ว่าด้วยเรื่องความเหมาะสมของคนที่จะมาทำบ้านเรียน
โพสต์นี้จะยาวๆ นิดหนึ่ง
เราต้องพร้อมขนาดไหนจึงจะทำบ้านเรียนได้???
พ่อต้องรวยขนาดไหนจึงจะไม่ลำบาก???
แม่ต้องจบอะไรจึงจะสามารถสอนลูกได้???
อยากตอบสั้นๆ ง่ายๆ แต่กลัวไม่เข้าใจในหลายๆ คน
การจัดการศึกษาโดยครอบครัว หรือบ้านเรียน(Homeschool)
เป็นการจัดการที่ครอบครัวเป็นเสมือนสถานศึกษา
แต่ไม่ได้บอกว่า พ่อแม่ต้องเป็นครูนะ
แต่คือพ่อแม่ผู้ปกครองคือผู้จัดการศึกษาให้ เป็นโค้ช เป็นที่ปรึกษา เป็นคนที่คอยให้คำแนะนำ และสนับสนุนส่งเสริมในสิ่งที่ผู้เรียนสนใจ ให้ลูกได้เติบโตและก้าวไปบนเส้นทางที่ตนเองถนัด เหมาะกับเขา
เราเรียนรู้กันตามวิถีชีวิต ซึ่งเป็นเสมือนการเรียนรู้ในการดำเนินชีวิต การดำรงชีวิต เรียนรู้ที่จะอยู่รอด เรียนรู้ในเรื่องที่จำเป็นและสำคัญต่อการเติบโตและดำรงอยู่ในสังคม ในบ้านเมือง หรือในประเทศโลกที่ดำเนินอยู่อย่างเป็นปัจจุบัน
เพราะฉะนั้น คนที่จะทำบ้านเรียน ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า
ไม่ต้องมีอิสระทางการเงินถึงจะทำได้
ไม่ต้องจบดร.
ไม่ต้องเป็นศาสตราจารย์
แต่ความรู้ที่จำเป็นยิ่งกว่าตำแหน่งทางสังคมหรือใบปริญญานั่นก็คือ การให้โอกาสลูกได้เติบโตเรียนรู้ไปในทุกๆ ด้านทุกความสงสัยของชีวิต ให้ลูกได้ค้นหาคำตอบด้วยตนเอง สอนการดำรงชีพ การอยู่ในสังคมอย่างเท่าเทียม ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เคารพตนเองและรู้จักเคารพผู้อื่น
สิ่งใดที่พ่อแม่มีทักษะหรือเป็นความรู้เกี่ยวกับอาชีพการงานของครอบครัวอยู่แล้ว ลูกก็สามารถร่วมด้วยช่วยกันและเรียนรู้ไปด้วยกันได้ ทักษะใดที่ลูกยังไม่รู้ พ่อแม่ก็ไม่รู้ ครอบครัวมานั่งคุยกันว่าทำอย่างไรจึงจะรู้ มีแหล่งความรู้มากมายให้เราหยิบฉวย จากไม่รู้ก็จะได้รู้ไปด้วยกัน พ่อแม่ก็เรียนรู้ไปด้วยกันกับลูก
อย่างอาชีพของเราหากลูกสนใจหรือเป็นจังหวะการแบ่งปันกันระหว่างพ่อแม่ลูก สามารถถ่ายทอดหรือสื่อสารกันได้ว่าเราทำงานอย่างไร ต้องเหนื่อยแค่ไหน ชีวิตอย่างที่แม่เป็นอย่างที่พ่อเป็นในทุกวันนี้ เปิดเผยให้ลูกได้เห็นได้รับรู้ ค่อยๆ เรียนรู้ค่อยๆ บอกเล่าเดินทางเติบโตไปด้วยกัน
โอกาสเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าแม้แต่พ่อแม่ยังให้ลูกไม่ได้ ใครคนอื่นจะให้ได้เล่า หรือจะให้ก็ต่อเมื่อเห็นประโยชน์จากลูกใช่ไหม ตอนนี้เราให้โอกาสกับลูกได้ ก็อย่าละเลยที่จะทำนะคะ
(ถ้ามีโอกาสนะคะ ไม่ได้บอกว่าถ้ามีเวลา ทุกคนมีเวลาเท่ากัน ^_^ )
การให้ลูกได้สัมผัสอะไรหลากหลาย เค้าจะได้ลองได้รู้
ถามตัวเราเอง....
หากเรารู้ตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อนว่างานที่เราทำนี้มีกระบวนการอย่างไร ทำอย่างไร และพบว่า งานนี้โค-ตะ-ระน่าเบื่อและไม่เหมาะกับเราเลย วันนั้นเราคงเปลี่ยนงานได้อย่างไม่ต้องยี่หระ หรือหากได้สัมผัสและค้นพบแล้วว่า นี่คือสิ่งที่ใช่ นี่คืองานที่เราจะทำอย่างมีความสุขและสามารถอยู่ไปกับมันได้จนวันตาย ก็จะยิ่งทำให้เรามีโอกาสมากขึ้น เต็มที่กับการใส่ใจศึกษา และพัฒนาศักยภาพต่อไปให้งานเราดียิ่งขึ้น และถ้าวันนี้เด็กเราจะมีสิทธิ์ที่จะได้รับโอกาสนั้น ได้เห็น ได้รู้ ได้สัมผัสและรู้จักแนวทางตนเอง ค้นพบตัวเองก่อน
มันจะดีแค่ไหน...
หากได้เรียนรู้และทำในสิ่งที่ใจหลงรัก ความใฝ่รู้ที่จะเรียนมันจะเกิด ต่อให้เหนื่อยหนักแค่ไหน เชื่อเถอะว่า เด็กจะขวนขวายหาความรู้และทำให้สำเร็จจนได้สักวัน
โฮมสคูล จึงไม่จำเป็นว่า พ่อแม่ต้องรวยหรือจบการศึกษาความรู้สูงส่ง
สิ่งสำคัญคือ ใจค่ะ เชื่อใจ มั่นใจ วางใจ และใจเย็นพอที่จะรอ
ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นโฮมสคูล
อยู่ในระบบการศึกษาใด หากมันใช่ เด็กชอบและมีความสุขที่จะทำ
ในฐานะพ่อแม่ผู้สนับสนุนผลักพันให้เต็มที่เลยค่ะ
ส่งพลังใจให้พ่อแม่ทุกคนนะคะ 💖💖😍😍
ภาพและบทความโดย แม่หญิง 23032563 (13032563)
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
