30 มี.ค. 2020 เวลา 06:11 • การศึกษา
แตกศัพท์กับ COVID-19 ตอน Social Distancing vs Self-Quarantine
วันนี้มาเกาะกระแส COVID กันต่อกับศัพท์เกี่ยวกับ social distancing และ self-quarantine มาดูกันว่าจาก 2 คำนี้ สามารถแตกลูก แตกหลานเป็นอะไรได้บ้าง
credit: safetyandhealthmagazine.com
1. social distancing = การเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใกล้ชิด สัมผัสกัน
ปกติเราจะรู้จักคำว่า distance /ดิส-เตินส์/ ที่เป็นคำนาม แปลว่า “ระยะทาง หรือ ระยะห่าง” แต่เมื่อใช้เป็น
กริยา จะแปลว่า “รักษาระยะห่าง เว้นระยะห่าง”
*ตัวอย่างประโยคเมื่อใช้ distance เป็นคำนาม
The distance from Phuket to Phang-Nga is about 90 kilometers.
(ระยะทางจากภูเก็ตไปพังงาประมาณ 90 กิโลเมตร)
*ตัวอย่างประโยคเมื่อใช้ distance เป็นกริยา
Please distance yourself from my husband.
(โปรดรักษาระยะห่างระหว่างหล่อนกับผัวฉันด้วยนะ... ไม่งั้นมีตบ!)
แต่ในคำว่า social distancing ใช้ distance ที่เป็นคำกริยา แล้วเติม -ing ทำให้กริยากลายเป็นนามได้เลย จำแค่นี้ ไม่อยากแกรมม่าเยอะกว่านี้ เดี๋ยวจะงงกัน
พักก่อน
บางคนอาจจะเคยเห็นคำว่า distant /ดิส-เตินท์/ ที่แปลว่า “ห่างไกล (ใช้กับระยะทาง + เวลา)” ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ (ตำแหน่งของคำคุณศัพท์จะอยู่หน้าคำนาม หรือ หลัง V. to be (is, am, are, was, were, been) )
ในกรณีของ distant สามารถอยู่ได้ทั้ง 2 ตำแหน่ง เช่น
1. หน้านาม
In the distant future, my family and I might move to New York permanently.
(ในอนาคตอีกนาน ฉันและครอบครัวคงจะย้ายไปอยู่นิวยอร์คถาวร)
2. หลัง V. to be…
The beach is about 1 kilometer distant.
(หาดห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร)
คำว่า social เป็นคำคุณศัพท์ แปลว่า “ทางสังคม หรือ เกี่ยวกับสังคม” คำนี้นิยมไว้หน้าคำนาม เช่นคำที่เราคุ้นกันดีอย่าง social media หรือโซเชียลนั่นแหละ แต่เวลาคุยกับฝรั่ง อย่าโป๊ะ ใช้คำว่า social ลอย ๆ ไม่ได้เด็ดขาด ฝรั่งจะแบบ อิหยังวะ และจริง ๆ ฝรั่งออกเสียงว่า /โซ้-เฉิ่ล/
มีหลายครั้งที่แอดได้ยินทั้งจากนักเรียนและคนรอบตัวใช้คำว่า social ไว้ข้างหลังคำอีกคำหนึ่ง แทนที่จะเป็น society /เสอะ-ซ้าย-เอ-ถี่/ ที่แปลว่า “สังคม” เช่น ถ้าเราจะพูดว่าสังคมไทย ให้ใช้ Thai society ไม่ใช่ Thai social จำไว้นะครับว่า social วางหน้านามเท่านั้น อยู่หลังไม่ได้
อีกคำนึงที่หลายคนอาจคุ้นกันคือ social work คือ “งานเพื่อช่วยเหลือสังคม” ส่วน social worker คือ “คนที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคม”
ตอนเราเรียนหนังสือ มี ”วิชาสังคม” ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า social science หรือ social studies ซึ่งเน้นการศึกษาภาพรวมทางสังคมและวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง ศาสนา แต่อย่าสับสันกับ sociology /โซ-ซิ-อ๊อ-ลอ-จิ/ นะครับ คำนี้แปลว่า “สังคมวิทยา” ซึ่งเน้น
ศึกษาเรื่องของพฤติกรรมของกลุ่มคนในสังคม
หรืออย่างคำว่า “สัตว์สังคม” ฝรั่งใช้คำว่า social animal ซึ่ง มนุษย์ถือเป็นสัตว์สังคม และสัตว์สังคม ก็ต้องมี social life หรือ social relation หรือ
social interaction คือ “การมีปฏิสัมพันทางสังคม การใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นในสังคม ไม่อยู่เงียบ ๆ คนเดียว”
และคนที่มี social life แสดงว่าเป็นคนชอบ socialize (สะกดแบบอเมริกัน)/ socialise (สะกดแบบอังกฤษ) เป็นกริยา แปลว่า “เข้าสังคม ชอบรวมกลุ่มกับเพื่อนไปเที่ยว ไปสังสรรค์” แต่ช่วงนี้ ต้องพักก่อน งด socialize ก่อนนะ แอดเป็นห่วง
credit: wilx.com
2. self-quarantine = การกักตัวเอง สำหรับคนที่มีความใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ เพื่อไม่ให้พบเจอผู้คน หรือไม่ให้ผู้คนเข้ามาเยี่ยมเยือน โดยมีกำหนดระยะเวลา
quarantine /คว้อ-เริน-ทีน/ เป็นได้ทั้งนาม และกริยา แปลว่า “กักกัน หรือ กักตัว” ใช้ได้ทั้งกับคนและสัตว์ที่ป่วยเป็นโรคระบาด
*ตัวอย่างประโยคที่ใช้ quarantine เป็นนาม
We are in quarantine for 14 days after having been exposed to a COVID-19 infected person.
(เรากักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน หลังจากได้ใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อ COVID-19)
*ตัวอย่างประโยคที่ใช้ quarantine เป็นกริยา
The employees of a restaurant were quarantined after one of the workers there was diagnosed COVID-19 active.
(พนักงานร้านอาหารถูกสั่งให้กักตัวหลังจากหนึ่งในพนักงานที่ร้านนั้นโดนตรวจพบว่ามีเชื้อ COVID-19)
มีคำที่คล้าย ๆ กับ quarantine ก็คือ isolation /ไอ๊-เซอ-เล้-อิ-เชิ่น/ แปลตรง ๆ ว่าการแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว แต่ในสถานการณ์โควิด ใช้สำหรับคนที่ติดเชื้อแล้ว ให้แยกตัวจากคนที่บ้าน หรือคนใกล้ชิด เหมือนในเคสแมทธิว กับลิเดีย ที่ต้องแยกกันอยู่หลังจากตรวจเจอว่ามีเชื้อ
หวังว่าวันนี้คงได้รับความรู้ไปเต็ม ๆ นะครับ ถ้าใครที่ใช้คำไหนจนเคยชิน แล้วสามารสื่อสารกับฝรั่งเข้าใจ ก็ไม่ว่ากัน แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเพื่อน ๆ สามารถนำไปใช้ได้ถูกต้อง ทั้งการออกเสียง และการใช้คำ เพื่อน ๆ ก็จะใช้ภาษาอังกฤษได้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากขึ้น และสื่อสารได้ดีขึ้นด้วย วันนี้ฝากไว้เท่านี้ละกันครับ อย่าลืมติดตามกันเรื่อย ๆ นะครับ ^^
โฆษณา