ว่าด้วยลักษณะผู้นำ 10 ประการ ระหว่าง โจโฉ และ อ้วนเสี้ยว...ข้อคิดสำหรับผู้ปกครองบ้านเมืองในยามวิกฤติ
“การบริหารราชการแผ่นดินต้องเฉียบขาด ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ถูถกผ้ต้องว่าไปตามถูก แต่ก็ต้องจำแนกแยกแยะให้ได้ด้วยว่า เรื่องใดอยู่เหนือพ้นออกไปจากความผิดถูก”
ในบรรดาผู้นำในสามก๊ก โจโฉ ถือได้ว่าเป็นผู้นำที่มีความสามารถที่โดดเด่นในด้านสติปัญญา การวางแผนกลศึกและกลยุทธทางการเมือง ที่นำไปสู่การสถาปนาอาณาจักรวุยก๊ก ซึ่งเป็นที่มีเขตอิทธิพลในเขตลุ่มแม่น้ำหวงเหอ ทางภาคเหนือของจีน และยังสามารถควบคุมพระนครลั่วหยาง ศูนย์กลางอำนาจในการปกครองของราชวงศ์ฮั่นไว้ได้ ทำให้เป็นก๊กที่ความพร้อมด้านทรัพยากรและกำลังคนที่เหนือก๊กอื่นๆ
แผนที่สามก๊ก หลังปี ค.ศ. 220 อาณาจักรวุยก๊ก (สีเหลือง)
สำหรับในนวนิยายสามก๊กฉบับที่คนไทยรับรู้กัน จากการแปลของเจ้าพระยาพระคลัง(หน) หรือ ฉบับของยาขอบ ได้ให้ภาพลักษณ์ของโจโฉ เป็นผู้นำที่ฉลาดแกมโกง โหดร้ายและเผด็จการ เป็นคู่ตรงข้ามกับเล่าปี่ ที่เปรียมด้วยคุณธรรม นอบน้อมรักพี่น้อง
ปกสามก๊กของยาขอบ มีรูป เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย สามพี่น้องร่วมสาบานที่ให้ภาพของผู้ยึดหลักคุณธรรม เป็นตัวเอกในแบบฉบับภาษาไทย
ขณะเดียวกันในฝั่งของจีนแผ่นดินใหญ่ปัจจุบันกับให้ความสำคัญในการตีความบทบาทของโจโฉ มากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการขุดค้นพบสุสานของโจโฉ ที่เหอหนาน ในปี ค.ศ.2009 ที่ทำให้วงวิชาการหันมาสนใจประวัติของโจโฉในแง่มุมต่างๆมากขึ้น
ภาพการค้นพบสุสานในมณฑลเหอหนาน เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2009 โดยค้นพบป้ายจารึกคำว่า “กษัตริย์อู่แห่งเว้ย” และซากศพชายอายุราว 60 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของโจโฉ
โดยจะเห็นได้จากการสร้างภาพยนตร์ซีรีย์สามก๊กในปี 2010 ที่ตัวเดินเรื่องคือโจโฉ ที่มีมิติความเป็นผู้นำที่มีความลุ่มลึกทางอารมณ์ อาจจะไม่ดีพร้อมแต่ก็มีอุดมการณ์และคุณธรรมในแบบฉบับของตัวเอง ขณะที่เล่าปี่กลับมีความเป็นสีเทาๆซ่อนเร้นความทะยานอยากไว้ภายในความสงบนิ่ง
ภาพโปสเตอร์ละครซีรี่ย์ สามก๊ก ปี 2010 ที่ ออกอากาศทางช่อง 3 ทีทั้งหมด 126 ตอน
อย่างไรก็ตามภาพลักษณ์ของโจโฉ นั้นก็คือยอดนักบริหารที่รู้จักการใช้คน การสมานน้ำใจและซื้อใจลูกน้อง ทำให้วุ่ยก๊กจึงมีเหล่าขุนพลแม่ทัพ มาสวามิภักดิ์มากมาย
ภาพลักษณ์ของโจโฉใน สามก๊ก ฉบับปี 2010 จะมีบทบาทเป็นตัวเดินเรื่อง มีบทโดดเด่นกว่าฝั่งของ เล่าปี่ ในแบบที่เคยทำมาก่อนหน้านี้
ภาวะผู้นำของโจโฉนั้น มีความแตกต่างกับ อ้วนเสี้ยว คู่แข่งที่เคยเติบโตในราชการมาด้วยกัน จนมีแว่นแคว้นของตนเอง และจบลงด้วยการทำสงครามในศึกกัวต๋อ ซึ่งกุยแก กุนซือของโจโฉได้เคยวิเคราะห์เปรียบเทียบ เหตุแห่งชัยชนะของโจโฉ และเหตุแห่งความปราชัยของอ้วนเสียว ไว้ 10 ประการดังนี้
ฉากโจโฉวิจารณ์อ้วนเสียว ก่อนทำศึกกัวต๋อ ในปี ค.ศ.200
1.อ้วนเสี้ยวเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง ถือว่าตนดีคนเดียว ส่วนโจโฉนั้น มิได้ถือตัว ใจคอกว้างขวาง มิได้ดูหมิ่นเหยียดหยามใคร
2.อ้วนเสี้ยวเป็นคนเจ้าอารมณ์ เอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ส่วนโจโฉนั้น โอบอ้อมอารีต่อคนทั่วไป จะทำการสิ่งใดก็ฟังเสียงคนทั้งปวงเป็นใหญ่ จึงมีผู้นิยมนับถือท่านมาก
3.อ้วนเสี้ยวบริหารบ้านเมืองย่อหย่อนต่อบทกฎหมาย ส่วนโจโฉนั้นบริหารบ้านเมืองอย่างเข้มแข็งเด็ดขาด ถือตัวบทกฎหมาย กิจการต่างๆ เรียบร้อย ประชาชนมีความเคารพศรัทธาท่านอย่างยิ่ง
4.อ้วนเสี้ยวเป็นคนปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ เห็นแก่ญาติมิตรของตัวเป็นใหญ่ ส่วนโจโฉนั้น ปากกับใจตรงกัน เข้าใจและใช้คนตามความสามารถ ตั้งอยู่ในความยุติธรรม ถึงญาติพี่น้องทำผิด ก็มิได้เข้าด้วย มิได้เห็นแก่หน้าผู้ใด
5.อ้วนเสี้ยวเป็นคนเพ้อฝัน ตัดสินใจไม่เด็ดขาด จะคิดการสิ่งใดมักกลับเอาดีเป็นร้าย เอาร้ายเป็นดี มิได้เชื่อใจตัวเอง ส่วนโจโฉนั้น มีสติปัญญาและไหวพริบดี ตัดสินใจได้รวดเร็ว ถูกมากกว่าผิด ทำให้การดำเนินนโยบายต่างๆ ลุล่วงไปด้วยดี
6.อ้วนเสี้ยวชุบเลี้ยงแต่พวกผู้ลากมากดี และจะชุบเลี้ยงผู้ใดก็ไม่เป็นส่ำสันต่อหน้าว่ารัก ลับหลังว่าชัง ส่วนโจโฉนั้น ชุบเลี้ยงคนตามความสามารถ รักผู้ใดก็รักโดยสุจริตทั้งต่อหน้าและลับหลัง
7.อ้วนเสี้ยวชอบคนประจบสอพลอ ใครเข้าใกล้ก็ชอบผู้นั้น ใครอยู่ห่างๆ ถึงซื่อสัตย์ ก็ไม่ชอบ ส่วนโจโฉนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือคนไกล ถ้าดีแล้ว ชุบเลี้ยงเสมอหน้ากัน มิได้รังเกียจเดียดฉันท์แต่อย่างใด
8.อ้วนเสี้ยวมักฟังความข้างเดียว ถึงทำผิดมิได้หยุด ส่วนโจโฉนั้น แม้จะมีคนเป่าหูสักเท่าไหร่ ก็เป็นตัวของตัวเอง คิดการหนักหน่วงแน่นอนแล้ว จึงจะทำการ
9.อ้วนเสี้ยวแยกไม่ได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ส่วนโจโฉนั้น รู้ดีรู้ชั่วรู้ถูกรู้ผิดอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน
10.อ้วนเสี้ยวมิได้ชำนาญในพิชัยสงคราม มักทำศึกโดยประมาท มุ่งแต่เอาชนะโดยมิรู้ชั้นเชิงของฝ่ายข้าศึก ส่วนโจโฉนั้น ชำนาญในพิชัยสงคราม ถึงข้าศึกจะมีจำนวนมากกว่า ก็สามารถเอาชนะได้
แผนที่สามก๊ก ก่อนศึกกัวต๋อ ใน ค.ศ.200
แม้ข้อวิเคราะห์ของอุยแก ดูเหมือนกับการอวยเจ้านายตน แต่ผลของสงครามในศึกกัวต๋อ จะเห็นว่าโจโฉ สามารถใช้ทหารเพียง 7 หมื่นนาย เอาชัยชนะเหนือทหารจำนวน 70 หมื่นนาย ของอ้วนเสียว ได้ด้วยกลยุทธการรู้จักใช้คนและสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของกองทัพ
ศึกกัวต๋อ จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทัพอ้วนเสียว ต่อ โจโฉ ที่มีกำลังทหารและเสบียงน้อยกว่าถึง 1 ต่อ 10 จนอ้วนเสี้ยวต้องตรอมใจตายในที่สุด
นอกจากนี้วิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำของโจโฉ ที่ ถือเป็นความแตกต่างของผู้นำในแบบโจโฉ และอ้วนเสี้ยว ที่ทำให้คนรุ่นหลังได้นำไปเป็นบทเรียนว่าจะเลือกก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จหรือความล้มเหลว ตามผู้นำแบบใด...
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
