Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ต้าจีน
•
ติดตาม
22 มี.ค. 2020 เวลา 02:06 • ประวัติศาสตร์
หมิงซื่อจง และ หมิงเซิ่นจง รวมครองราชย์เกือบ 100 ปี กับความเน่าเฟะของราชสำนักหมิง
1
ผมขอนำเสนอเรื่องราวของหมิงซื่อจงฮ่องเต้ และหมิงเซิ่นจงฮ่องเต้ ฮ่องเต้ 2 พระองค์นี้ ครองราชย์รวมกันเกือบ 100 ปี โดยหมิงซื่อจงมีอายุรัชกาล 45 ปี และหมิงเซิ่นจงมีอายุรัชกาล 48 ปี แต่การครองราชย์ยาวนานนั้น ก็เป็นการพิสูจน์ได้อย่างหนึ่งว่า ทั้ง 2 ฮ่องเต้ แม้จะครองราชย์นานกว่าฮ่องเต้องค์ใดในราชวงศ์หมิง แต่คะแนนความปรีชาสามารถที่ได้รับนั้นช่างต่ำเตี้ย สวนทางกับตัวเลขจำนวนปีที่นั่งเมือง
ยุคหมอผีครองเมืองเริ่มมาตั้งแต่รัชสมัยหมิงเซี่ยวจง ต่อเนื่องมาถึง หมิงอู่จง โดยมีสโลแกนสิ่งศักดิ์สิทธิ์นำการเมือง เมื่อหมิงอู่จงได้เสด็จกลับสวรรค์ไปเป็นเทพสมใจอยากแล้ว จางไทเฮาจึงไปคว้าตัว จูโห้วชง น้องชายต่างมารดาของหมิงอู่จง มาเป็นฮ่องเต้คนต่อไป นามว่า หมิงซื่อจง ภายใต้ออิทธิพลของจางไทเฮา และเหล่าพยาธิ (พระ-ญาติ)
3
ก็ยังคงเป็นยุคสมัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์นำการเมืองต่อไป มาดูความบ้าบ๊องของฮ่องเต้พระองค์นี้ เดิมทีนั้นจางไทเฮา ได้จัดแจงให้เฉินฮองเฮา เป็นราชีนีของหมิงซื่อจง จนเฉินฮองเฮาตั้งท้อง 5 เดือน หมิงซื่อจงดีใจมากที่จะมีหน่อเนื้อเชื้อมังกรไว้การันตีการมีน้ำยาปั๊มลูก จึงจัดงานเลี้ยงฉลอง แต่ในงานสนมจางเอาสุรามาถวายพระพร ฮ่องเต้เมาได้ที่จึงยอกเย้ากุ๊กกิ๊กจู๋จี๋กับสนมจาง เฉินฮองเฮาจึงปรี๊ดแตก ทำแก้วสุรารดใส่ฮ่องเต้ หมิงซื่อจงจึงปรี๊ดแตกเข้าบ้าง ใช้ท่ากังฟูแพนด้า ปล่อยพระบาทาดีดเข้าไปที่ท้องของเฉินฮองเฮาจนแท้งลูก งานเลี้ยงต้องเลิกกลางคั่น
4
ตามมาด้วยการปลดนางเฉินออกจากตำแหน่งฮองเฮา และให้สนมจางเป็นฮองเฮาคนต่อไป ซึ่งมีภารกิจอันแสนสาหัส คือต้องพานางกำนัลไปรองน้ำค้างยามเช้าทุกวัน เพื่อนำมาปรุงเป็นยาวิเศษให้ฮ่องเต้เสวย ตามคำแนะนำของพวกหมอผี
1
จนจางฮองเฮาลำใยไม่อยากทำเรื่องบ้าๆบอๆแบบนี้แล้ว ความลำใยนี้ไปถึงหูของฮ่องเต้ ฮ่องเต้เลยสั่งปลดจากตำแหน่งฮองเฮา ให้พ้นจากหน้าที่รองน้ำค้างสมใจอยาก ไปอยู่วังเย็น จนกระทั่งตายเมื่อปี 1536
ยังไม่หมดเรื่องเกี่ยวกับสตรีครับ หมิงซื่อจงมีพฤติกรรมมักชอบทำหยาบคายโหดร้ายกับนางกำนัลทั้งหลายเป็นประจำ ทำให้นางกำนัลเกิดความเคืองแค้น จึงนำมาซึ่งเหตุการณ์นี้ ปี 1542 คืนหนึ่งที่ฮ่องเต้แวะไปเล่นจ้ำจี้กับสนมเฉาตวนเฟย คืนนั้นฮ่องเต้ค้างคืนกับสนมเฉา แต่สนมเฉานั้นต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปรองน้ำค้างมาทำปรุงยาให้ฮ่องเต้ ปรากฏว่ามีนางกำนัลนำโดย หยางจินอิง ได้ใช้ผ้าคลุมหน้าและใช้เชือกรัดคอหมิงซื่อจงที่กำลังหลับสนิมอยู่นั้น หวังปลงพระชนม์
2
แต่ด้วยความอ่อนด้อย ทำยังไงเชือกก็ไม่รัดคอฮ่องเต้ให้ตายสมใจหมาย มีนางกำนัลคนหนึ่งมาเห็น ตาลีตาเหลือกรีบไปแจ้งขันทีตำหนักฟางฮองเฮา ฟางฮองเฮาเมื่อได้ทราบจึงใส่ตีนหมามายังที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยหมิงซื่อจง จนหมิงซื่อจงรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด มีชีวิตอยู่ต่อเพื่อก่อกรรมทำเข็ญต่อไป
1
ท่านโปรดตรองดูเถิดครับ ทำไมนางกำนัลตัวเล็กๆ ถึงใจกล้าหมายปองร้ายเอาชีวิตฮ่องเต้ผู้เป็นเจ้ามหาชีวิต แสดงว่านางกำนัลเหล่านั้นคงเหลืออดเหลือทนโกธรแค้นจนถึงที่สุดแล้ว จากเหตุการณ์นี้จึงเป็นโอกาสให้ฟางฮองเฮาได้กำจัดสนมที่เป็นคู่แข่ง ฮ่องเต้ที่ยังมีอาการปรี๊ดแตกและขวัญผวา เรียกขวัญยังไม่กลับเข้าร่างเลย จึงได้สั่งสังหารผู้ก่อการและถูกพาดพิงไปกว่าหนึ่งร้อยคน รวมทั้งสนมเฉาที่ไม่รู้เรื่องด้วย ก็โดนไปกับเขาด้วย โดยได้โทษระดับพรีเมี่ยมเป็นของขวัญ คือ ทรมานให้ตายไปอย่างช้าๆ
2
แต่ภายหลังเกิดดราม่าฮ่องเต้ทราบว่าสนมเฉาไม่เกี่ยว เป็นการใส่ร้ายป้ายสีของฟางฮองเฮาชัดๆ หมิงซื่อจงจึงไม่เสด็จไปหาฟางฮองเฮาอีกเลยครับ และฟางฮองเฮาก็ไฟครอกตาย เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ตำหนักของนางเอง โดยจับมือใครดมไม่ได้ เมื่อปี 1547 ปวดหัวไหมครับ กับเรื่องราวในวังใหญ่โตที่สร้างบนฮวงจุ้ยดีเลิศ แต่คนที่อยู่กับหลับตานอนให้สนิทไม่ได้สักวัน
1
ยุคสมัยอันยาวนานนี้มีเรื่องอันน่าสะพรึงกลัวมากมาย สนมตายไม่ทราบสาเหตุนับสิบ โอรสธิดาตายตั้งแต่ยังเด็ก นับว่าใครเป็นสนมเป็นโอรสธิดาของฮ่องเต้ แทบหาหลักประกันความปลอดภัยในชีวิตไม่ได้ ถ้ามีประกันชีวิตตายไปแล้วจ่ายตัง บริษัทประกันชีวิตคงเจ๊ง ที่เป็นเช่นนี้เพราะเกิดจากการกำจัดคู่แข่ง เมื่อมีคนต้องการกำจัดศัตรู ก็มาติดสินบนหมอผี หมอผีก็ไปยุยงเป่าหูฮ่องเต้ให้กำจัดคนนั้นคนนี้ โดยอ้างเหตุผลว่าคนนั้นคนนี้เป็นกาลากินีต่อบ้านเมือง ต่อฮ่องเต้ สมควรกำจัดเสีย เพื่อให้ฮ่องเต้ได้เสวยสุข และบ้านเมืองสงบต่อไป
สมัยของหมิงซื่อจง ยังมีเรื่องบ้าบ๊องไม่หมดครับ ปี 1528 ฮ่องเต้หมิงซื่อจงไม่ชอบมงกุฎที่ฮ่องเต้ใช้กันมา แต่ชอบมงกุฎรูปแบบใหม่เสริมบุญญาธิการที่หมอผีเป็นผู้แนะนำ เรียกว่า มงกุฎใบไม้หอม (เซียงเยี่ยกวน) และก็ยังให้ขุนนางทั้งหลายสวมหมวกแบบนี้ด้วย อัครมหาเสนาบดีเซี๋ยเอี๋ยนนั้นไม่เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์จึงไม่ยอมสวมหมวกรูปแบบใหม่นี้ ทำให้โดนเด้งจากตำแหน่งไปดูแลห้องสมุดแทน และสุดท้ายก็ยังไม่วายถูกประหาร
1
อีกหนึ่งปัญหาในรัชกาลนี้ก็คือชนเผ่าตาตาร์ที่เป็นปัญหาตามแนวชายแดนของราชวงศ์หมิงมาโดยตลอด ชนเผ่าตาตาร์นี้ก็คือพวกที่มีเชื้อสายมาจากมองโกล ปัจจุบันนี้อยู่ในเขตปกครองตนเองมองโกลเลียใน ซึ่งต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการทำศึกกับพวกตาตาร์ ประชาชนต้องแบกรับภาษีอันหนักอึ้ง แต่เม็ดเงินที่จะไปถึงชายแดนหล่อเลี้ยงกำลังพลนั้น แทบจะไม่พอยาไส้ กลายเป็นกองทัพไส้แห้ง เพราะเม็ดเงินส่วนมากตกไปอยู่ในมือขุนนางจอมตะกละตะกลามทั้งหลาย โดยสมัยนี้มีขุนศึกคนดังอย่างฌีจี้กวง วีรบุรุษที่เป็นดอกบัวขาวท่ามกลางโคลนตม ซึ่งผมได้เล่าไปแล้ว ท่านไปติดตามอ่านย้อนหลังได้
หมิงซื่อจงฮ่องเต้ (เจียจิ้ง)
ตอกย้ำความอ่อนแอของราชสำนักหมิง เมื่อโปรตุเกสยึดมาเก๊า จากนี้มาเก๊าจะอยู่ภายใต้อำนาจของโปรตุเกสไปอีก 400 กว่าปี แถมยังไม่พอยังต้องเจอพวกโจรสลัดญี่ปุ่น สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในหลายพื้นที่ด้วย มีข้อมูลอันน่าสนใจในรัชสมัยของหมิงซื่อจงอีกอย่างหนึ่ง ในปี 1556 แผ่นดินวิปโยค เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และรุนแรงที่มณฑลส่านซี มีคนสังเวยชีวิตถึง 8 แสน 8 หมื่น คน
หมิงซื่อจง ได้รับเทียบเชิญให้ไปใช้กรรมต่อที่นรกเมื่อปี 1566 พระโอรสได้ทำหน้าที่เป็นฮ่องเต้หมิงมู่จง ครองราชย์ต่อไปอีก 6 ปี ก็ได้รับเทียบเชิญอีกแล้ว ยังโชคดีที่รัชกาลนี้มีจางจวีย์เจิ้งนั่งหัวโต๊ะเป็นอัครมหาเสนาบดี ปี 1573 จูอี้จวุน โอรสของหมิงมู่จง ขึ้นนั่งบัลลังก์มังกรเป็นฮ่องเต้หมิงเซิ่นจงต่อไป เริ่มต้นรัชกาลอันยาวนานใน 10 ปีแรกภายใต้การบริหารงานของบิ๊กจาง
หลังจากสิ้นบิ๊กจาง มังกรจอมซ่าก็ถึงเวลาแผลงฤทธิ์ เปิดศักราชความตกต่ำ ขุนศึกใหญ่ฌีจี้กวง ถูกปลดไปนั่งตบยุงอยู่ที่มณฑลกว่างตง ปี 1582 ก่อนจะตรอมใจตายอีก 6 ปีข้างหน้า เป็นยุคขันทีบานสะพรั่ง มีขันทีได้รับมอบหมายให้ไปตรวจราชการแทนพระองค์ แต่แทนที่จะไปบำบัดทุกข์บำรุงสุข กลับไปเพิ่มความทุกข์แทน ขันทีไปที่ไหน ความจัญไรก็บังเกิดขึ้นที่นั่น ประชาชนต้องรวมตัวกันก่อม็อบประท้วงขับไล่ ชูป้ายออกไปขันที แม้จะแจ้งไปทางราชสำนัก แต่ราชสำนักกำลังเมากลิ่นธูป จึงไม่ใส่ใจต่อปัญหาของประชาชน มีชื่อขันทีชั่วหลายคนในรัชกาลนี้ครับ ไม่ว่าจะเป็น เฉินเฟิ่ง ซุนหลง เป็นต้น
4
ขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังเกิดปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพวกเผ่าแมนจู พวกฝรั่ง ม๊อบประชาชนทางภาคใต้ เกาหลีน้องรักถูกญี่ปุ่นรุกรานจนต้องมาขอกำลังจากราชสำนึกไปช่วย แต่ฮ่องเต้และราชสำนักหมิงยังตลบอบอวลด้วยกลิ่นธูปเทียนทรงเจ้าเข้าผีต่อไป และฝากชีวิตไว้กับทวยเทพทั้งหลายที่ตัวเองเคารพบูชา
4
สถานที่ท่องเที่ยวระดับชาติพระสุสานติ้งหลิง ก็สร้างขึ้นในสมัยหมิงเซิ่นจงฮ่องเต้องค์นี้ โดยขุดดินลึกลงไป 27 เมตร ใช้เวลาสร้างนานถึง 6 ปี เกณฑ์แรงงานวันละ 3 หมื่นคน ทำงานไม่มีวันหยุด มีข้อมูลอีกอย่างหนึ่งที่อยากจะเล่า ปี 1610 มีบาทหลวงเข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ หมิงเซิ่นจงทรงโปรดปราน อนุญาตให้สร้างโบสถ์เพื่อเผยแพร่ศาสนาได้ เรื่องของศาสนาในประเทศจีน แล้วแต่ว่าใครจะนับถืออะไรตามใจชอบ ฮ่องเต้เองวันนี้อาจนับถือเทพ พรุ่งนี้จะเปลี่ยนไปนับถือผี ก็สุดแล้วแต่ว่าตอนนั้นจะมีรสนิยมหรืออารมณ์แบบไหน อยากเป็นหัวหน้าผี หรืออยากอยากเป็นเซียน
ว่านลี่ปีที่ 48 บ่งบอกว่าหมิงเซิ่นจงครองราชย์เป็นปีที่ 48 แล้ว ตรงกับปี 1620 หมิงเซิ่นจง ได้รับเทียบเชิญไปเป็นเทพตามความตั้งใจ ในวัย 57 ปี สถานการณ์เป็นยังไงหลังจากนี้ โปรดติดตาม "3 รัชกาลส่งท้ายราชวงศ์หมิง...จุดสิ้นสุดฮ่องเต้ชาวฮั่น” หรือจะไปอ่านย้อนหลัง บทความ 20 ปีสุดท้าย เกิดอะไรขึ้นกับราชวงศ์หมิง ก็ได้ครับ
หมิงเซิ่นจงฮ่องเต้ (ว่านลี่)
facebook.com
ต้าจีน
ต้าจีน. 41,321 likes · 127 talking about this. มิติใหม่ของการสัมผัสประวัติศาสตร์จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ผ่านลีลาภาษายุคปัจจุบัน
เยี่ยมชม
15 บันทึก
31
3
14
15
31
3
14
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย