การโกหกที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์
สวัสดี 1 เมษา วัน April Fool Day ( วันโกหกหน้าโง่ ) วันที่คนทั่วโลกเขาเล่นแกล้งกันด้วยการโกหกต่าง ๆ นานาและคุณจะไม่สามารถคิดโกรธคนที่โกหกวันนี้ได้ เพราะเป็นการยกเว้นให้โกหก ขำ ๆ ได้หนึ่งวัน แต่การโกหกเล่น ๆ ก็อย่าลืมใส่ใจกับคำว่า "กาลเทศะ" ด้วยนะครับ
ตั้งแต่วัยเด็กจนทุกปัจจุบันมีใครไม่เคยโกหกไหมครับ (อาจมี) แต่เราทุกคนล้วนผ่านการโกหกมาแล้วไม่มากก็น้อยทั้งจากตัวเองและจากคนอื่น บางคนอาจจะยังติดอยู่กับการโกหกนั้น และวนเวียนอยู่กับเรามาจนถึงปัจจุบันนี้
ผลของการโกหกนั้นย่อมออกมาในแง่ลบเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม สุดท้ายความจริงก็จะเปิดเผยออกมาในที่สุด
โกหกเพื่อให้คนอื่นสบายใจ โกหกเพื่อให้ตัวเองดูดี โกหกเพื่อหวังผลประโยนช์ โกหกเพื่อที่จะเอาชนะ ฯลฯ มีการโกหกมากมายสารพัดบนโลกใบนี้เกินกว่าจะบรรยายออกมาได้หมด แต่การโกหก ก็คือ การหลอกลวงอย่างหนึ่ง และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของการโกหกก็คือตอนที่ความจริงถูกเผยออกมา
## การโกหกที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์ คือ "การหลอก (สมอง) ตัวเอง"
ไม่ว่าจะการโกหกอะไรก็ตามบนโลกใบนี้ มักมีพื้นฐานมาจากการหลอกตัวเองทั้งนั้น หลอกไปหลอกมาจนบางทีอาจทำให้การเป็น "โรคหลอกตัวเอง"
โรคหลอกตัวเอง ( Pathological Liar ) ถือเป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่ง เกิดจากจากที่บุคคล หรือ ผู้ป่วยคนนั้นโกหกตัวเองไปเรื่อย ๆ โดยอาจมีจุดประสงค์เพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือต้องการเพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง
จุดเริ่มต้นของการหลอกตัวเอง คือการสร้างเรื่องแต่งขึ้นมาเพื่อหลบหนีความจริงที่ไม่อยากรับรู้ จึงสร้างเรื่องขึ้นมาซ้ำ ๆ กระทั่งเข้าใจว่าเรื่องที่สร้างคิดมานั้นกลายเป็นเรื่องจริง
ทฤษฎี 21 วัน กับ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์
ดร. แมคเวล มอลท์ ( Dr. Maxwell maltz) ได้อธิบายไว้ว่า การกระทำ จะตกผลึกกลายเป็นนิสัย โดยกระทำต่อเนื่องอย่างน้อย 21 วัน
ถ้าเราหลอกตัวเองไปเรื่อย ๆ สร้างสิ่งโกหกไปเรื่อย ๆ สุดท้ายแล้วเราก็จะวนเวียนติดอยู่กับการโกหกนั้นไปตลอดไป จนเราคิดว่ามันการเป็นเรื่องจริงและไม่ใช่เรื่องผิดอีกต่อไป และทำให้เราไม่สามมารถพูดความจริงออกมาได้ เพราะถูกความกลัวเข้าครอบงำ
สมองของเราก็เปรียบเสมือนแก้วเปล่าใบหนึ่ง เราสามารถเติม(เสพสื่อ)อะไรลงไปก็ได้ ซึ่งผลรับก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเติม(เสพ)ลงไป หากเราบอกว่าอยากที่จะมีสุขภาพที่ดีแต่เราไม่เคยเสพสิ่งที่เกี่ยวกับสุขภาพแล้วเราจะสุขภาพดีได้อย่างไร
# ไม่มีคนฉลาดคนใดบนโลกไม่อ่านหนังสือ ฉันใดก็ฉันนั้น ไม่มีคนโง่ที่ฉลาดได้โดยไม่ต้องอ่านหนังสือ
หากจะให้เห็นภาพมากขึ้นกับ "การหลอกตัวเอง" ลองมองออกไปรอบ ๆ ตัว นึกย้อนไปสิ่งที่เคยเจอมา ทำไมยังมีคนที่มีอาการติดเหล้า ทำไมบางคนยังสูบบุหรี่ ทำไมถึงมีคนขับรถย้อนศร เรื่องเหล่านี้เราถูกพร่ำสอนร่ำเรียนกันมาตั้งแต่เด็กจนโตว่า "ไม่ดี"
.
แต่ทำไมเรายังทำ??
นั้นก็เป็นเพราะเราหลอก(สมอง)ตัวเอง ว่าสิ่งนี้ไม่เป็นไร กินนิดเดียวไม่เห็นเป็นไร กินทุกวันมาเป็นปีแล้วก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย สมองเราได้ถูกหลอกไปเรียบร้อยเสียแล้ว สิ่ง ๆ นั้นได้กลายเป็น"นิสัย"ของเราซึ่งยากต่อการแก้เสียแล้ว
ทุกวัน ๆ ที่ผ่านไปของเราตอนนี้ มีบางคนไม่ใส่หน้ากาก ไม่ล้างมือ และยังไปทำงาน ใช้ชีวิตเหมือนปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางสถานที่ทำงานก็ยังแอบเปิด เพราะคิดว่าไม่เป็นไร
เรากำลังโกหกว่า "เงิน" สำคัญกว่า "โรคระบาด" หรือชีวิต เรากำลังโกหกว่าเราแข็งแรงไม่เป็นอะไรหรอก เรากำลังโกหกว่า ไม่ได้เข้าใกล้ใคร ไม่ได้ไปพื้นที่อันตราย ประเทศไทยคนติดเชื้อหลักพันเอง ไม่เป็นไรหรอก
ตลกร้ายของการโกหก คือ ถ้าสิ่งที่เราโกหก นั้นเกิดขึ้นจริง และเกิดกับตัวเอง เรามักพูดย้อนกลับมาว่า " รู้งี้ ไม่น่าทำแบบนั้นเลย "
# การหลอกตัวเองของคนทั้งโลก
อีกหนึ่งเรื่องของคำโกหกที่ให้ที่สุดที่เรากำลังหลอกตัวเองอยู่กันตอนนี้
คือ "ปฎิเสธภาวะโลกร้อน"
นาซ่าเผยภาพถ่ายทางอากาศของเกาะอีเกิล ที่มีระยะห่างกันแค่ 10 วัน แต่น้ำแข็งนั้นละลายอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ชัด
ใช่ครับ อาจฟังดูเป็นเรื่องแปลก แต่มันคือเรื่องจริง มันคือคำโกหกคำโตที่ทุกคนช่วยกันปิดปังและซ่อนไว้กดมันไว้ใต้สมองและบอกว่าไม่เป็นไร
ปัญหาโลกร้อนถูกพูดถึงมานานนับสิบปี ว่าเกิดขึ้นจริง และเลวร้ายขึ้นทุกวัน แต่ทำไมปัญหามันถึงหนักขึ้นเรื่อย ๆ จน ต้องมีโรคระบาดออกมายับยั้ง (เราหยุดเหตุการณ์นี้เองไม่ได้)
ตราบใดที่น้ำจากน้ำแข็งจากขั้วโลกยังไม่เอ่อล้มท่วมหน้าบ้าน ขยะพลาสติกที่เราทิ้งยังไม่กลายเป็นไมโครพลาสติกให้เราเห็นได้ชัด สัตว์ยังไม่สูญพันธุ์จนเรารู้สึก อุณหภูมิที่เปลี่ยนไปยังไม่ร้อนเข้าไปถึงในห้องแอร์ของเรา เราก็จะหลอกตัวเองต่อไปว่า "โลกยังไม่ร้อน"
อย่าให้คำโกหกเหล่านี้ย้อนกับมาทำร้ายตัวเองให้อนาคต หันกลับมายอมรับความจริง เผชิญหน้ากับปัญหา
ไม่ใช่แค่กับปัญหา"ภาวะโลกร้อน"เท่านั้น หากเราลองสังเกตุปัญหาส่วนใหญ่ล้วนมาจากเราที่ไม่ยอมรับความจริง อย่างเช่น ปัญหาเรื่องเงิน ที่ทุกคนอยากมีเงิน แต่ไม่ยอมลงมือทำ หรือพัฒนาตัวเอง ยังหลอกตัวเองว่าตอนนี้ก็ยังสบายอยู่เลย ไม่ต้องรีบ ไม่เดือดร้อน แต่ถ้าวันใดความโกหกนั้นกลายเป็นจริงขึ้นมา คุณจะทำเช่นไร ?
# สุขสันต์วันโกหกครับ
ข้อคิดจากคนเข้าป่า : การโกหกไม่เคยตลก
เรียบเรียงโดย : เรื่องเล่าคนเข้าป่า
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
