29 มี.ค. 2020 เวลา 14:33 • สุขภาพ
การดำรงชีวิตท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 มันทำให้คิดนะคะ ว่าเมื่อมนุษย์ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ทำตามกิเลสน้อยลง โลกและชีวิตเราจะดีขึ้นอย่างไรบ้าง
กทม.ในตอนนี้ที่ถนนไม่มีรถมากมายเหมือนก่อน ห้างปิดตัวลงทำให้ผู้คนซื้อของฟุ่มเฟือยน้อยลง ไม่ขับรถออกไปเที่ยว รถไม่ติด ฝุ่นควันที่เกิดจากท่อไอเสียรถก็น้อยลง สิ่งที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดก็คือเรื่องสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศค่ะ ฝุ่น pm 2.5 ดีขึ้นมากจริงๆ
จากเมื่อก่อนที่เราทำงานกันอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีเวลาแม้แต่จะทำอาหารดีๆให้ตัวเอง และคนในครอบครัวกิน ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะพูดคุยกับคนในครอบครัว ใช้ชีวิตด้วยความเร่งรีบ เพราะถูกงานและเงินกลืนกินชีวิต
บ่อยครั้งที่เราเลือกซื้ออาหารง่ายๆ ทานสะดวก ประหยัดเวลา โดยไม่คำนึงถึงสุขภาพ
พอมีสถานการณ์แบบนี้แล้ว เราได้มีโอกาสช่วยกันทำอาหารดีๆมีประโยชน์ทำกินกันภายในครอบครัว จากที่ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะทำ และได้พบว่ามันรู้สึกดีกว่าเมื่อก่อนที่ซื้อเค้าแล้วต่างคนต่างกินมากจริงๆ
เราเริ่มมีเวลาที่หันกลับมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ใส่ใจคนในครอบครัวมากขึ้น :)
เมื่อก่อนนั้นคนส่วนใหญ่ตื่นเช้ามาก็ออกไปทำงาน เย็นกลับมาบ้าน อาบน้ำ พักผ่อน บางคนก็หอบเอางานกลับมาทำต่อที่บ้าน รุ่งเช้าก็ออกไปทำงานใหม่ แทบจะไม่มีเวลาคุยกับคนในครอบครัว ชีวิตเป็นแบบนี้จนเคยชิน จนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ
สิ่งที่เราทำอยู่มันเป็นระบบที่เราเห็นจนชินตา และทำตามๆกันไป
โดยเหตุผลที่เราต้องมาทำแบบนี้ก็คือ “เงิน”
เราใช้ชีวิตโดยใช้ “เงิน” เป็นที่ตั้ง เป็นบรรทัดฐานการดำรงชีวิตในทุกๆเรื่อง
เราตีค่าตีราคาสิ่งต่างๆด้วย “เงิน”
อะไรที่มีราคาสูง เราก็ให้ค่ากับสิ่งๆนั้นมาก โดยที่ไม่คำนึงถึงประโยชน์ที่แท้จริงของสิ่งๆนั้นที่มีต่อเรา
เมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้ ทำให้เห็นว่า ถ้าเรามี “เงิน”แต่ไม่สามารถเอาเงินไปใช้ตามที่เราต้องการได้มันเป็นอย่างไร ถึงแม้คุณจะมีเงินเป็นพันล้าน คุณก็ออกไปเดินช้อปปิ้งเสื้อผ้า กระเป๋าแบรนด์เนมแพงๆไม่ได้
เราทำได้แค่อยู่บ้าน...มันทำให้เห็นว่าสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีในชีวิตจริงๆคืออะไร อะไรที่เราจำเป็นต้องใช้แค่เพื่อให้ชีวิตเราดำรงอยู่ได้
ในสถานการณ์ที่เราเห็นว่าสิ่งของแพงๆสำคัญน้อยกว่าปัจจัย 4
เสื้อผ้าแพงๆสำคัญน้อยกว่ายา และอาหาร
ทำให้เห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องมีเงินมากขนาดนั้นเราก็สามารถอยู่ได้ ถ้าเราใช้จ่ายแค่ที่จำเป็นต้องจ่าย
ทำให้เห็นว่าเมื่อก่อนเราใช้เงินไปอย่างฟุ่มเฟือยแค่ไหน เราซื้อของแค่เพียงเพราะเราเห็นมันแล้วเราชอบ เราอยากได้ ทั้งๆที่มันไม่จำเป็นต้องมีก็ได้
ในวันนี้ที่”เงิน” ไม่สามารถเอามาใช้ตามใจเราได้ และเราไม่สามารถได้อะไรที่อยากได้มาเป็นของเราได้
ทำให้เราไม่สามารถทำตามกิเลสเหมือนแต่ก่อนได้ แต่เรากลับมีเวลาทำอะไรที่ทำแล้วรู้สึกดี มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อชีวิตเราและคนที่เรารักมากขึ้น
มันทำให้เราคิดได้ว่าถ้าเราต้องเลือกระหว่างเงินกับเวลา เช่น มีคนเสนองานให้เราแบบเงินเดือนเยอะมาก เราสามารถเอาเงินนั่นไปทำตามกิเลส ซื้อของต่างๆที่อยากได้ได้มากมายตามใจชอบ แต่ต้องทำงานหนักมีเวลาพักไปทำอย่างอื่นที่เรารักที่เราชอบน้อยมาก
กับ
การที่เราทำงานที่เรารักและรู้สึกว่ามันเป็นงานที่มีคุณค่า มีเวลาพักตามที่เราพอใจ แต่ได้เงินเดือนน้อยแต่ก็เป็นเงินที่สามารเลี้ยงชีพเราและคนที่เรารักได้อย่างพอเพียง
เราจะเลือกเวลาที่จะมีความสุข โดยไม่ต้องใช้เงิน หรือจะเลือกเงิน ที่ต้องใช้เวลาหามา เพื่อไปแลกความสุขโดยการใช้เงินทำตามกิเลสอีกที และความสุขที่ได้มาก็อยู่ได้ไม่นาน
สถานการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่าความสุขที่ไม่ต้องพึ่ง “เงิน” มันเป็นอย่างไร
ทำให้เรารู้ว่าความสุขที่ไม่ต้องทำตามกิเลสมันเป็นอย่างไร...
ขอบคุณภาพ:
โฆษณา