1. หน้าร้านทำเลที่ดี
ส่วนใหญ่จะเป็นการเช่า ทำเลเช่าที่ดีที่สุดคือใต้อาคารอพาร์ตเม้นต์หรือคอนโดฯจะดีที่สุด ซึ่งขณะนี้ราคาค่าเช่าจะตกอยู่ประมาณ 10,000-15,000 บาท ขึ้นอยู่กับทำเล
2. มีอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน
ร้านซักอบรีดต้องมีอุปกรณ์พร้อมในการทำธุรกิจ ที่สำคัญและจำเป็นต้องมีเช่น เครื่องซักผ้า (อย่างน้อย 2 เครื่อง) ราคาเครื่องซักผ้าโดยเฉลี่ยประมาณเครื่องละ 20,000 บาท, เตารีดไอน้ำ ควรเลือกที่มีคุณภาพเพราะต้องนำมาใช้งานเยอะมากในการทำธุรกิจ, น้ำยาซักผ้า ควรเลือกให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า, น้ำยาปรับผ้านุ่ม, ราวแขวน, ตู้เสื้อผ้า เป็นต้น
3. บริหารจัดการรับลูกค้าให้เป็น
ร้านซักอบรีดจะมีทั้งลูกค้าขาจร และประจำ ซึ่งผู้ลงทุนต้องมีระบบการบริหารจัดการที่จะรับลูกค้าให้ประทับใจได้ทั้ง 2 ประเภท ต้องรู้ว่าลูกค้าแต่ละคนมีเสื้อผ้าชนิดไหนมา จำนวนเท่าไหร่ ต้องการให้ทำอะไรบ้าง หรือถ้าเป็นลูกค้าประจำก็ต้องรู้ว่าเขาจะมารับตอนไหน เขาชอบน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นอะไร ชอบให้รีดเสื้อผ้าแบบไหน ยิ่งรู้ใจลูกค้ามาก ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ดียิ่งขึ้น
4. ความสะอาดคือหัวใจของธุรกิจ
ไม่ว่าจะอุปกรณ์พร้อม หน้าร้านสวยงาม บริหารจัดการดี แต่สิ่งที่ลูกค้าจะติดใจมาใช้บริการต่อหรือไม่คือ “ความสะอาด” ถ้าเสื้อผ้ายังมีคราบสกปรกติด มีคราบไม่พึงประสงค์ มีเศษทิชชู่ติดเสื้อผ้า หรือเสื้อผ้ามีรอยขาดอันเกิดจากการซัก เชื่อได้ว่าลูกค้าไม่ประทับใจ ตรงกันข้ามถ้าเราบริการดี คุณภาพดี ลูกค้าจะยิ่งบอกต่อๆให้ร้านเราดังยิ่งขึ้น
5. เข้าใจหลักการซักและรีดผ้า
การเปิดร้านซักอบรีดก็ต้องเข้าใจวิธีการซัก ซึ่งผ้าแต่ละชนิดมีการซักไม่เหมือนกัน เสื้อบางชนิดเป็นผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้ายีนส์ การซักก็จะต่างกัน การรีดก็เช่นกันต้องมีวิธีการรีดที่ถูกต้องทั้งคอเสื้อ แขนเสสื้อ จับจีบเสื้อ ระดับความร้อนของผ้าแต่ละชนิดก็ไม่เหมือนกันสิ่งเหล่านี้เจ้าของร้านต้องมีความรู้มากพอ