15 มี.ค. 2020 เวลา 12:35 • บันเทิง
MovieTalk ภูมิใจเสนอนิยายบู๊ภูธร
“บางบอกดิก” ตอนที่ 2
โดย มูฟวี่ เมืองกรุง
1
รถจิ๊บไม่มีหลังคาสองคันวิ่งอย่างรวดเร็ว จนฝุ่นลูกรังลอยคลุ้งไปทั่ว ก่อนจะเบรกดังลั่นที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่
พิภพเดินลูบหัวล้านลงมาก่อน ตามด้วยศักดิ์หยกศก, กฤษ กรามเหลี่ยม และบรรดาลูกสมุนที่ แต่ละคนสบักสบอมด้วยหมัดและเท้าของเสก ก้าวเล็ก
พิภพ หัวล้าน
พิภพดูจะหัวเสียมากที่สุด และก็เดินตรงไปที่สระว่ายน้ำ ในสระมีบรรดาสาว ๆ สามคนว่ายน้ำไปมาอย่างสนุกสนาน
ส่วนที่ข้างสระว่ายน้ำ มีชายสองคน คนแรกกำลังดื่มเบียร์เย็นเป็นวุ้นในเหยือกที่เคาน์เตอร์เบียร์ข้างสระว่ายน้ำ แต่สายตาโลมเลียไปที่บรรดาสาว ๆ ที่เล่นกันอยู่ในสระว่ายน้ำ
อีกคนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนนอนคาบไปป์ มองดูสาว ๆ ในสระว่ายน้ำอย่างมีความสุข
ชายดื่มเบียร์หันมาเห็นพิภพจึงเอ่ยทัก
“อ้าว หน้าตาเอ็งไปสะดุดตีนใครมาล่ะไอ้ภพ...ฮา....” พูดพลางหัวเราะพลาง
“แหม..ลูกพี่...ผมไม่ได้สะดุดตีนใคร แต่ตีนมันมาโดนหน้าผมต่างหาก” พิภพก้มหน้าตอบ
เต้ เบียร์วุ้น
“แม่เจ้าโว๊ย...ใครมันกล้าแหยมกับคนของพ่อเลี้ยงก้อมกันวะ อย่างนี้มันต้องเจอกับ เต้ เบียร์วุ้นเสียแล้ว”
เสียงตวาดดังขึ้น
“พวกเอ็ง เอะอะ อะไรกันวะ ข้ากำลังพักผ่อน”
ชายกลางคนที่นอนดูสาว ๆ ในสระ ผุดลุกขึ้น เดินมาที่เคาน์เตอร์บาร์
“ขอโทษครับพ่อเลี้ยง” ทั้งพิภพและเต้ ก้มหน้าด้วยความกลัว
1
ชายผู้นี้คือ พ่อเลี้ยงก้อม เจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลแห่งบ้านบางบอกดิก พ่อเลี้ยงก้อมจับใบหน้าพิภพหันซ้ายขวาดูรอยช้ำจากฝ่าเท้าของเสก
“มันเป็นใครวะ ถึงกล้ากับคนของกู”
พ่อเลี้ยงก้อม
“ผมก็ไม่รู้จักครับนาย มันเป็นคนต่างถิ่น” พิภพพูดขึ้น “แต่ฝีมือมันไม่ใช่ย่อยเลย พวกผมเจ็ดคนกะจะรุมกระทืบมัน แต่กลายเป็นถูกมันกระทืบแทนครับ”
“มันเป็นพวกเจ้าหน้าที่ทางการรึเปล่า?” พ่อเลี้ยงก้อมถาม
“ไม่แน่ใจครับนาย แต่ไม่น่าจะใช่ เพราะท่าทางดูไม่ใช่พวกข้าราชการครับ ผมยาว ดูซ่อมซ่อมาก”
“ยังไงพวกเอ็งก็ต้องระวังไว้ก่อน” พ่อเลี้ยงก้อมหันมาสั่ง
“เฮ้ย..ไอ้เต้ เอ็งลองไปดูสืบดูซิมันเป็นใคร แต่อย่าลงมือเองนะ เดี๋ยวมันตื่นตัว ใช้คนอื่นไปหาข่าวแทนเอ็ง”
“ครับ นาย” เต้ เบียร์วุ้นรับคำ
เด็กสาววัยสิบแปดสองคนขึ้นจากสระ เดินตัวเปียกในชุดว่ายน้ำแนบเนื้อมาคลอเคลียพ่อเลี้ยงก้อม เจ้าตัวเลยถือโอกาสโอบเอวทั้งสองสาวพลางสลับหอมแก้มคนซ้ายที คนขวาที ท่ามกลางสายอิจฉาของเต้ เบียร์วุ้น
เสียงรถยนต์วอลโว่แล่นเข้ามาจอด คนขับรถร่างผอมบางใส่แว่น วิ่งไปเปิดประตูหลังให้ หญิงสาวคนหนึ่งลงมา เธอถอดแว่นดำออกชำเลืองมองไปทางสระว่ายน้ำ ก่อนจะส่ายหน้าด้วยความระอา
“อ้าว...พิม...ไปไหนมาล่ะลูก” พ่อเลี้ยงก้อมเอ่ยทัก
“ไปซื้อของในเมืองมาค่ะคุณพ่อ” พิมตอบอย่างเสียไม่ได้ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป
“ยิ่งโตยิ่งดื้อโว๊ย...” พ่อเลี้ยงก้อมบ่นพึมพำ ก่อนจะหันไปไซ้ซอกคอเด็กสาวในชุดว่ายน้ำอย่างเมามัน
ขณะที่คนขับรถเตรียมจะหยิบถุงช็อปปิ้งลงไป เต้ เบียร์วุ้นก็กวักมือเรียก
“เฮ้ย...ไอ้แว่น มานี่หน่อย...”
แว่นรีบวิ่งไปหาเต้ทันที “มีอะไรครับลูกพี่?”
“ข้ามีงานให้เอ็งทำ เดี๋ยงเอ็งไปกับไอ้ภพนะ มันจะชี้เป้าให้ แล้วเอ็งไปหาข่าวมาให้ได้ว่า ไอ้คนแปลกหน้านั้นมันเป็นใคร มาจากไหน และมาทำอะไรที่บ้านบางบอกดิก พอรู้แล้วรีบมารายงานข้าทันที”
เต้พูดจบ ล้วงมือไปในกระเป๋าเสื้อ ก่อนยื่นแบงค์ร้อยให้แว่นหนึ่งใบ
แว่นยกมือไหว้ขอบคุณ พลางเดินตามพิภพขึ้นรถจิ๊บออกไปจากคฤหาสน์นั้นทันที
พ่อเลี้ยงก้อมมองตาม ก่อนจะหันมาพูดกับเต้
“ดูจากฝีมือของมัน คงไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไป ข้าไม่ค่อยไว้วางใจว่ะ ตอนนี้มือดีของเรามันไปอยู่ไหนวะ?”
“พ่อเลี้ยงหมายถึง ไอ้แมน เมืองชล ใช่ไหมครับ?”
“ก็มันนั่นล่ะ ไอ้สันดานนี่ชอบแว่บตลอด” พ่อเลี้ยงก้อมส่ายศรีษะอย่างหงุดหงิด
“ได้ยินว่ามันไปติดพันกับเจ้าของร้านเสริมสวย สองพี่น้อง เพ็ญภา อะไรนี่ล่ะครับ ”
“พรุ่งนี้เช้า เอ็งให้ได้ศักดิ์ไปตามมันกลับมา ข้ามีงานจะใช้ไอ้แมนไปทำ”
“ครับ” เต้ เบียร์วุ้นรับคำ
“ป๋าคะ หนูหนาวค่ะ...” เด็กสาวในวงแขนของพ่อเลี้ยงก้อมบ่นขึ้น
“ไป...งั้นเข้าบ้านกันนะจ้ะ เดี๋ยวป๋าจะห้าผ้าห่มให้หายหนาว เอ...เรามาเล่นผีผ้าห่มกันดีกว่า...”
“ป๋าเนี่ย...คนผีทะเล” เด็กสาวทำทีเขินอาย ก่อนจะวิ่งเข้าไปบ้าน
“พ่อเลี้ยงครับ ผมตามไปเล่นผีผ้าห่มด้วยคนได้ไหมครับ?” เต้ เบียร์วุ้นเอ่ยถามอย่างงุ่นง่าน
“ทะลึ่งแล้วเอ็ง...โน่น ในสระเหลืออีกคน เอ็งไปชวนนังหนูนั่นเล่นเอง สองคนนี้ของข้า” พ่อเลี้ยงก้อมตอบก่อนจะเดินหายเข้าบ้านไป
ส่วนเต้ เบียร์วุ้นกระดกเบียร์ทีเหลือจนหมด ก่อนจะหันไปทางสระว่ายน้ำ เด็กสาวที่เหลืออีกหนึ่งคนในนั้น ทำทีกระดิกนิ้วเรียก เต้ เบียร์วุ้นเลยไม่รอช้า กระโจนลงในสระว่ายน้ำทันที
...
“แม่ฉัตร....พี่ข้าวกลับมาแล้วจ้า...” ผู้ใหญ่ข้าวเอ่ยขึ้นที่หน้าบ้าน
หญิงสาววัยใกล้เคียงผู้ใหญ่ข้าว เดินออกมาต้อนรับ ท่าทีดูละมุน เธออดประหลาดใจไม่ได้ที่มีชายหนุ่มผมยาวติดสอยห้อยตามสามีของตนเองมาด้วย แต่เธอก็เดินลงบันไดมา ในขณะที่ผู้ใหญ่ข้าวกับเสกพากันนั่งพักที่แคร่หน้าบ้าน
แม่ฉัตร
“แม่ฉัตร นี่คุณเสก ก้าวเล็ก มาจากบางกอกน่ะ คุณเสก นี่แม่ฉัตร ภรรยาของผมเอง”
เสกยกมือไหว้ ในขณะที่แม่ฉัตรรับไหว้แทบไม่ทัน
“พอมาถึงร้านเฮียหมู คุณเสกก็ถูกพวกไอ้พิภพคนของพ่อเลี้ยงก้อมต้อนรับทันที” ผู้ใหญ่ข้าวเริ่มเล่าให้เมียฟัง
“ตายจริง...แล้วคุณเขาเป็นอะไรไหมพี่ข้าว?” แม่ฉัตรยกมือทาบอกด้วยตกใจ
“เป็นสิ...แต่ที่เป็นคือพวกไปภพนะ ไปจมกองตีนของคุณเสกแทน”
“แหม...คุณเสกนี่ดูไม่ออกเลยนะ ว่ามีฝีไม้ลายมือพอตัวเลย ที่บ้านบางบอกดิกมันไกลปืนเที่ยง มีแต่พวกอิทธิพลทั้งนั้น คนบางกอกแบบคุณน่าจะอยู่ลำบากนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอยู่ได้ทุกที่ครับ”
ยังไม่ทันกล่าวอะไรต่อ เด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งก็เดินตามลงบันไดมา ในมือเธอถือขันเงินใส่น้ำฝนเย็นชื่นใจมายื่นส่งให้ผู้ใหญ่ข้าว
“พ่อจ้ะ เพิ่งกลับมา ดื่มน้ำฝนเย็น ๆ ก่อนจ้ะ” เด็กสาวยิ้มรับ
“ขอบใจจ้ะลูก เออ...ปิ้ก...นี่คุณเสกนะ เดินทางมาจากกรุงเทพ...คุณเสกครับ นี่ปิ้กลูกสาวคนโตของผมครับ”
เสก ก้าวเล็ก
ปิ้กยกมือไหว้เสก แต่เสกกำลังจังงังในความสวยน่ารักของปิ้ก ก่อนจะรู้สึกตัวว่าทำไม่เหมาะสม และรีบรับไหว้
ผู้ใหญ่ข้าวเอ่ยถามปิ้ก “แล้วน้องปามอยู่ไหนล่ะลูก?”
“น้องปามกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวจ้ะพ่อ พอดีเลย เดี๋ยวเราจะได้กินข้าวด้วยกัน ใกล้เสร็จแล้ว”
พูดขาดคำ เสียงใส ๆ ก็ดังมาจากข้างบน “พ่อจ้ะ แม่จ้ะ กับข้าวเสร็จแล้ว ขึ้นบ้านมาทานกันเถอะจ้ะ หนูจัดเสร็จแล้ว”
“น่าจะเป็นเสียงของปาม ลูกสาวคนเล็กของผู้ใหญ่ข้าว” เสกคิดในใจ
“ไป...งั้นเราขึ้นไปทานข้าวข้างบนกันดีกว่า แล้วเดี๋ยวกุ๊กค่อยจัดที่นอนหมอนมุ้งให้คุณเสกนะ”
“ได้จ้ะพี่ข้าว...” แม่ฉัตรรับคำ ลุกเดินตามผู้ใหญ่ข้าวไป
ทั้งหมดทยอยเดินขึ้นเรือน เสกที่เดินตามรั้งท้ายขึ้นไปถึงชั้นบนของเรือน เห็นเด็กสาวน่าตาน่ารัก สวยคนละแบบกับปิ้ก นั่งพับเพียบรออยู่แล้ว
ปาม - ปิ้ก (ขอบคุณภาพจากนิตยสารผู้หญิง)
ทั้งหมดนั่งล้อมวงกัน ผู้ใหญ่ข้าวบอกกับปาม
“ปาม นี่คุณเสก จะมาค้างคืนกับเราที่นี่นะ”
“สวัสดีค่ะ” ปามยกมือไหว้เสก เสกรับไหว้ คราวนี้เขาไม่ตะลึงในความงามของปาม เพราะเสกตะลึงไปก่อนแล้วตั้งแต่เดินขึ้นเรือนมา
เบื้องหน้าของทุกคน เป็นกับข้าวกลิ่นหอมฉุย เสกกวาวตาดู มีไก่ผัดพริก ทอดมันไก่ใบชะพลู แกงปลาทูใบชะพลู และก็ผัดเผ็ดกุ้งยอดมะพร้าวอ่อน อาหารท่าทางน่าทานทั้งนั้นเลย
ผู้ใหญ่ข้าวชักชวนทุกคนให้ทานข้าวพร้อมกัน และเล่าเรื่องราวที่เสกมีเรื่องกับพวกของพิภพให้เมียและลูกของตนเองฟัง
ผู้ใหญ่ข้าว
...
ดวงตะวันลับขอบเขาไปแล้ว บรรยากาศเริ่มมืดลง แต่รถจิ๊ปคันหนึ่งแล่นมาจอดและดับเครื่องที่โคนต้นไม้ใหญ่ ห่างจากบ้านของผู้ใหญ่ข้าวห้าสิบเมตร ในรถนั่งไว้ด้วยพิภพหัวล้าน และแว่น
“เอ็งเห็นแล้วนะ ไอ้หน้าจืดต่างถิ่นมันอยู่ในบ้านผู้ใหญ่ข้าว พรุ่งนี้เป็นหน้าที่ของเอ็งต้องไปสืบมาให้ได้ว่า มันเป็นใคร มาที่บางบอกดิกทำไม เอ็งเป็นเพื่อนกับลูกสาวของผู้ใหญ่ข้าว น่าจะหาทางสืบได้อยู่” พิภพสั่งไปพลางลูบหัวล้านไป
“ครับ ลูกพี่” แว่นพยักหน้ารับ
“งั้น เอ็งเดินกลับบ้านได้แล้ว ข้าจะกลับไปหาพ่อเลี้ยง”
แว่นลงจากรถ ก่อนจะเดินตามทางไปเรื่อยจนถึง กระท่อมหลังหนึ่ง ท่าทางดูซอมซ่อ แว่นผลักประตูเข้าไป ภายในมีแคร่ตัวหนึ่ง โต๊ะตัวหนึ่ง
“ยาย...แว่นกลับมาแล้วจ้ะยาย”
หญิงชราคนหนึ่งเดินลากขาออกมาอีกห้องหนึ่ง แว่นรีบเข้าประคองก่อนจะพามานั่งที่แคร่ พลางถามขึ้น
“ยายหิวข้าวไหม เดี๋ยวแว่นทอดไข่เจียวให้ยายดีไหม?”
“ไม่เป็นไรหรอกแว่นเอ๊ย...เมื่อสักครู่ แม่กุ๊กเมียผู้ใหญ่ข้าวใช้ให้ปิ้กเอากับข้าว และข้าวมาให้ยายแล้วล่ะ คงคิดว่าเอ็งกลับดึกอีกนั่นล่ะ ว่าแต่ทำไมวันนี้เอ็งกลับเร็วล่ะ” ยายถามพลางบ้วนน้ำหมากลงกระโถน
แว่น เลี้ยงยาย
“ตอนเย็น แว่นไม่ต้องขับรถให้พ่อเลี้ยงก้อมน่ะจ้ะยาย เลยได้กลับเร็ว” แว่นโกหกยายเพื่อความสบายใจของยาย แต่ตัวเองรู้สึกลำบากใจที่ต้องโกหก
“ดีแล้วล่ะ” ยายลูบหัวแว่น “เอ็งกลับเร็วก็ดี ทานข้าวเป็นเพื่อนยายนะ”
“จ้ะยาย” แว่นรับคำ พลางวิ่งไปหยิบจานสังกะสีมาสองใบ ตักแบ่งข้าวออกให้ยายและตนเอง
ระหว่างที่ทานข้าว แว่นรู้สึกลำบากใจกับงานที่ต้องทำ แต่เพื่อจะได้มีเงินรักษายาย และมีเงินมาซื้ออาหารให้ยายทาน แว่นก็จำใจต้องทำงานเป็นคนขับรถให้พ่อเลี้ยงก้อม
ยังไม่ทันคิดอะไรต่อ ยายก็ตักกุ้งตัวโตใส่ในจานข้าวของแว่น “ทานเยอะ ๆ นะลูก ยายแก่แล้วทานนิดเดียวก็อิ่ม”
แว่นน้ำตาซึม เขาบอกกับตัวเองว่า ยังไงก็จะต้องดูแลยายอย่างดีที่สุด แม้งานที่จะต้องทำจะต้องลำบากใจก็ตาม
....
โปรดติดตามตอนต่อไปสัปดาห์หน้า
บอกกล่าวตอนท้าย
เปิดตัวละครใหม่กันไปแล้ว
ในที่สุดพ่อเลี้ยงก้อม ผู้มากอิทธิพลก็ปรากฎตัว
พร้อมสมุนคู่ใจคนที่หนึ่ง
เต้ เบียร์วุ้น
และที่ถูกเอ่ยถึงแต่ยังไม่ปรากฎตัวคือ
แมน เมืองชล ที่กำลังติดพันกับเจ้าของร้านเสริมสวยสองพี่น้อง เพ็ญ-ภา
พิม ลูกสาวคนเดียวของพ่อเลี้ยงก้อม (แต่ยังไม่ลงรูปนะครับ ให้ตามลุ้นกันต่อไป)
แว่น ในฐานะเด็กหนุ่มกตัญญูเลี้ยงดูยาย
แม่ฉัตรภรรยาผู้ใหญ่ข้าว ก็คือ รฉัตร หรือ น้องกู๊ดสุดละมุน
ปาม ต้องปรับนิดหน่อยเพื่อให้ชื่อดูเป็นไทยขึ้นจากเดิมคือ ปาล์ม เพจชีวิตต้องไปต่อ
ปิ้ก ลูกสาวคนโตก็คือ น้องปิ้ก กระเรียนน้อย
เช่นเดียวกับลูกสาวแสนสวยของกำนันทั้งสองคน เป็นอะไรที่เลือกยากมาก เพราะมีสาว BD หลายคน
แต่ด้วยอายุ อานาม ผมเลยเลือก น้องปิ้ก กับ น้องปาล์ม มาเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่ข้าว
ปัญหาคือ ทั้งสองคนโชว์หน้าจริงในเพจ ผมเลยลังเลว่าจะเอารูปน้องมาลงหรือหารูปดาราแทนดี ในที่สุดก็ตัดสินใจเป็นรูปดังที่ทุกท่านเห็นครับ
ส่วนตอนที่ 3 จะมีใครใน BD ปรากฎตัวบ้าง ไปรอลุ้นกันในสัปดาห์หน้าครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
มูฟวี่ เมืองกรุง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา