27 มี.ค. 2020 เวลา 02:50 • สุขภาพ
เหตุเกิดจาก ความเชื่อ ล้วนๆ
“Cash is King” เงินสดคือพระเจ้า ยังใช้ได้เสมอ
ตั้งแต่ยุค โบราณมา แล้ว
อย่างในสงครามศักดิ์สิทธ์ ที่รบกับแทบเป็นแทบตาย
เหตุเพราะเชื่อ ไม่ตรงกันเรื่อง พระเจ้า คนละองค์
แต่เวลารบชนะ กลับยึดเอาเงิน ที่มีตราสัญลักษณ์
ของ อีกฝั่งไปใช้เฉยเลย
โดยไม่มีการรังเกียจ แต่อย่างใด
มาจนถึงสมัยนี้ ที่เกิดวิกฤติ ไวรัส ระบาด ทั่วโลก
ทรัพสินทุกอย่าง มูลค่าลดลงหมด หุ้น,ทอง,คริปโต,พันธบัตร
ทุกคนหันเข้าหา “เงินสด” เพราะเชื่อว่า มันเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยอุ่นใจได้
ซึ่งก็ไม่ผิด
ในอดีต ในตลาดหุ้น ปี 2540 มูลค่าตลาดลดลงโดยรวม 80%
(ลงทุนไป100บาท มูลค่าลดเหลือ 20บาท)
ปี 2008 (วิกฤติแฮมเบอเกอร์) มูลค่าตลาดไทย ลดลง 50%
มาปีนี้ 2020 (ปัจจุบัน มีค 63)
ตลาดหุ้นไทย มูลค่าลดลงเกือบ 30% (ใครลงไป1 ล้าน
ตอนนี้จะเหลือ 7 แสน)
เป็นเพราะทุกคน ไม่เชื่อถือในตลาด และเกิดความกลัวว่า
ทรัพย์สินของตัวเอง จะมีมูลค่าลดลงไปเรื่อยๆ
จึงรีบแห่ขาย หนีตายออกมา
นักลงทุน เห็นว่า วิกฤติไวรัส นี้ เศรษฐกิจ อาจจะไปไม่ไหว
จึงแห่กันถือเงินสด ดีกว่า
ขายทุกราคา ทุกทรัพย์สิน มาถือเงินสด แทน
รวมถึง ตลาดตราสารหนี้ ก็ลดลงด้วยเช่นกัน
ตลาดตราสารหนี้ มีมูลค่า 13 ล้านๆ(ตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนราวๆ 4-6 %)
และใน ตลาดหุ้น มีมูลค่า ราวๆ 16 ล้านๆ
คลัง/ธปท/กลต เริ่มเห็นควันไฟ ในตลาดตราสารหนี้
จึงออกมาตรการอุ้ม ตลาดตราสารหนี้ ซึ่งมีมูลค่า 13 ล้านๆ(ล้าน2ครั้ง)
โดยจะใช้เงิน ประมาณ 1 ล้านๆ(ประมาณ 8% ของมูลค่าตลาด) เข้าไปอุ้ม
“ถ้าพวกเอ็ง จะถอนเงิน ก่อนกำหนด มาเลย ข้ามีให้ถอน โว้ย”
(ตอนนี้มี 1ล้านๆ วางใว้ขู่)
แรกๆ ก็อาจช่วยได้ เพื่อจะทำให้ ขวัญและกำลังใจ นักลงทุน ส่วนใหญ่ ดีขึ้น
ไม่รีบเทขาย จนตายหมู่ ทั้งระบบ
(ธุรกิจประกันทั้งหลาย ซื้อไว้เพียบเลยเธอ)
(“เออหว่ะ รัฐรับประกันโว้ย มั่นคงนะโว้ย”) นักลงทุน กวางน้อย
รึพึงกับตัวเอง
แต่นักลงทุนบางส่วน ที่ไม่มั่นใจ ก็อาจเทขายอยู่ดี
(นักลงทุนรวมถึงทั้งต่างชาติและคนไทย)
ประมาณว่า เอ็งอุ้มอันใหน ข้ากลัว อันนั้น
(“เอ็งมันตัวเล็ก ไม่มีแรงอุ้มหรอก อุ้มได้แป๊บเดียวเดี๋ยวก็เมื่อย
ก็ต้องวางอยู่ดี”)
นักลงทุน แมลงสาบ รึพึงกับตัวเอง
เพราะนักลงทุนพวกนี้ เขาเห็นประวัติศาสตร์ แล้วว่า การเข้าไปอุ้ม
หรือการแทรกแซง เช่น การอุ้มค่าเงิน ให้อยู่ที่ 25 บาท
ในขณะที่ทั้งโลกไหลไป 50 บาทแล้ว สุดท้ายมันเป็นยังไง
ลองคิดดูว่า ตลาดตราสารหนี้ มูลค่า 13 ล้านๆ ถ้ามันตกลงไป 50%
ถ้าจะให้เท่าทุน ต้องใช้เงินอุ้มกี่บาท
งบประมาณแผ่นดิน เราอยู่ที่ 3.2 ล้านๆ เรียกว่าหมดตัวกันพอดี
อันนี้ยังไม่รวมตลาดหุ้น ที่คิดจะอุ้มกันอีกนะ (กองทุนพยุงหุ้นไงล่ะเธอ)
แต่ช่วงนี้เห็นเงียบไปละ
จึงต้องมาดูว่ามาตรการที่ออกมา จะช่วยอุดรอยรั่ว ได้ไหม
หรืออุดได้ชั่วคราวแล้วรั่วต่อ
ถ้ารั่วต่อแล้วจะอุดต่อไหม
หรือจะพอแค่นี้
“เชิญไปเผชิญวิบากกกรรมกันเอาเองนะ ฉันก็ไม่ไหวแล้ว” เหล่า เทวดารึพึงกับตัวเอง
ทีนี้ถ้าใครเป็นฝั่งนักลงทุน ก็ต้องมาดูละว่าจะเลือกแทงฝั่งใหน
ถ้ามั่นใจ เชื่อมั่น ก็ถือต่อ
ถ้าไม่มั่นใจ ก็ขาย หนีออกมาถือเงินสด รอจังหวะ Garden(สวน)
หรือถ้ามีเทคนิค ดีๆ และใจถึง และมองขาด ว่าอย่างไรก็ไปไม่รอดแน่ อย่างพวกที่เล่น Short***
ก็อาจรวยได้ จากวิกฤตินี้เลยนะเธอ
(***ปรกติการทำกำไรคือ ซื้อถูก-ขายแพง แต่ Short คือการขายแพงก่อน
แล้วจึงไปซื้อถูก)
แต่ก็ไม่แน่หลังออกมาตรการมา 2 วัน วันนี้ เขียวทั้งตลาดเลย(26/03/63)
ปล. ลองหาหนังเรื่อง The BIG Short ใน NETFLIX มาดูกัน
โฆษณา