Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Everything is SCIENCE
•
ติดตาม
14 มี.ค. 2020 เวลา 13:47 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
การเข้าสู่ เฟส (Phase) 3 ของ COVID-19 ในประเทศไทย ?
รูปภาพจาก Pixabay
รายงานการพบผู้ป่วยโรค Covid-19 ในไทยเริ่มมีแนวโน้มที่สูงขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ปัจจุบัน (14 มีนาคม) มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 82 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อบางรายมีประวัติการคลุกคลีกับผู้ป่วยที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่น คนในครอบครัว เป็นต้น
นี่เป็นสัญญาณที่เริ่มบ่งบอกว่าการระบาดของ COVID-19 ในไทยกำลังจะเข้าสู่ Phase ที่ 3 แล้ว
ว่าแต่ phase มันคืออะไร ?
หน่วยงานด้านสาธารณสุขแบ่งระยะของการระบาดออกเป็น 3 Phase หลักๆ
Phase 1 = ไปเที่ยวในประเทศกลุ่มเสี่ยงแล้วดันติดโรค
กล่าวคือ ผู้ติดเชื้อได้รับเชื้อจากการไปเที่ยวในประเทศกลุ่มเสี่ยง แล้วตรวจพบหลังจากกลับมา โดยไม่ได้มีการติดเชื้อเกิดขึ้นในประเทศ
Phase 2 = เพื่อนไปเที่ยวประเทศเสี่ยงก็เลยติดจากเพื่อนซะอย่างนั้น
เป็นการติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วยที่มาจากกลุ่มเสี่ยง เช่น นักท่องเที่ยว หรือ คนไทย ที่กลับจากประเทศเสี่ยง โดยตัวผู้ติดเชื้อต่อที่สองไม่ได้มีประวัติการออกนอกประเทศ ยกตัวอย่างเช่น แท็กซี่ที่ต้องสัมผัสกับกลุ่มผู้โดยสารกลุ่มเสี่ยงต่างๆ โดยในไทยยังอยู่ใน Phase นี้
Phase 3 = เชื้อแพร่กระจายไปสู่วงกว้าง
ใน phase นี้ เชื้อเกิดการแพร่กระจายอย่างควบคุมไม่ได้ ผู้ที่ไม่มีประวัติการเดินทางและไม่ได้คลุกคลีกับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงก็มีโอกาสติดได้ โดยอาจพบผู้ติดเชื้อ 20-30 รายต่อวัน หรือมากกว่านั้น
หากเริ่มการระบาด Phase 3 จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในวงกว้างทั้งทางด้านสุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศ
แล้วอะไรล่ะที่เป็นตัวแปรสำคัญว่า COVID-19 จะเข้าสู่ Phase ที่ 3 ?
1. การคัดกรองโรคที่ล้มเหลว
ซึ่งเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ เนื่องจากพฤติกรรมของไวรัสนั้นค่อนข้างซับซ้อน และมีระยะเวลาก่อตัวนาน ( 1-2อาทิตย์แล้วแต่บุคคล ) และบ่อยครั้งที่ผลตรวจเป็นลบ (ไม่พบไวรัส) แต่เมื่อเวลาผ่านไปซักพักผลตรวจจึงเป็นบวก (พบไวรัส) ซึ่งทำให้การคัดกรองผู้ติดเชื้อมีความยากลำบากมาก และกว่าจะตรวจพบก็อาจจะเกิดการแพร่เป็นวงกว้างเรียบร้อยแล้ว
2. การขาดความรู้ในด้านของการแพร่ระบาดของไวรัส
มีผู้ที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเป็นจำนวนมากที่ไม่ยอมทำตามขั้นตอนมาตรฐานในการกักตัวเองให้ห่างไกลจากผู้คนเป็นระยะเวลา 14 วัน ซึ่งการพาตัวเองเข้าไปในพื้นที่ที่มีผู้คนจำนวนมากจะเร่งการเข้าสู่ Phase ที่ 3 ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือกรณีของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งผู้ป่วยรายหน่ึงที่มีประวัติการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง ปฏิเสธที่จะกักตัวและรับการรักษา ส่งผลทำให้การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศเกาหลีใต้เข้าสู่ Phase ที่ 3 อย่างรวดเร็ว
รูปภาพจาก Violent expiratory events: On coughing and sneezing
ภาพข้างบนแสดงถึงระยะการกระจายตัวของฝอยละออง (Droplet) วินาทีที่ (a) 0.006 (b) 0.01 (c) 0.029 และ (d) 0.106 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเชื้อที่อยู่ในฝอยละออง (Droplet) สามารถแพร่ไปได้ไกลแค่ไหน หากเกิดการไอหรือจามเกิดขึ้น โดยฝอยละอองขนาดเล็กนั้นสามารถที่จะถูกพัดพาไปในอากาศและแพร่กระจายได้ไกลกว่าที่เห็นมาก
สรุปแล้ว การจะเข้าสู่ Phase 3 ของ COVID-19 ในไทยนั้นขึ้นอยู่กับการพัฒนาวิธีการตรวจคัดกรองโรคที่รวดเร็วและแม่นยำ รวมไปถึงการอาศัยความร่วมมือของคนในประเทศ เพื่อก้าวพ้นวิกฤติการณ์ในครั้งนี้
-References
https://www.thairath.co.th/news/politic/1794778
https://www.salika.co/2020/02/27/knowledge-about-covid-19-phrase-3/
https://www.researchgate.net/publication/262983673_Violent_expiratory_events_On_coughing_and_sneezing
https://mgronline.com/around/detail/9630000019587
2 บันทึก
15
6
2
2
15
6
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย