24 มี.ค. 2020 เวลา 05:38 • การศึกษา
ทำไม "มีด" ต้องมีหลายแบบ?
ทั้งๆที่ก็ใช้หั่นได้เหมือนกัน เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมเชฟถึงมีกระเป๋าที่ใส่มีดโดยเฉพาะและมีดแต่ละชนิดมีการใช้งานยังไง
เรามาทำความรู้จักกับ Anatomy ของมีดกันก่อนค่ะ
Anatomy of Chef's Knife
1.TIP: ส่วนด้านหน้าของมีดซึ่งอยู่ใต้จุดนั้นเรียกว่าปลายมีดเป็นส่วนหนึ่งของใบมีดซึ่งโดยปกติจะใช้สำหรับงานสับและงานตัดที่ละเอียดอ่อน
2.BLADE: ส่วนหนึ่งของมีดที่ใช้สำหรับการตัด โดยปกติจะทำจากเหล็กไปจนถึงเซรามิกไทเทเนียมหรือแม้กระทั่งพลาสติก
3.SPINE: สันหลังเป็นส่วนบนของใบมีดทื่อตรงข้ามกับคมตัด ความหนาของสันมีดให้ความแข็งแรงกับใบมีด: สันยิ่งหนายิ่งสร้างความสมดุลให้กับมีด
4.EDGE: นี่คือส่วนที่คมของใบมีดซึ่งใช้สำหรับงานหั่นส่วนใหญ่ ใบมีดที่คมเป็นสำคัญแต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของมีดและความถี่ที่ลับมีด
5.HEEL: ส้นเป็นขอบด้านล่างของใบมีดห่างจากปลายสุดถัดโคนด้ามจับ มักเป็นส่วนที่กว้างที่สุดของใบมีด ส่วนนี้ของขอบมักใช้เมื่อเชฟต้องการความแข็งแรงหรือความดันมากขึ้นเพื่อหั่นกระดูก ฯลฯ
6.BOLSTER: พื้นที่ระหว่างใบมีดและด้ามจับ ช่องว่างเล็กๆระหว่างมือของเชฟและใบมีดเพื่อหยุดนิ้วจากการลื่นไถลลงบนใบมีดในระหว่างการตัด นอกจากนี้ยังให้น้ำหนักเพิ่มเติมเพื่อช่วยรักษาสมดุลของมีด
7.HANDLE: ด้ามจับมีด โดยด้ามจับนี้สามารถทำมาจากหลากหลายวัตถุเช่น ไม้ เหล็ก(เชื่อมกับมีดเลย)
8.BUTT:เป็นเพียงแค่ชื่อเรียกส่วนท้ายของด้ามจับมีด
มีดชนิดแรกที่เชฟทุกคนจะต้องมีก็คือ
"Chef Knife" 👩🍳
CHEF KNIFE
ใบมีดที่โค้งใหญ่ช่วยให้สามารถโยกไปข้างหน้าและข้างบนเขียงซึ่งทำให้มันเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสับและหั่นผักจำนวนมากในคราวเดียว บริเวณส้นกว้างหมายถึงสามารถทนแรงกดได้มากขึ้นในระหว่างการสับงานหนักซึ่งมีประโยชน์สำหรับการหั่นวัตถุดิบหนาๆ
มีดเชฟสามารถใช้ประโยชน์รอบด้านและเป็นหนึ่งในมีดที่หลากหลายที่สุด
ในห้องครัว
"Paring Knife"🍅
PARING KNIFE
ใบมีดสั้นเรียวบางที่มีปลายแหลม ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเหมาะกับงานที่ละเอียดอ่อน เช่น ปลอกเปลือก แกะเมล็ด ฯลฯ
"Bread Knife (Pastry Knife)"🍞
BREAD KNIFE
ใบมีดยาวที่มีขอบหยักที่คม รูปทรงคล้ายเลื่อย มีดประเภทนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้หั่นของที่มีความนิ่มเพราะขอบร่องจะช่วยให้เชฟหั่นขนมปังโดยที่ไม่ทำลายขอบนอก
หลายๆคนอาจจะเคยเจอปัญหาในการหั่นมะเขือเทศ เชื่อไหมคะว่ามีดนี้ก็สามารถหั่นมะเขือเทศได้ดีเช่นกันเพราะรอยหยักจะช่วยประคองมะเขือเทศไว้ ตอนแรกแอลก็ไม่รู้เหมือนกันแต่เชฟเพื่อนร่วมงานแนะนำมาค่ะ
"Boning Knife"🐔
BONING KNIFE
ใบมีดที่บางเฉียบและคมมากกกก ทรงเรียวขึ้นไปจนถึงปลายแหลม
มีขนาดสั้น (ประมาณ 6 นิ้ว)
มีดนี้เป็นมีดที่เหมาะที่สุดสำหรับการตัดกระดูกและกระดูกอ่อนของเนื้อสัตว์เพื่อให้เนื้อมีขนาดที่สมบูรณ์ก่อนปรุงอาหาร ปลายแหลมและใบมีดที่บาง
ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีในการตัดรอบกระดูกโดยไม่ทำลายเนื้อบริเวณโดย
รอบ
"Butcher Knife"🐷
BUTCHER KNIFE
มีใบมีดแบนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหลายขนาดขึ้นอยู่กับการใช้งาน เป็นหนึ่ง
ในมีดที่กว้างที่สุดและหนักที่สุดและบางครั้งก็มีรูอยู่ใกล้กับสันของใบมีดเพื่อใช้แขวนเวลาไม่ได้ใช้งาน
มีดนี้ใช้ในการสับเนื้อดิบ โดยออกแบบที่มีขนาดใหญ่และหนักเพื่อตัดผ่าน
กระดูก
"Filleting Knife" 🐟
FILLETING KNIFE
ใบมีดที่ยาว,บางเฉียบและยืดหยุ่น เป็นมีดที่คมและปลายแหลมมากเหมาะ
สำหรับการเจาะทะลุผิวหนังและเพื่อให้สามารถกำจัดกระดูกที่ซับซ้อนได้ มันมีลักษณะคล้ายกับมีด boning แต่ใบมีดบางและมีความยืดหยุ่นมากกว่า
มีดนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการกำจัดกระดูกโดยที่ไม่ทำลายเนื้อปลาที่ละเอียดอ่อน มีดนี้ทำให้พ่อครัวสามารถตัดกระดูกสันหลังของปลาทั้งตัวเพื่อสร้าง
ชิ้นเนื้อที่สมบูรณ์แบบ มีดที่ดีสำหรับงานทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับปลา
นอกเหนือจากที่กล่าวมานั้นยังมีมีดอีกหลายชนิดเลย
โดยส่วนใหญ่ที่นิยมใช้จะเป็น Chef's Knife กับ Paring Knife ค่ะ
ฝากกดไลค์และติดตามกันด้วยนะคะ✌️
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ🙏
ช่วงนี้ก็อาจจะเจอกันบ่อยหน่อยเพราะกักตัวอยู่บ้าน🏠
รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคนนนน🤗
โฆษณา