็นเพียงเริ่มต้นวิกฤติการณ์ ตัวเลขของความเสียหายทางเศรษฐกิจรวมๆกันแล้วทั่วโลกก็หลายๆล้านๆ ยูเอส เพราะไม่มีธุรกิจไหนรอดพ้นไปจากหายนะครั้งนี้ได้เลย มีแต่โดนเต็มๆ โดนเฉียดๆ โดนหางๆ มากบ้างน้อยบ้าง มีรอดรายเดียวคืออุตสาหกรรมทำเครื่องมือทางการแพทย์ นอกเหนือจากนี้ท่านก็ต้องเรียกฝ่ายการเงินมาคุยแล้ว ว่าสถานการณ์แบบนี้กิจการของท่านจะ ทนยืนระยะต่อไปได้อีกเท่าไร เพราะคงไม่มีเทวดาฟ้าดินที่ไหน ยื่นมือมายัดเงินใส่มือท่านได้แน่ๆ ในสถานสถานการณ์มีแต่จะทรงกับทรุดลง จนกว่าจะมีเหตุการณ์ที่มีประจุบวกมากระตุ้นให้แรงพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นของคนให้ดีขึ้นนั่นแหละ ถึงจะเป็นจุดเริ่มต้นของการโงหัว
แต่หลังจากการโงหัวขึ้นครั้งนี้ เราจะค่อยๆโงหัวขึ้นมาทีละนิดๆนะครับ ไม่ได้กระโดดลุกขึ้นมาเลย เพราะทุกคนต่างก็โดนมาหนักๆด้วยกันทุกคน หลายๆอย่างจะเปลี่ยนไปตามความรู้และประสบการณ์ที่ Covid 19 ฝากรอยแผลเป็นไว้ให้ เรื่องลบๆที่มีมากมายกล่าวถึงไม่หมดจะของดเว้นไม่กล่าวถึง เป็นการซ้ำเติมเพิ่มความเครียด จะขอพูดแต่ด้านดีๆที่เกิดขึ้นแน่ในมุมมองของนักคาดเดาสถานการณ์ หลังการผ่านพ้นไปของ Covid 19 ก็คือ
๑.เป็นจุดเริ่มต้นศักราชใหม่ของธุรกิจเกี่ยวข้องกับสุขภาพ ในประเทศไทย แต่ก่อนแต่ไร เรื่องสุขภาพมักจะเป็นหัวข้อสนทนา และเป็นที่พูดถึงกันในหมู่คนสูงอายุ และ คนที่มีปัญหาด้านสุขภาพอยู่แล้วเท่านั้น หลังจากการแพร่ระบาดของ Covid 19 นี้ผ่านไปแล้ว เรื่องสุขภาพจะกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวทุกๆคนมากยิ่งขึ้น และ ทุกๆคนก็จะหันมาใส่ใจในสุขภาพของตัวเองและคนสำคัญในครอบครัวมากขึ้น
๒.ธุรกิจดิลิเวอรี่ เบ่งบาน ในช่วงที่ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนมีความจำเป็นต้องสั่ง สินค้าสารพัดจะสั่งผ่านเพลทฟอร์มการจัดส่งสินค้ามาถึงบ้าน แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้ว ความสะดวกสบายที่เคยได้รับจากการมีสินค้า อาหารการกิน การอยู่ สารพัดจะส่ง ส่งมาถึงบ้าน มันเป็นความสุข ความสะดวกสบายที่ลืมไม่ลงจริงๆ ดังนั้นธุรกิจดีลิเวอร์รี่ จะเติบโตต่อเนื่องต่อไปอีก
๓.มิตรภาพ และ ภาพพจน์ระหว่างคนชาติต่างๆ จะเปลี่ยนไป ส่งให้เกิดผลต่อพฤติกรรมในการติดต่อกันระหว่างประเทศเปลี่ยนไปด้วย ชาวตะวันตก กับ ชาวตะวันออก จะมีความรู้สึกแปลกแยกกันมากยิ่งขึ้น คนตะวันตกมักจะมองคนหัวดำทั่วไปไปว่าเป็นคนจีน ทั้งที่คนมองโกลอยด์ ตาตี่หัวดำ มีตั้งหลายชาติ แต่เราจะโดนเหมารวมไปเป็นคนจีนหมด แล้วก็ตั้งข้อรังเกียจ ว่าเราเป็นตัวต้นเหตุของเชื้อโรค ด้วยเหตุนี้เอง คนจีนจะเลิกไปยุโรปอเมริกาหันมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้นกว่าเก่า จากการตั้งข้อรังเกียจของคนตะวันตก และ จีนเองก็ชื่นชมบาทบาทของไทยเราในช่วงที่จีนประสบปัญหา Covid19 อย่างหนักในช่วงแรกๆหลายต่อหลายเรื่อง ต่อไปคนไทยทำอะไรกับคนจีนทุกๆอย่างจะง่ายขึ้น สะดวกขึ้นด้วยการมีภาพพจน์ที่ดีต่อกันเป็นต้นทุน.
๔.ชื่อเสียงด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพของไทย เป็นที่รู้จักอย่างก้าวกระโดด จากการที่เราเป็นประเทศที่เริ่มมีผู้ป่วยติดเชื้อ Covid 19 เป็นประเทศที่สองของโลกถัดจากจีนแต่การดูแลจัดการเรื่องการป้องกันรักษาผู้ป่วยของเราสามารถทำได้เป็นอย่างดี ผู้ป่วยรายใหม่ของเราเพิ่มขึ้นน้อยมากจนไทยเราหล่นลงไปอยู่อันดับท้ายๆตาราง ซึ่งแสดงให้ทั่วโลกเห็นกันชัดๆว่า การสารธารณสุขของเรานั้นมีการจัดการที่ดีและมีความก้าวหน้าเป็นอันมาก ซึ่งเป็นผลดีต่อความน่าเชื่อถือในธุรกิจ Medical , Health and Wellness ของเราในอนาคต.
ตอนนี้ขอให้ทุกคนระมัดระวังตัวเองและมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย อย่านึกว่าเป็นเรื่องเล่นๆ ไม่ใช่เป็นแล้วเดี่ยวเดียวหายเหมือนไข้หวัดธรรมดา เป็นแล้วปอดคุณจะพังทำงานได้ไม่เต็มที่ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในเคสหนักทุกเคส แล้วคุณว่าเครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาลของเรานั้นมีมากมายแค่ไหน โรงพยาบาลประจำอำเภอบางแห่งมีเครื่องเดียว สองเครื่อง ถึงเวลาจะไปถอดของคนที่ใส่อยู่มาใส่ให้คนป่วยรายใหม่ได้ไหม ก็ไม่ได้ ดังนั้นห้ามนำตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดเสี่ยง จุดที่ต้องสัมผัสร่วมกับผู้อื่นต้องสัมผัสโดยมีเครื่องป้องกัน หมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ให้ติดเป็นนิสัย ถ้าทำได้อย่างนี้เราจะผ่านสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัยทุกๆคน.
โฆษณา