24 มี.ค. 2020 เวลา 03:50 • กีฬา
อังเคล ดิมาเรีย ตำนานหมายเลข 7 ผู้ล้มเหลว มีความคับแค้นใจกับแมนฯยู อดีตต้นสังกัด ถึงขนาดที่ได้ยินชื่อยูไนเต็ดไม่ได้ ถ้าเห็นเรื่องราวของปีศาจแดงทางทีวี จะเปลี่ยนช่องทันที
แล้วไงใครแคร์วะ???
บูลกา GK ปารีส บอกว่าดิมาเรียเกลียดแมนฯยูมาก
เมื่อปี 2014 ดิมาเรีย หมดความหมายในถิ่นเบอร์นาบิว จึงดิ้นรนมาหากินที่ยูไนเต็ด จากการนำเข้าของ หลุยฟาลกัล โค้ชอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2014
ดิมาเรีย มีค่าตัวอยู่ที่ 60 ล้านปอนด์ ส่งผลให้ตอนนั้นเค้าเป็นผู้เล่นค่าตัวสูงสุดเป็นสถิติสโมสร แซงหน้า ฆวน มาต้า และยังได้รับมอบหมายเสื้อหมายเลข 7 ที่เป็นเบอร์เสื้ออันตกทอดมาจาก
ไบรอัน ร็อบสัน ,เอริก คันโตนา,เดวิด เบคแฮม,และคริสเตียโน โรนัลโด
เพราะฉะนั้นความคาดหวังที่มีต่อปีกชาวอาเจนไตน์คนนี้ย่อมสูงมากๆ เป็นธรรมดา และตอนแรกๆเหมือนจะไปด้วยกันได้ดี แต่สุดท้ายก็ท่าดีทีเหลว
ดิมาเรียลงเล่นในนัดแรกๆ ยิงและแอสซิส ที่โชว์ความเหนือชั้นสมกับราคา 60 ล้านปอนด์ อาทิ ลูกชิพยิงนิ่มๆ ใส่เลสเตอร์,ยิงเอฟเวร์ตัน ,จ่ายทะลุช่องให้มาต้าในนัดเจอQPRและลูกส่งให้ราดาเมล ฟัลกัล ซัดประตูชัยใส่เอฟเวอร์ตัน เหล่านี้ทำให้แฟนๆ เริ่มที่จะให้ใจเค้าเข้าไปทุกที ทวีความหวังเข้าไปกันใหญ่
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ดิมาเรีย โดนผีขนุนเข้าสิงอย่างไรไม่ทราบ เพราะฟอร์มการเล่นตกลงไปอย่างน่าประหลาด และไม่สามารถกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้อีก และไม่มีความพยายามหรือความกระหายในทีมแมนฯยู ในช่วงท้ายฤดูกาลเสียตำแหน่งตัวจริงให้มาต้าทางปีกขวา และแอชลี่ยังทางซ้ายไป เค้าไม่มีตำแหน่ง และไม่พยายามแย่งคืน
โดยใช้เวลาค้าแข้งในถิ่นโอลแทรฟฟอร์ดเพียง แค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้น ลงในพรีเมียร์ลีกไป 27 นัด ยิงไปแค่ 3 ประตู แต่แอสซิสอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ถึง 10 ประตูด้วยกัน (ถ้านับทุกรายการลงไป 32 นัด ยิงแค่ 4 ประตู)
พอฤดูกาลใหม่กำลังจะเริ่ม ถึงเวลาที่นักเตะทุกคนต้องมารายงานตัว แต่ดิมาเรีย ไม่มารายงานตัว พร้อมกับมีข่าวว่าดอดไปคุยกับเปเอสเช เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตรงนี้เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่แฟนๆ จะมีให้ปีกคนนี้ ที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ และไม่ให้เกรียติสโมสร รวมถึงไม่กรงใจเบอร์เสื้อที่เค้าใส่เลยแม้แต่นิด
หลังจากย้ายไปเมืองหลวงแดนน้ำหอม ดิมาเรียเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้ตัวเค้าฟอร์มตกและต้องกระสานซ่านเซ็นออกมาจากโรงละครแห่งความฝันว่า หลุยฟานกัล คือต้นเหตุที่ทำให้เค้าล้มเหลวเป็นขี้ที่ยูไนเต็ด เพราะชอบให้เล่นตำแหน่งที่ไม่ใช่
ในรูปแบบการเล่นที่ไม่ชอบ
ฟานกัลมีความต้องการติดตั้งระบบ 3-5-2 ที่พาฮอลแลนด์คว้าอันดับสามบอลโลกมา โดยจะให้ดิมาเรียเล่นในตำแหน่งของร็อบเบ็น และใช้หลากหลายระบบ 4-4-2 แบบไดมอนด์ หรือแม้กระทั่ง 4-3-3 เรียกว่าหาความลงตัวไม่เจอจริงๆ
แต่ทางด้านฟานกัล ก็เคยให้สาเหตุที่ ดิมาเรีย ไม่ประสบความสำเร็จที่อังกฤษ เป็นเพราะ ดิมาเรียไม่สามารถปรับตัวกับฟุตบอลสไตล์อังกฤษได้
"ดิมาเรีย มีปัญหากับวัฒนธรรมบอลอังกฤษ สภาพอากาศ เค้าอยากเล่นปีกทางซ้าย แบบที่เล่นให้อาเจนติน่า ซึ่งผมก็ส่งเค้าเล่นตรงนั้น แต่เค้าก็เล่นได้ไม่ดีอย่างที่เราหวังจากนักเตะระดับ 60 ล้านปอนด์ ผมจึงลองส่งเค้าเล่นปีกขวา หน้าต่ำ จากนั้นคนก็เริ่มตำหนิว่าส่งเค้าเล่นหลายตำแหน่งเกินไป แต่นั่นเป็นเพราะผมให้โอกาสเค้าเต็มที่เพื่อให้เค้าทำผลงานออกมาได้ดี" ฟาลกัลจอมปรัชญากล่าว
โทษกันไปมา แต่สำหรับความคิดเห็นผมนะ มันทั้งคู่คือหายนะของกันและกัน
ภาพตอนนั้นมันชัดมากว่า ดิมาเรีย ไม่ได้เกลียดแมนฯยู แต่เค้าไม่ชอบฟานกัลมากๆ จึงต้องย้ายออกไป แต่ความรู้สึกของแฟนบอลไม่มีความรู้สึกดีๆให้เค้า และมีเพียงความรู้สึกที่ให้ดิมาเรียคือผู้เล่นที่น่าอัปยศคนหนึ่งของทีม เท่านั้น
ความอัปยศที่ว่าไม่ได้อยู่ที่ค่าตัว กับความคุ้มค่า แต่หากคือพฤติกรรมที่ไม่มีความเป็นยูไนเต็ดให้เห็นต่างหาก มีผู้เล่นหลายคนอยู่ในสภาวะเดียวกับดิมาเรีย แต่ไม่มีใครไม่ให้เกรียติสโมสรแบบนี้ แบบที่ไม่กลับมาเหยียบแม้จะมีสัญญาอยู่ และยังไม่มีทีมไหนซื้อไป แต่แม่งมันไม่มารายงานตัวกับทีมซะดื้อๆ
หลังการย้ายไปอยู่ที่ปารีส เหมือนกับว่าดิมาเรียไม่ได้มีปัญหากับต้นสังกัดจริงๆ จะมีก็มีแค่สาดน้ำลายใส่ผู้จัดการทีมอย่างฟานกัลจากแดนไกลเท่านั้น
แต่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แมนฯยู ผ่านเข้ารอบไปเจอกับ PSG ในบอล UCL รอบ 16 ทีม ทำให้ดิมาเรีย โคจรมาเจอกับทีมเก่า ซึ่งแม่งดันมาพฤติกรรมกับทีมเก่า ดังนี้
ก่อนเจอกัน ให้สัมภาษณ์ดังนี้
"ผมเคยใช้เวลาที่นั่นเพียงปีเดียว ผมไม่มีช่วงเวลาที่ดีที่นั่นเลย มันเกิดจากการซับซ้อนของผู้จัดการทีมในตอนนั้น แต่อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณพระเจ้าที่นำผมออกมาอยู่กับปารีส และมีฟอร์มที่ดีอีกครั้ง" ดูดูมันพูด
แค่คำพูดไม่พอ นัดแรกเป็นฝั่งยูไนเต็ดต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ PSG ของดิมาเรีย
การย้ายไปปารีสยังสร้างความขุ่นเคืองใจให้แฟนผีไม่ใช่น้อย ทำให้ในนัดนั้นเหล่าเรดอาร์มี พร้อมใจกันส่งเสียงโห่ใส่อดีตหมายเลข 7 ของทีม แต่นัดนั้นเหมือนเป็นวันของดิมาเรีย
ดิมาเรียตอกกลับด้วย 2 แอสซิส พาปารีสกระซวกไส้ทีมเก่า ไป 2-0 คาบ้าน แต่ประเด็นมันมาอยู่ที่ ในลูกที่ขึ้นนำ 1-0 จากคิมเพมเบ้ ดิมาเรียเข้าไปฉลองกับเพื่อนๆ พร้อมตะโกนคำว่า F*ck OFF ใส่กองเชียร์ปีศาจแดง จนแฟนๆโยนขวดเบียร์ลงมาเป็นของกำนัล
แต่ไม่หมดเท่านั้น ดิมาเรียก็ตอบโต้ด้วยการหยิบขวดเบียร์ขึ้นมาทำท่าจิบๆ เหมือนจะดื่ม ก่อนจะโยนทิ้งไปกับความสะใจ
ทุกอย่างขาดสะบั้น
ตัดสลับมาในเกมส์ที่ 2 เป็นเกมส์ที่ปีศาจแดงพิการสุดๆ ตัวหลักพากันเจ็บ บางตัวโดนแบน ไม่มีป๊อกบา ไม่มีอเล็กซิส ทีมที่ไปเยือนปารีส เป็นทีมชุดผสม ไม่ใช่แค่ผสมสำรอง แต่ผสมดาวรุ่งในรั้วอคาเดมี่ด้วยซ้ำ อาทิ กรีนวูด อธิท ชง เป็นต้น
"ใครเห็นก็ว่าตาย" ตายอย่างเขียด จะโดนอะไรกลับหลุมมาบ้างวะ
แต่นัดนั้น เหมือนฉีเทียนต้าเซิ่งพญาวานร เสกคาถาให้แมนยูมาผู้มาเยือน ฉกความผิดพลาดกองหลังเจ้าถิ่นและจากนายทวารแชมป์โลกอย่างบุฟฟ่อนต์ได้ถึง 2 ประตู จากลูกากู และจบด้วยสกอร์ 1-2 ในครึ่งแรก สกอร์รวมอยู่ที่ 3-2 แมนฯยูต้องการแค่ประตูเดียวจะได้อเวโกลผ่านเข้ารอบไปด้วยสกอร์ 3-3
แต่มันดูสู้กันไม่ได้จริง เจ้าบ้านโหมบุกใส่ตลอดเวลา แต่เดชะบุญ เด เกอา องค์ซุนหงอคงลงดังกล่าว เซฟมือเป็นพัลวัน ทั้งมือทั้งเท้า สมกับฉายาพญาวานรจริงๆ
และเหตุการณ์ที่สวรรค์ขีดเขียนไว้ก็มาถึง ดิอาโก้ ดาโล่ พาบอลขึ้นมายิงยัดไปที่กรอบเขตโทษ ไปโดนแขนของ คิมเพบเบ้ VAR บอกว่าคือจุดโทษ ในนาทีที่ 90+3 และเป็นแรชฟอร์ด ที่นิ่งเกินอายุ คิดดูครับ มายิงในจังหวะเป็นจังหวะตายแบบนี้ อีกทั้งผู้รักษาประตูตรงหน้าคือบุฟฟ่อนต์
ไม่รอด บุฟฟ่อนต์ ก็ไม่ช่วย แมนฯยูได้ประตูที่หวัง อย่างอัศจรรย์ พลางเขี่ยปารีสและดิมาเรียตกรอบไปอย่างสะใจ ดิมาเรียสะใจเท่าไรในนัดแรก เทียบกับความสะใจที่แฟนผีมีในนัดนี้ไม่ได้เลย
เกิดไวรัลขึ้นมากมายกับรีแอคชั่นหลังเกมส์ของดิมาเรีย ที่หน้าตาแดงกล่ำ ไปด้วยความเจ็บใจ แต่แฟนผีไม่มีใครเห็นใจ มีแต่กระทืบซ้ำ หัวเราะเยาะใส่หน้าจอบ้างล่ะ และที่แสบที่สุดคือ ยื่นเบียร์ให้แม่ง
แดกสิ แดกมั้ยล่ะ???
"เขามีความทรงจำที่แย่ตอนค้าแข้งที่แมนฯยู ความจริงคือเค้าเห็นอะไรบนหน้าจอทีวีที่เป็นยูไนเต็ด เขาจะเปลี่ยนช่องทันที" บูลกา นายทวาร PSG กล่าว
ดูจากการกระทำของดิมาเรีย คำสัมภาษณ์ของเพื่อนมัน ก็บอกได้เลยว่า ดิมาเรีย มันเกลียดแมนฯยูครับ
แต่ๆๆๆ พวกเราต้องชอบมันมั้ยวะ 5555
ต้องเสียดายคร่ำครวญกับนักเตะใจมดแบบนี้ป่าวอ่ะ ถรุย!!!!
ก็แค่นักเตะใจปลาซิว อยากหนีความจริง จริงๆที่ห่วยก็มาจากตัวเองแหละ โทษนั่นโทษนี่ ไม่ใช่เพราะทนเห็นแมนฯยูไม่ได้หรอก แต่ดิมาเรียแค่นึกถึงตัวเองแล้วทนความล้มเหลวของตัวเองไม่ได้ต่างหาก
ว่าแล้วก็เสียราคาเบอร์ 7 ของคิงอย่างคันโตนา,
นักเตะสวรรค์ประธานอย่างโรนัลโด,กัปตันมาเวลล์อย่างไบรอันร็อบสัน,เทพบัตรลูกหนังแบบเบคแฮม ว่ากันตรงๆ ดิมาเรียมันมาเพื่อย่ำยีเบอร์ 7 เราแท้ๆ
ไอ้อิ๊บหาย!!!
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้
ถ้าชอบฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เป็นกำลังใจให้เพจน้อยๆหลักร้อยให้มันถึงหลักพันสักที
ช่วยๆกันครับ 5555
#ปีศาจแดง #ดิมาเรีย #แมนยู #ปีศาจแดงแรงฤทธิ์
เครดิต
-Goal.com
-Khobsanam.com
-SMMSPORT.COM
-Siamsport.com
-Thairath.co.th
-Sanook.com
โฆษณา