5 เม.ย. 2020 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน
Happy Birthday Ice Cream Sundae!! 🥳🥳🥳
ไอศกรีมซันเด (Sundae) ที่มากกว่า วันอาทิตย์ (Sunday) ที่มีมากว่า 128 ปี
ร้อนโว้ย!!!! ร้อนเรือหาย!!! จะเป็นคำบ่นที่จะเราพูดกันบ่อยและได้ยินบ่อยที่สุดในช่วงเดือนเมษาอันร้อนแรงนี้กันตลอดมา....และตลอดไป
เดือนเมษานับเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดในประเทศไทย ทำให้ช่วงนี้เราจะเริ่มมองหากิจกรรมดับร้อนกันมากที่สุด และวิธีที่แอดเลือกใช้บ่อยที่สุด (แม้จะไม่ได้อยู่ในฤดูร้อนแต่เมื่อร้อนก็ต้องจัด) นั่นก็คือการหาไอศกรีมกิน
แอดมักเข้าใช้บริการร้านไอศกรีม Swensen เพราะหาง่าย เมนูเยอะ และเพราะไอศกรีมซันเดย์ที่แอดชอบสั่งนี่แหละ
แต่เคยสงสัยกันไหมทำไม ไอศกรีมซันเดต้องมาชื่อพ้องกับซันเดย์ของวันอาทิตย์แล้วทำไมตัวสะกดของคำว่า Sundae ของไอศกรีมไม่เป็นตัว Y ซึ่งของหวานกินเล่นแก้ดับร้อนชื่อดังอย่างไอศกรีมซันเดเนี่ยมันมีที่มาไม่ธรรมดาเลยนะครับ
https://www.swensens1112.com/en/brandsite/icecream/sundae
วันนี้แอดจะมาเล่าให้ฟังกันครับ
ไอศกรีมซันเด (Ice Cream Sundae) มีเรื่องเล่าถึงที่มาของมันไว้หลากหลายเลยครับ แต่แอดอยากเริ่มต้นจากประวัติความเป็นมาที่ถูกเขียนไว้บนเว็บไซต์อันเป็นทางการของไอศกรีมซันเดให้ได้อ่านกันก่อน เพราะการที่ของหวานชนิดหนึ่งจะมีเว็บไซต์ชื่อเดียวกันอย่างเป็นทางการเพื่อให้ความรู้นั้นแสดงถึงความนิยมในตัวของหวานชนิดนี้เป็นอย่างสูง จากกินเล่นๆเป็นจริงจังกันซะล่ะ
ในเว็ปไซต์ icecreamsundae.com ระบุไว้ว่า ไอศกรีมซันเด เกิดจากร้านยาท้องถิ่นชื่อดังใน เมืองอีทากา (Ithaca) รัฐนิวยอร์ก (New York) อย่าง Platt & Colt Pharmacy ที่มีเจ้าของชื่อ Chester Platt ชอบกินไอศกรีมวานิลลาในวันอาทิตย์หลังจากไปโบสถ์
แต่แล้วอยู่ๆนายเชสเตอร์ก็เกิดปิ๊งไอเดียตักไอศกรีมใส่แก้วแชมเปญแล้วนำไซรัป (Syrup) รสเชอร์รี่ราดบนไอศกรีมพร้อมวางเชอร์รี่แช่อิ่มไว้ข้างบนอีกที ออกมาวางขายและกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว
กระนั้นชื่อแรกที่ถูกตั้งให้ไอศกรีมชนิดนี้คือ เชอร์รี่ซันเดย์ (Cherry Sunday) เพราะมันถูกคิดค้นและเริ่มขายในวันอาทิตย์ และด้วยความนิยมทำให้นายเชสเตอร์ไปลงโฆษณา (Advertisement) ไอศกรีมชนิดนี้กับทางหนังสือพิมพ์ นั่นจึงกลายเป็นหลักฐานที่เก่าแก่และอ้างว่าเป็นจุดเริ่มต้นของไอศกรีมชนิดนี้ ดังนั้นวันเกิดของไอศกรีมชื่อดังนี้ก็คือ วันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1892
https://www.visitithaca.com/birthplace-of-the-sundae
อีกเรื่องราวหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงว่าเป็นที่มาของไอศกรีมซันเดก็คือ ไอศกรีมซันเดแห่งเมืองอีวานสตัน (Evanstan) ของรัฐอิลลินอยส์ (Illinois) เรื่องเล่าเวอร์ชั่นนี้จะอ้างอิงถึงข้อกฎหมายของรัฐอิลลินอยส์ที่ในช่วงปี 1890 มีการผ่านร่างกฎหมาย (Pass a law) ห้ามการขายน้ำโซดาในวันอาทิตย์ เพราะวันอาทิตย์ถือเป็นวันสะบะโต (Sabbath day) ซึ่งในอดีตชาวอเมริกันชอบมากกับการกินโซดากับไอศกรีม
วันสะบะโต หรือ ซับบาธ (Sabbath day) ถือเป็นวันสำคัญทางศาสนาศริสต์และยูดาห์ และถือเป็นสองศาสนาที่มีการนับถือกันอย่างแพร่หลายในประเทศอเมริกา
วันอาทิตย์ (Sunday) ถือว่าเป็นวันสุดท้ายของการสร้างโลกของพระเจ้าและวันนั้นพระเจ้าพักผ่อนจากการทำงานหนักมา 6 วัน ซึ่งผู้นับถือศาสนาคริสต์และยูดาห์เรียกวันนี้ว่าวันสะบะโตและในวันนั้นผู้ที่นับถือจะต้องหยุดพักจากทุกกิจกรรม ผู้นับถือจะทำกิจกรรมทางศาสนาเช่น การสวดมนต์อธิฐาน การอ่านพระคัมภีร์ และการสักการะขอบคุณพระเจ้า
จากเหตุนี้จะเห็นได้ว่าการพักผ่อนด้วยการดื่มโซดากับไอศกรีมจึงไม่ควรทำ กฎหมายแห่งรัญอิลลินอยส์จึงออกมาเพื่อห้าม (Prohibit) การขายโซดา และทำให้ร้านค้าที่ทำการขายน้ำพุโซดา (Soda Fountain) หันมาขายไอศกรีมราดน้ำเชื่อมแทน
https://www.willcookforsmiles.com/green-apple-ice-cream-soda-float/
เรื่องราวเวอร์ชั่นที่สามก็จะมีที่มาจากร้านที่ขายเครื่องดื่มโซดาเช่นเดียวกับเวอร์ชั่นสองแต่อยู่ในคนละรัฐและคนละปี กล่าวก็คือ เกิดในรัฐวิสคอนซิน (Wisconsin) ในปี ค.ศ. 1881 ที่ร้านเบอร์เนอร์ส (Berners) มีลูกค้าคนหนึ่งเลือกให้ทางร้านเสิร์ฟไอศกรีมราดซอสไซรัปให้กับเขาแทนการใช้โซดา ซึ่งทางร้านชอบเมนูสุดสร้างสรรค์นี้จัดเพิ่มเข้าไปในเมนูร้าน และเช่นกันกับเวอร์ชั่นแรกเมนูนี้ ดังเป็นพลุแตก!!! จนทำให้วันอาทิตย์หลังการเข้าโบสถ์คนทยอยมากันจนทางร้านตัดสินใจขายในวันอื่นๆเช่นกัน
แต่อีกร้านหนึ่งในรัฐเดียวกันเจ้าของชื่อ จอร์จ กิฟฟี่ (George Giffy) เลือกที่จะเสิร์ฟไอศกรีมราดซอสไซรัปนี้เฉพาะในวันอาทิตย์เพื่อเพิ่มมูลค่าและทำการเปลี่ยนชื่อเมนูเป็น ไอศกรีมซันเด
https://www.sainsburysmagazine.co.uk/recipes/ice-cream/cherry-bakewell-sundae?utm_source=newsletter&utm_medium=email&utm_campaign=smemail190711
เอาละ มาถึงตรงนี้ ผู้อ่านคงอยากทราบแล้วว่าทำไม ไอศกรีมวันอาทิตย์ ถึงไม่เป็น Ice Cream Sunday แต่เป็น Ice Cream Sundae
แอดขอย้อนกลับไปที่ความสำคัญของวันสะบะโตแห่งการพักผ่อนและการอวยพรสวดมนต์ถึงพระเจ้านะครับ แม้จะดูเหมือนจะซับซ้อนขึ้นมาแต่จริงๆเหตุผลมันง่ายดายมากครับ
นั่นก็เพราะวันอาทิตย์ของผู้นับถือศาสนาคริสต์และยูดาห์มันศักดิ์สิทธิ์ ทางร้านต่างๆจึงขอเลี่ยงการสะกดคำในชื่อเมนูด้วยตัว Y และเปลี่ยนเป็นตัว E แต่เสียงยังเหมือนเดิม (คงไม่มีใครพยายามจะออกเสียงเป็น ซันแด หรอกใช่ไหมครับ....หรือมี???)
แค่นี้แหละครับสำหรับเหตุผลของ Sundae แต่เราจะเห็นเหตุผลอันซับซ้อนของความเชื่อผ่านของหวานชนิดนี้กันใช่ไหมครับ
https://paepatter.blogspot.com/2013/05/blog-post.html
กระนั้นไอศกรีมซันเดก็ไม่ได้หยุดวิวัฒนาการของมันเพราะเมื่อเริ่มด้วยความคิดสร้างสรรค์ไอศกรีมชนิดนี้จึงเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ของการสร้างสรรค์รูปแบบต่างๆออกไปอีกมากมาย ภาพที่เราเห็นกันจนชินตาก็คือ ภาพของท็อปปิ้งอันหลากหลายมากสีสัน ออกมาเป็นหลากหลายเมนู "Sundae"
ด้วยความนิยมอันมากมายนี้ทำให้เกิดสำนวนภาษาอังกฤษที่เอาลักษณะเด่นของไอศกรีมซันเดอย่าง การวางเชอร์รี่บนไอศกรีมไปใช้ เช่น Pretty please, with a cherry on top ซึ่งเป็นประโยคการอ้อนวอนขอร้องอย่างอ่อนหว๊านหวาน
ดังนั้นใครอยากขอร้องแฟนหรือภรรยาหรือแม่ในการ หนี เอ้ย ขอไปเที่ยวกับเพื่อน หรือ ขอซื้อของใด ก็ลองแนบสำนวนนี้ลงไปในท้ายประโยคขอร้องเหล่านั้นกันดูนะครับ (เผื่อรอด....ใครรอดไม่รอดมาแชร์กันด้วยนะครับ)
แต่ถ้าใครอยากที่จะอ่อนหว๊านหวานขึ้นไปอีกหลากหลายระดับก็เพิ่มท็อปปิ้งเข้าไปในประโยคนะครับ with whipped cream (วิปครีม) marsh mellow (มาร์ชเมลโล่) caramel (คาราเมล) เป็นต้น เอาเป็นว่าเคยเห็นท็อปปิ้งไหนบนไอศกรีมก็ใส่กันไปนะครับ
https://kindersleyalliance.com/2020/02/01/what-in-the-world-is-god-doing/
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและระวังการกินจนเป็นเบาหวานกันด้วยนะครับ อร่อยแต่พอดี (แอดเตือนตัวเอง)
https://www.delish.com/cooking/g1931/outrageous-ice-cream-sundaes/
โฆษณา