21 มี.ค. 2020 เวลา 08:48
“Astalift” แบรนด์เครื่องสำอางที่กลายเป็นเสาหลักสร้างรายได้ให้ Fujifilm
ไม่มีบริษัทใดบนโลกใบนี้จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้ด้วยสินค้าเพียงชนิดเดียว เพราะตราบใดที่ธุรกิจขายของเพียงชนิดเดียว สักวันมันก็ต้องถูกเจ้าอื่นๆ ตีตลาดจนล้ม และเพลี่ยงพล้ำไปในที่สุด
หลังจากที่ผมเขียนบทความเรื่องยา Favipiravir ยาที่เป็นความหวังในการรักษาอาการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไวรัส Covid – 19 ซึ่งผู้ผลิตและคิดค้นคือบริษัทด้านเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่เป็นหนึ่งในหน่วยธุรกิจย่อยของบริษัทผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์ถ่ายภาพรายใหญ่ที่สุดของโลกจากแดนปลาดิบ “Fujifilm” ก็สร้างความประหลาดใจให้กับผู้อ่านหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าบริษัทผลิตกล้องจะผลิตยาได้ด้วย
1
จริงๆ แล้วในโลกของธุรกิจ ยังมีอะไรที่คนทั่วไปยังไม่รู้อีกมากมาย โดยเฉพาะการผลิตสินค้าที่ดูแล้วก็แทบจะไม่เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของบริษัทที่หลายคนคุ้นเคย แต่บริษัทใหญ่ๆ ของโลกต่างมีหน่วยธุรกิจย่อยๆ มากมายที่ลงทุนหรือผลิตสินค้าที่นอกเหนือไปจากการที่ประชาชนรู้จักคุ้นตา
และอีกหนึ่งสินค้าที่ผมต้องประหลาดใจเมื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าของ Fujifilm ก็คือ บริษัทนี้ทำครีมบำรุงผิวขายด้วย
“Astalift” คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจาก Fujifilm ที่วางตลาดครั้งแรกเมื่อปี 2007 ซึ่งการปรับตัวไปสู่ธรกิจใหม่ของ Fujifilm นั้นได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เพราะมันคือสินค้าคนละกลุ่ม คนละประเภท ที่ดูแล้วไม่น่าจะเข้ากัน แต่ Fujifilm นั้นกลับกล้ากระโดดเข้ามาสู่สมรภูมิตลาดเครื่องสำอาง ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นมีเจ้าใหญ่ เจ้าตลาดมากมาย อย่างเช่น OLAY SHISEIDO หรือ SK-II
การปรับตัวของ Fujifilm นั้น ผมขอเรียกว่ากลยุทธ “Disrupt ตัวเองก่อนถูก Disrupt” เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์ถ่ายภาพถูกเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นฟาดกระทบเข้าอย่างจัง นับจากกล้องถ่ายรูปฟิล์มเสื่อมความนิยมลง ต่อด้วยกล้องดิจิทัลที่ก็ต้องเจอกับความท้าทายจากการพัฒนาที่รวดเร็วของเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ทำให้ Fujifilm ต้องหาทางออกให้กับธุรกิจตัวเองเพื่อไปต่อบนโลกของอุตสาหกรรม
หนึ่งในทางรอดในการปรับกลยุทธ์ของ Fujifilm ก็คือ การข้ามไปยังน่านน้ำธุรกิจใหม่ นั่นคืออุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ด้วยการประยุกต์ความรู้ด้านเคมีภัณฑ์ที่ตัวเองมี เพื่อใช้พัฒนาไปสู่การคิดค้นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ ลดไลน์การผลิตในส่วนของธุรกิจฟิล์มถ่ายภาพลง ใช้เวลาอยู่หลายปี จนกระทั่งปี 2007 แบรนด์เครื่องสำอางจากค่ายกล้องถ่ายภาพที่ใช้ชื่อว่า “Astalift” ก็ออกสู่สายตาชาวโลก
1
ไม่มีใครคาดคิดว่าเครื่องประทินผิวจากแบรนด์ก้องถ่ายภาพจะขายดีเป็นเทน้ำเท่ท่า เพราะหลังจากเริ่มทำตลาดก็มีพัฒนาการเรื่องรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านไป 5 ปี Astalift สร้างรายได้ให้กับ Fujifilm สูงถึง 21,400 ล้านดอลลาร์ กลายเป็นหนึ่งในรายได้หลักของ Fujifilm ไปเลย
สิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่องก็คือ ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีมาสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว สินค้าต่างๆ มียอดขายตกลงอย่างมาก ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และภาวะเงินฝืดในประเทศญี่ปุ่นในช่วงปี 20 ก่อนหน้านี้ แต่สินค้าที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องสวนทางกับเศรษฐกิจก็คือ เครื่องสำอาง เพราะแบรนด์เครื่องสำอางจากประเทศญี่ปุ่น มีอัตรการส่งออกสูงถึง 29% ในปี 2559 กลายเป็น อุตสาหกรรมดาวรุ่งใหม่ของญี่ปุ่น ที่รัฐบาลก็ส่งเสริมเทียบเท่ากับการท่องเที่ยวและบริการ
นอกจากเครื่องสำอางแล้ว Fujifilm ยังกระโดดเข้าสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่คุ้นเคย แต่พร้อมลุย เช่น สินค้าเวชภัณฑ์ การพัฒนายาต้านมะเร็ง ยารักษาโรคที่เกิดการการเสื่อมของเซลล์ประสาท และอาการติดเชื้อต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ Favipiravir ที่ถูกนำมาใช้การรักษาอาการติดเชื้อจากไวรัส Covid – 19 อีกด้วย
นี่คือหนึ่งตัวอย่างของการปรับตัวของธุรกิจ เพื่อความอยู่รอด แม้จะต้องเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจใหม่ที่ไม่คุ้นเคยก็ตาม แต่หากจับกระแสตลาดได้ และศึกษาตลาดอย่างจริงจัง ผลิตภัณฑ์ที่ตอนแรกเหมือนไม่ใช่ความหวังหลัก อาจจะก้าวขึ้นมากลายเป็นเสาหลักที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทแทนที่สินค้าเดิมที่แม้ว่าจะทำตลาดมานานเป็นหลายสิบหรือหลายร้อยปีก็ได้
โฆษณา