วันนี้ เป็นวันที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงมากกว่า 10% ในวันเดียว
ซึ่งถ้านับตั้งแต่เปิดปี 2020 มา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปแล้วกว่า 30%
มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย....
ตลาดหุ้นจะลงต่ออีกไหม ?
ตลาดจะกลับมาขึ้นหรือยัง ?
ลงทุนอยู่ ควรขายหุ้นออกมาหมด และถือเงินสดดีไหม ?
มีเงินอยู่ ควรซื้อหุ้นตอนนี้เลยรึเปล่า ?
ซึ่งการจะได้คำตอบที่ถูกต้อง 100% นั้น คงไม่มีใครให้ได้
แต่เราพอจะหาคำตอบที่ “ดีพอใช้ได้” ด้วยตัวเอง ผ่าน “หลักการพื้นฐานด้านการลงทุน”
1.อย่าคาดเดาตลาดหุ้นมาก ให้มุ่งไปที่การวิเคราะห์เป็นรายธุรกิจ
เพราะการลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นนั้น คือ “การลงทุนในธุรกิจ”
การพยายามคาดเดาทิศทางของตลาดหุ้นในระยะสั้นนั้นทำได้ยาก
หรือการพยายามหาจุดต่ำสุดเพื่อเข้าลงทุนนั้น ก็ไม่มีใครรู้จริง
สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ คือการวิเคราะห์และเลือกหุ้นเป็นรายตัว
แทนที่เราจะถามว่า ตลาดหุ้นจะลงต่ออีกไหม?
เราควรถามว่า “ธุรกิจที่เราชอบ...ราคาลงมาจนเราอยากเป็นเจ้าของแล้วหรือยัง ?”
2.ฝึกฝนการวิเคราะห์ธุรกิจ และการประเมินมูลค่า
การจะรู้ว่าหุ้นนั้น ถูกหรือแพง และน่าลงทุนหรือไม่ คือ “เราต้องเข้าใจในธุรกิจนั้น”
ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาของการ “หาข้อมูลของธุรกิจหรือหุ้นที่เราสนใจให้ได้มากที่สุด”
อ่าน อ่าน และอ่าน เพื่อเข้าใจธุรกิจ วิเคราะห์การเติบโต สภาวะการแข่งขัน ผู้บริหาร
รวมถึงการหัดประเมินมูลค่าของหุ้นตัวนั้น ว่าธุรกิจนี้ควรจะมีมูลค่าอยู่ที่เท่าไหร่
ราคาไหนที่คุ้มค่ากับการเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น
3.เย็นให้เป็น รอให้ได้ มองความเสี่ยงมาก่อนผลตอบแทน
การลงทุนในระยะยาวที่ดีนั้น จะไม่ใช่การวิ่งตามหาโอกาส
แต่คือการ “รอโอกาสที่พอเหมาะมาถึง”
ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ควรวิเคราะห์ข้อมูลและตกผลึกให้ดีเสียก่อน
เพราะตลาดหุ้นไม่ได้หนีไปไหน ไม่ต้องกลัวซื้อไม่ทัน ไม่ต้องกลัวไม่ได้กำไร
สิ่งที่ควรกลัวมากกว่า คือ “ควรกลัวการขาดทุน”
4.ความผันผวน เมื่อเห็นหุ้นลงเยอะๆนั้น ไม่ใช่ความเสี่ยง
ความเสี่ยงที่แท้จริง คือการขาดทุนที่ถาวร
แต่ความผันผวนของราคาหุ้น โดยเฉพาะเวลาปรับตัวลงแรงๆ
กลับเป็น “โอกาสของนักลงทุนระยะยาว”
สมมุติถ้าธุรกิจที่เราสนใจลงทุน เราประเมินแล้วว่าควรมีมูลค่า 100 บาท
และราคา 70 บาทเป็นราคาที่เราอยากเข้าซื้อ เพื่อคาดหวังผลตอบแทน 30 บาท
การที่ตลาดหุ้นผันผวน จนทำให้ราคาหุ้นตกลงแรงมาอยู่ที่ 50 บาท
การเข้าซื้อตรงนั้น นอกจากจะทำให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นแล้ว
ความเสี่ยงของการลงทุนนั้นยังลดลงอีกด้วย
5. มองภาพระยะยาว และทุกอย่างจะผ่านไป
เราน่าจะกำลังอยู่ในช่วงของวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนึงแล้ว ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
และอย่างที่เราได้เคยได้ยินมา “วิกฤติก็คือโอกาส” แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวเราเท่านั้น
หาความรู้ เตรียมตัวเองให้พร้อม มีเป้าหมาย มีความหวัง แล้วเราจะผ่านไปด้วยกัน
โดยไม่ต้องมาเสียดายว่า “รู้งี้...........”
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
