8 เม.ย. 2020 เวลา 10:30 • ประวัติศาสตร์
กองอาทมาฎ จากกองนักรบผู้รับใช้กษัตริย์สู่วิชาดาบที่ไม่อาจสอนให้ทุกคนได้ !!!
หลายคนคงไม่รู้ว่าประเทศของเรา มีวิชาดาบในระดับขั้นอันตรายและรุนแรง จนได้รับการยกย่องว่าเป็นวิชาดาบที่อันตรายเกินกว่าที่จะสอนให้กับ
คนทั่วไปได้!!
แล้ววิชาดาบที่ว่านี้เป็นยังไง รุนแรงขนาดไหน แล้วใครบ้างที่จะได้รับการฝึกฝน วันนี้สมองจ๋าจะมาเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่า วิชาดาบอาทมาฎเป็นวิชาดาบคู่ที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ยุคสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อลาดตระเวนหาข่าวของข้าศึกเรียกว่า "กองอาทมาฎ" โดยนักรบอาทมาฏทุกคนจะต้องมีวิชา อาคม อาบน้ำว่าน ลงยันต์ เพื่อความอยู่ยงคงกะพันขณะออกรบ และว่ากันว่ากองอาทมาฎถือเป็นกองรบผู้ใกล้ชิดกษัตริย์ ที่เปี่ยมไปด้วยคนมีฝีมือ และทำหน้าที่เป็นหน่วยสอดแนมหาข่าวของข้าศึก
แต่อย่างไรก็ตาม วิชาดาบอาทมาฎเองก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงในกลุ่มผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ เพราะมีหลักฐานว่าอาทมาฎไม่ใช่วิชาดาบ แต่น่าจะเป็นกองรบหาข่าวมากกว่า
โดยหนึ่งในกองอาทมาฎที่มีชื่อเสียง คือ กองอาทมาฎของขุนรองปลัดชูกรมการเมืองวิเศษไชยชาญ (ปัจจุบันคืออำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง) ผู้อาสานำชาวบ้าน 400 คน ไปออกรบยันข้าศึกจากอ่างทองไปจนถึงอ่าวหว้าขาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ร่วมกับพระยารัตนาธิเบศร์
ซึ่งการรบในครั้งนั้นกองอาทมาฎของขุนรองปลัดชูทั้ง 400 คน สามารถยันกับข้าศึกจากพม่ากว่า 8000 คน ตั้งแต่เช้ายันเที่ยง โดยที่ฝ่ายพม่าไม่สามารถเอาชนะได้
แต่สุดท้ายแล้วด้วยจำนวนที่น้อยกว่า กองทัพพม่าก็สามารถสังหารกองอาทมาฎทั้งหมดในวันนั้นได้ และเคลื่อนทัพมาตีกรุงศรีอยุทธยาจนแตกในที่สุด (เสียกรุงครั้งที่ 2)
ภาพจาก ภาพยนต์ 400 นักรบขุนรองปลัดชู
สำหรับจุดเด่นของวิชาดาบอาทมาฎจะเน้นความรวดเร็วและรุนแรง โดยที่นักรบอาทมาฎ 1 คน สามารถรับมือกับข้าศึก 4-5 คนในคราวเดียวกันได้แบบสบาย ๆ
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เวลาเราฟันดาบใส่คู่ต่อสู้ คู่ต่อสู้จะต้องใช้ดาบรับก่อนและถึงจะฟันกลับได้ แต่สำหรับวิชาดาบอาทมาฎแล้ว เมื่อข้าศึกฟันมา เราสามารถฟันกลับได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องใช้ดาบตั้งรับ!!
โดยเหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะจุดเด่นของวิชาดาบอาทมาฎคือรับและฟันทำในท่าเดียวกัน !!
สำหรับท่าแม่ไม้ของวิชาดาบนี้ มีท่าไม้รำด้วยกัน 12 ท่า ได้แก่
- เสือลากหาง
- พระรามแผลงศร
- เชิญเทียนตัดเทียน
- ฟันเงื้อสีดา
- มอญส่องกล้อง
- ช้างประสานงา และ กาล้วงไส้
- ท่ายักษ์
- หงส์ปีกหัก
- สอดสร้อยมาลา
- ฟันเรียงหมอน
- ลับหอกลับดาบ
- พญาครุฑยุดนาค
และมีแม่ไม้อีก 3 ท่าได้แก่
- คลุมไตรภพ
- ตลบสิงขร
- ย้อนฟองสมุทร
แต่!! ยังมีอีก 1 ท่า ที่ไม่ถูกสอน เพราะถือเป็นท่าที่อันตรายที่สุด และเป็นท่าไม้ตายสุดท้าย เอาไว้ใช้กับศิษย์คิดล้างครู โดยฟันเพียงดาบเดียวก็ทำให้ผู้นั้นเสียชีวิตได้!!!
ซึ่งท่าที่ว่านี้ คือ ท่า "หนุมานเหินหาว" โดยท่านี้จะไม่สอนให้ใครง่าย ๆ เพราะก้าวเพียงก้าวเดียวก็ปลิดชีพศัตรูได้ทันที!!
แล้ววิชาดาบอาทมาฎ ปัจจุบันสอนให้กับใคร??
สำหรับในปัจจุบัน มีการเปิดสำนักศิลปะการต่อสู้อาทมาฎที่สาทร กรุงเทพมหานคร และถูกนำมาสอนให้กับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ส่วนสำหรับคนทั่วไปผู้ที่จะเข้าเรียนได้นั้นจะต้องเป็นผู้มีคุณธรรม เรียนเพื่อป้องกันตัว ไม่คิดทำร้ายผู้อื่น ถึงจะได้รับการคัดเลือกการฝึกได้ หรือพูดง่ายๆ คือ ขึ้นอยู่กับเจ้าสำนักว่าพอใจจะรับหรือไม่นั่นเอง
และนี่ก็ถือเป็นเรื่องราวของวิชาดาบไทย ที่ครั้งหนึ่่งบรรพบุรุษไทยเราเคยนำมาใช้เพื่อปกป้องบ้านเมือง และถึงแม้จะไม่ได้เป็นวิชาดาบที่คนส่วนใหญ่รู้จักมากนัก แต่อย่างน้อยก็น่าดีใจที่วิชาดาบของบรรพบุรุษยังคงได้รับการสืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน
♥️
รัก
โฆษณา