13 มี.ค. 2020 เวลา 18:51
สวัสดีครับ พบกับ เต้ อีกเช่นเคยครับ วันนี้ก็ได้เปิด Category ใหม่ในการรีวิวของผมก็คือ...เครื่องกรองน้ำของ STIEBEL ELTRON รุ่น Fountain 7S ผมเชื่อว่าหลายคนก็อาจจะรู้จัก หรืออาจจะไม่รู้จักยี่ห้อ STIEBEL ELTRON แต่ส่วนตัวผมรู้จักมาตั้งแต่เด็ก เมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งที่บ้านผมเลือกใช้เครื่องทำน้ำอุ่นของ STIEBEL ELTRON จึงทำผมรู้จัก STIEBEL ELTRON มาจนถึงทุกวันนี้ ^^;
ส่วนตัวผมที่บ้านมีการใช้เครื่องกรองน้ำแบบ 5 ขั้นตอนมาก่อน เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา แต่พอย้ายบ้านช่วงปลายปี 2019 ก็ไม่ได้ใช้เครื่องกรองอีกเลย...ซึ่งส่วนตัวผมรู้สึกว่าน้ำที่ออกมาจากเครื่องกรองน้ำจะให้รสชาติที่ดีกว่า หลายคนคิดว่า น้ำเปล่ามันจะมีรสชาติได้ยังไง? ถ้าผมพูดถึงน้ำยี่ห้อ สิงห์ ทุกคนอาจจะทราบว่าน้ำจะมีรสชาติที่แตกต่างจากยี่ห้ออื่น ^^;
และปัจจุบันที่บ้านผมก็ได้ซื้อน้ำถังใสมา ซึ่งแต่ละพื้นที่หรือแต่ละยี่ห้อก็จะมีรสชาติที่ต่างกัน...และผมจะบอกนิดนึงว่าน้ำประปาในพื้นที่แถวบ้านผมไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ที่บ้านก็เลยบอกว่าซื้อน้ำดื่มดีกว่า เพราะกลัวเครื่องกรองจะกรองไม่ไหวหรือต้องไส้กรองบางตัวตันเร็ว แต่เดี๋ยวเรามาลองกับ STIEBEL ELTRON Fountain 7S กันดูครับว่าจะไหวมั้ย โดยผมจะมีปากกาวัดคุณภาพน้ำของ Xiaomi มาใช้ทดสอบคุณภาพน้ำด้วยครับ
ไม่รอช้า เรามาเริ่มดูรอบกล่องกันก่อนนะครับ
หน้ากล่องก็จะมีรูปเครื่องกรองน้ำ STIEBEL ELTRON Fountain 7S ซึ่งสีของตัวเครื่องผมได้สีคอปเปอร์โกลด์มาครับ
มาดูข้างกล่องก็จะเจอกับสัญลักษณ์มาตรฐานคุณภาพการกรองน้ำต่างๆ ซึ่งสัญลักษณ์ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยก็คงเป็นมาตรฐาน NSF ที่มีติดอยู่ข้างขวดน้ำหลายๆยี่ห้อที่ขายในบ้านเรา
เมื่อเปิดกล่องขึ้นมาก็จะเจอกับกล่องอุปกรณ์ซึ่งประกอบไปด้วย คู่มือ ใบรับประกัน สายพลาสติก ท่ออ่อน วาล์วน้ำและแหวนรอง แบบ ถ่าน AA 2 ก้อน ข้อต่อท่อติดหัวก๊อปน้ำอีก 3 แบบ ที่ขันล็อคสายพลาสติก
สเปกและภายนอกตัวเครื่อง
ภายนอกของตัวเครื่องจะเป็นลักษณะทูโทน หรือสองสี และดีไซน์จะไม่ค่อยเหมือนเครื่องกรองน้ำทั่วๆ จึงทำให้เข้ากับสิ่งของรอบๆได้ง่าย และมีขนาดเล็ก
สเปก
ตัวเครื่องจะมีขนาด 370 x 220 x 185 มิลลิเมตร วัสดุของตัวเครื่องก็จะเป็นพลาสติก ABS ที่มีโครงสร้างทนทานความแข็งแรงและทนต่อแรงกระแทกได้ดีกว่าพลาสติกทั่วไป แรงดันน้ำที่ตัวเครื่องต่ำสุดที่ทำงานได้ 1 บาร์ และแรงดันน้ำสูงสุดที่เครื่องทำงานได้คือ 4 บาร์ อุณหภูมิที่เครื่องสามารถทำงานได้ตั้งแต่ 4-35 องศาเซลเซียส
ซึ่งจุดที่เป็นสี Copper Gold ก็จะมีส่วนของฐานตัวเครื่องไปจนถึงด้านหลังและฝาปิดด้านบนเลย วาล์วเปิดปิดน้ำด้านหน้า ก็จะเป็นสี Copper Gold เช่นกัน
วิธีการติดตั้ง
สามารถดูตามวีดีโอด้านล่างนี้ได้เช่นกัน
ผมขอบอกเลยว่า STIEBEL ELTRON Fountain 7S เป็นเครื่องกรองน้ำที่ติดตั้งง่ายมากๆ...ยกตัวเครื่องมาวางไว้ในจุดที่จะใช้งาน แล้วเปิดฝาครอบตัวเครื่องด้านบนออก
เปิดช่องใส่ถ่านแล้วใส่ถ่านขนาด AA 2 ก้อนที่ให้มาในกล่องเข้าไป
ปิดฝาครอบบนตัวเครื่องให้สนิท แล้วต่อท่ออ่อนโดยหมุนเกลียวด้านล่างให้แน่น
ตัวเครื่องสามารถติดตั้งได้ทั้งการแขวนผนัง หรือวางไว้บนเค้าน์เตอร์อ่างล้างจานก็ได้ซึ่งด้านหลังก็จะมีช่องสำหรับใส่ที่แขวนอยู่ แต่ผมเลือกที่จะวางไว้ที่เค้าน์เตอร์อ่างล้างจาน เพราะสายยางพลาสติกมีความยาวพอดีกับจุดที่จะวางพอดี
การติดตั้งเครื่องกรองสามารถทำได้หลายวิธี แต่สำหรับอุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง จะแนะนำให้เราติดตั้งกับก๊อกน้ำในอ่างล้างจานซึ่งโดยทั่วไปก๊อกน้ำตรงนี้จะมีเกลียวที่ปลายก๊อก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าใครที่ใช้รูปแบบนอกเหนือจากนี้ ในกล่องก็จะมีเกลียวให้เปลี่ยนได้อีกสามแบบ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆก็จะต้องติดตั้งอีกรูปแบบคือการต่อจากท่อน้ำที่ใกล้ที่สุดโดยการใช้วาล์วน้ำ 3 ทาง ที่สามารถหาซื้อได้ที่ร้านเครื่องกรองน้ำหรือห้างที่มีเครื่องกรองน้ำขายก็ได้ครับ
การติดตั้งก็คือ คลายเกลียวเล็กๆด้านขวาออกก่อน แล้วไปใส่กับท่อสีขาว นำท่อน้ำสีขาวเสียบเข้ากับวาล์วน้ำให้แน่น แล้วหมุนเกลียวเล็กๆ ล็อคเข้ากับวาล์วน้ำ ต่อมาก็ นำวาล์วน้ำไปติดกับปลายก๊อกน้ำแล้วหมุนให้แน่น แค่นี้ก็เสร็จแล้ว...ต่อมาก็เช็คว่ามีน้ำรั่วออกจุดไหนมั้ยเมื่อเปิดน้ำ ซึ่งด้านซ้ายก็จะเป็นวาล์วปิดเปิดน้ำเข้าเครื่องกรองหรือจะให้ออกก๊อกน้ำ
ถ้าวาล์วน้ำชี้ลงแบบนี้ก็จะเป็นการเปิดให้น้ำไหลออกก๊อกน้ำปกติ
แต่เมื่อเราเปิดวาล์วน้ำไปด้านหลังแบบนี้ เป็นการเปิดน้ำให้เข้าเครื่องกรอง
ผมขอเสริมอีกนิดเรื่องน้ำที่ออกจากก๊อก ไม่ว่าก๊อกน้ำเดิมเราน้ำจะออกมาเป็นแบบไหน แต่พอใส่วาล์วน้ำที่ได้มาในกล่อง...น้ำที่ออกมาจะเป็นแบบฟู่ๆ แบบที่มีฟองอากาศมาด้วย ซึ่งเวลาล้างจาน มันก็จะไม่กระเด็นเหมือนน้ำที่ออกมาจากก๊อกล้วนๆ ซึ่งโอเคมากครับ ^^;
ต่อมาเราก็เสียบท่อน้ำเข้าเครื่องกรอง และใช้เครื่องมือที่ให้มาในกล่อง ขัน ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจว่าขันแบบไหน เพราะขันไปทางไหนมันก็ไม่แน่น แต่สรุปคือ ขันยังไงก็ได้ แต่ขอให้ตอนเปิดน้ำแล้วน้ำไม่รั่วออกเป็นใช้ได้ครับ 555+ แต่สิ่งที่สำคัญคือพยามเสียบสายน้ำให้ลึกจนสุดจะดีที่สุดครับ
แค่นี้การติดตั้งก็เสร็จแล้วครับ
และเมื่อเช็คจุดเชื่อมท่อน้ำต่างๆ ว่าไม่มีน้ำรั่วออกแล้ว ก็ทำการเปิดวาล์วน้ำให้น้ำเข้าเครื่องกรอง แล้วเปิดวาล์วน้ำที่เครื่องกรองไปที่คำว่า OPEN และเปิดน้ำทิ้งไว้ซักประมาณ 10 นาที ตาที่คู่มือได้แจ้งไว้
คุณภาพน้ำหลังกรอง
แน่นอนว่าคุณภาพน้ำที่ออกจากเครื่องกรองนั้นต้องเป็นน้ำสะอาดแน่นอน แต่สิ่งที่ผมเห็นความแตกต่างชัดเจนคือเรื่องของรสชาติของน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่บ้านผมได้ซื้อน้ำถังมาดื่ม ซึ่งรสชาติก็จะเป็นน้ำธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แค่กินแล้วอาจจะรู้สึกฝาดลิ้นนิดหน่อย อาจจะเป็นเพราะมันกรองมาสะอาดและไม่มีแร่ธาตุใดๆ
จากการทดลองของผมคือ ผมใช้ปากกาวัดคุณภาพน้ำของ Xiaomi ซึ่งก่อนกรอง ค่าของน้ำประปา ก็จะอยู่ที่ประมาณ 245 ppm
แต่พอวัดกับน้ำที่ซื้อกิน หรือน้ำที่ไปกรอกตามตู้กดน้ำ 1.5 ลิตร ราคา 1 บาท ผลที่ได้คือค่าเป็น 5 ppm นั่นหมายความว่าน้ำสะอาด ใช้ดื่มได้ แต่ไม่มีแร่ธาตุ
แต่พอมาวัดค่ากับเครื่องกรอง STIEBEL ELTRON Fountain 7S กลับพบว่าตัวเลขที่ออกมา สูงพอๆกับน้ำประปาที่บ้าน...ซึ่งตอนแรกผมก็ตกใจครับ แต่พอหาคำตอบดู คือ ตัวเลขที่สูง ไม่ได้หมายความว่าน้ำไม่สะอาดอย่างเดียว แต่น้ำที่ผ่านเครื่องกรองแล้วมีค่าที่สูง คือน้ำนั้นมีแร่ธาตุต่างๆอยู่ในน้ำ และพอย้อนไปดูคุณสมบัติไส้กรองของ STIEBEL ELTRON Fountain 7S ก็พบว่ามีขั้นตอนนึงที่มีการเพิ่มรังสีอินฟาเรดและแร่ธาตุ และเพิ่มไออนประจุลบเข้าไปด้วย ซึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เครื่องวัดคุณภาพน้ำมีค่าตัวเลขที่สูง...ผมอยากจะบอกว่าเครื่องวัดคุณภาพน้ำจะไม่เหมาะกับเครื่องกรองน้ำที่มีการเพิ่มแร่ธาตุในน้ำนะครับ ^^;
และสิ่งที่สำคัญคือเรื่องรสชาติ ซึ่งผมบอกตามตรงเลยว่า น้ำที่ผ่านเครื่องกรอง STIEBEL ELTRON Fountain 7S ไส้กรองจะมีสองขั้นตอนที่มีการเพิ่มรังสีอินฟาเรด และแร่ธาตุ และเพิ่มไออนประจุลบซึ่งทำให้น้ำมีรสชาติดีขึ้น ซึ่งรสชาติของน้ำที่ผมสัมผัส จะใกล้เคียงกับน้ำดื่มยี่ห้อ Nestlé Pure Life และมีความใกล้เคียงกับน้ำสิงห์ แต่รสชาติของน้ำโดยรวมจะใกล้เคียงกับน้ำดื่ม Nestlé Pure Life มากกว่าครับ
เรื่องรสชาติ ที่บ้านผมเคยบอกว่าน้ำยี่ห้อไหนๆก็รสชาติเหมือนกันแหละ ไม่ต่างกัน...ซึ่งพอผ่านไปซัก 2 สัปดาห์ พอสมาชิกในบ้านดื่มน้ำที่มาจากเครื่องกรอง STIEBEL ELTRON Fountain 7S จนชิน แล้วไปบ้านที่ต่างจังหวัด และดื่มน้ำที่ซื้อดื่มประจำ ที่บ้านบอกเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า น้ำที่ซื้อดื่มประจำมันฝาดลิ้นนิดหน่อย คือพูดง่ายๆว่า น้ำที่ซื้อดื่มเป็นน้ำบริสุทธิ์ที่สะอาด ผ่านเครื่องกรองมา แต่ไม่มีแร่ธาตุใดๆนั่นเอง สมาชิกในบ้านก็บอกว่าน้ำที่มาจากเครื่องกรอง STIEBEL ELTRON Fountain 7S ดื่มง่ายกว่าและสัมผัสของน้ำมันต่างกัน…
ไส้กรอง
4
ด้านบนของเครื่องกรอง ก็จะมีไฟแสดงสถานะของตัวเครื่อง โดยซ้ายสุดที่เป็นรูปแก้วน้ำ จะมีไฟสีน้ำเงินกระพริบขึ้นมาในขณะที่เรากำลังใช้เครื่องกรองน้ำ คือมีการใช้งาน 1-11 เดือน หรือ มีการกรองน้ำน้อยกว่า 4,000 ลิตร
ไฟดวงที่สองเป็นไฟสีแดง ถ้าขึ้นไฟสีแดง แสดงว่า ต้องเปลี่ยนไส้กรอง เพราะมีการใช้งานเกิน 11 เดือน หรือมีการกรองน้ำแล้ว 4,000-4,320 ลิตร
ไฟดวงที่สามเป็นสีเหลืองและกระพริบหมายถึงแบตเตอรี่อ่อน ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่
ไฟและการแจ้งเตือนอื่นๆนอกจากที่กล่าวมา สามารถดูได้จากคู่มือนะครับผม ^^;
ส่วนการเปลี่ยนไส้กรองทุกครั้งต้องทำการตั้งค่าการทำงานใหม่ทุกครั้ง ซึ่งสามารถดูได้ในคู่มือเช่นกันครับผม ^^;
วิธีการถอดไส้กรอง
สามารถดูวิธีเปลี่ยนไส้กรองได้จากวีดีโอนี้ได้ครับ
วิธีถอดไส้กรอง STIEBEL ELTRON Fountain 7S เริ่มจากการถอดท่ออ่อนออกก่อน แล้วเปิดฝาครอบ แล้วจะเจอกับตัวล็อคด้านในให้จับสองมือแล้วหมุนไปด้านทวนเข็มนาฬิกา
เมื่อถอดตัวล็อคออกแล้ว ใช้สองมือและใช้นิ้วโป้งดึงออกไปทางด้านข้าง ซึ่งจะเป็นการยกไส้กรองขึ้นมาในระดับหนึ่ง
เมื่อเราถ่างตัวดันไส้กรองจนสุดแล้ว ก็ทำการยกไส้กรองออกได้เลย...การยกไส้กรองน้ำเมื่อใช้งานมาเป็นเวลานานอาจจะดึงขึ้นยากซักหน่อย
ไส้กรองจริงๆจะต้องทำการหมุนกระบอกสีขาวออกมาจากชิ้นส่วนด้านบนออกมา
และนี่คือไส้กรองของ STIEBEL ELTRON Fountain 7S ที่สามารถหาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านค้าออนไลน์ ในราคาเพียง 3,190 บาท เท่านั้น และ เปลี่ยนแค่ตัวเดียวเท่านั้น
สรุป
สำหรับเครื่องกรองน้ำ STIEBEL ELTRON Fountain 7S ผมมองว่าเป็นเครื่องกรองน้ำที่ติดตั้งง่ายมาก และไม่ใช้ไฟฟ้า และสามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเอง...ตัวเครื่องราคา 12,900 บาท หลายคนอาจจะมองว่าแพงไปมั้ย ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าเป็นเครื่องกรองที่กรองน้ำแบบไม่มีแร่ธาตุ ผมก็มองว่าแพง แต่ถ้ากรองน้ำแล้วมีแร่ธาตุออกมาแล้วทำให้น้ำมีสัมผัสที่ดีกว่ากรองราคาที่ถูกกว่า ส่วนตัวผมมองว่าคุ้มครับ
และอีกประเด็นที่สำคัญคือ ไส้กรอง...ตอนแรกผมนึกว่าเครื่องราคาขนาดนี้ ราคาไส้กรองต้องแพงแน่ๆเลย...แต่ผมคิดผิด ในเว็บไซต์ของห้างต่างๆ ราคาขายอยู่ที่ 3,190 บาทเท่านั้นและเปลี่ยนแค่ชิ้นเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนทีละตัวหรือเปลี่ยนยกชุดหลายๆตัว ซึ่งไส้กรองตัวนี้เป็นการกรองแบบ 7 ขั้นตอนใน 1 ไส้กรองซึ่งเป็นอะไรที่ดีมาก แล้วไส้กรองเปลี่ยนไม่ยาก ไม่ต้องถอดสายอะไรเลย สามารถทำได้ด้วยตัวเองเช่นกัน...แต่การที่ไส้กรองเป็นแบบ All In One ก็อาจจะทำให้อายุไส้กรองน้อยกว่าไส้กรองที่เป็นแบบแยกและที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่ง ไส้กรองของ STIEBEL ELTRON Fountain 7S สามารถกรองน้ำได้สูงสุดที่ 4,320 ลิตร และเมื่อถึงจำนวนลิตรที่ระบุไว้ ตัวเครื่องก็จะมีการแจ้งเตือนให้เปลี่ยนไส้กรองด้วย
เรื่องน้ำ มั่นใจ สตีเบล เอลทรอน จากเยอรมนี #WeUseSTIEBEL #Fountain7S #STIEBELELTRON
เครื่องกรองน้ำ รุ่น Fountain 7S มีวางจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา เช่น ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านค้าออนไลน์ เพียงเสิร์ช STIEBEL ELTRON Official Store ที่ Shopee, Lazada และ JD Central
พิเศษ! เฉพาะเดือน มีนาคม 2563
เพียงกรอกโค้ด “HG04”
เมื่อซื้อ เครื่องกรองน้ำ Fountain 7S ที่ บุญถาวร ออนไลน์ ลดทันที 1,000 บาท
เหลือเพียง 11,900 บาท (จากราคา 12,900 บาท)
1
ช้อปเลย > htt
p://bit.ly/boonth-untitle36
ขอบคุณที่ดูรีวิวเครื่องกรองน้ำ STIEBEL ELTRON Fountain 7S ของผมด้วยครับ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ หรือมีอะไรเพิ่มเติมหรือแก้ไขก็บอกกันได้นะครับ สำหรับวันนี้ ลาไปก่อน สวัสดีครับ
โฆษณา