3 เม.ย. 2020 เวลา 02:40 • สุขภาพ
จีนกำลังไล่ตาม การแพทย์ตะวันตกให้ทัน
ยาจีนอาจถูกมองว่าเป็นยาบำรุงร่างกาย มากกว่ายารักษาโรค
แต่เชื่อไหมว่าการแพทย์แผนจีนไม่ได้มีดีแค่ยาบำรุงร่างกาย
ในปี 2019 สภารัฐกิจจีน ได้คาดการณ์ว่าปี 2020 นี้อุตสาหกรรมการแพทย์แผนจีนอาจมีมูลค่าสูงถึง
3 ล้านล้านหยวน หรือ ประมาณ 14 ล้านล้านบาท
โดยรัฐบาลปักกิ่งตั้งใจว่าจะส่งเสริมการแพทย์แผนจีนไปพร้อมๆ กับโครงการ Belt and Road Initiative
และเชื่อไหมว่าวิกฤติ COVID-19 ได้กลายเป็นโอกาสให้กับการแพทย์แผนจีนได้แสดงศักยภาพ
การแพทย์แผนจีนถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้
เป็นเพราะจีนได้ส่งแพทย์แผนจีนเข้าร่วมการรักษาผู้ป่วย COVID-19
เริ่มจากการส่งแพทย์แผนจีนกว่า 5 พันคนไปยังเมืองอู่ฮั่น ในมลฑลหูเป่ย์
ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดหนักที่สุดในจีน
แล้วการแพทย์แผนจีนช่วยผู้ป่วย COVID-19 ได้ขนาดไหน
จากการรายงานของสำนักบริหารแพทย์แผนจีนแห่งชาติ พบว่า
“ประมาณ 91% ของผู้ป่วยภายในมณฑลหูเป่ย์ และ 96% ของผู้ป่วยนอกมณฑลหูเป่ย์
ที่ได้รับการรักษาด้วยแพทย์แผนจีนมีผลการรักษาออกมาเป็นที่น่าพอใจ”
นอกจากนี้ก็ยังมีหน่วยงาน แผนการวินิจฉัยและรักษาระดับชาติของทางการจีน ที่ได้ออกมายืนยันว่า
“โรงพยาบาลที่ตั้งขึ้นชั่วคราวได้อาศัยการรักษาจากแพทย์แผนจีนเป็นหลัก
จนทำให้ผู้ป่วยกว่า 564 รายไม่มีอาการทรุดลง”
Cr. XINHUANET
นอกจากแพทย์แผนจีนจะมีบทบาทสำคัญในการรักษาผู้ป่วยในจีนแล้ว
แพทย์แผนจีนก็กำลังก้าวขึ้นสู่บทบาทการรักษาผู้ป่วยในชาติอื่นๆ อีกด้วย
โดยจีนยังมีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ทวีปแอฟริกา
ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลัก ได้แก่
- ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในการรับมือกับโรค COVID-19
- ส่งแพทย์แผนจีนเข้าไปทำการรักษาโรคและอาการเจ็บป่วยทั่วไปในประเทศนามิเบีย โดยมีการรายงานว่าแพทย์แผนจีนได้ช่วยรักษาผู้ป่วยจากการเจ็บป่วยทั่วไปในนามิเบียมากกว่า 100 รายต่อวัน
เมื่อเห็นว่าการแพทย์แผนจีนสามารถรักษาผู้ป่วยได้จริง ประเทศนามิเบียจึงได้อนุมัติให้การแพทย์แผนจีนเป็นหนึ่งในวิธีการรักษา และประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกาก็ได้ประกาศตาม
Cr. XINHUANET
ในขณะเดียวกัน พยาบาลในนามิเบียที่ทำงานร่วมกับแพทย์แผนจีนยังต้องเรียนรู้เรื่องสมุนไพรจีน การรมยา การฝั่งเข็ม และการออกฤทธิ์ของสมุนไพรจีนอีกด้วย
ดังนั้น การเข้าไปช่วยเหลือทวีปแอฟริกาและการให้ความรู้เรื่องแพทย์แผนจีน
จึงเป็นการทำให้วงการแพทย์แผนจีนขยายวงกว้างและเข้าถึงผู้คนในชาติอื่นๆ ได้มากขึ้น
แม้ว่าจีนจะพยายามส่งเสริมและพัฒนาการแพทย์แผนจีนให้ก้าวหน้า
แต่ในขณะเดียวกัน วงการการแพทย์จีนก็ไม่ได้หยุดแค่การพัฒนาการแพทย์แผนจีนเท่านั้น
โดยจีนยังคงเร่งพัฒนาวัคซีนสำหรับป้องกัน COVID-19 และล่าสุดทางการจีนได้ประกาศว่า
วัคซีน mRNA สำหรับป้องกันโรค COVID-19 จะพร้อมทำการทดลองทางคลินิกในเดือนเมษายนนี้
Cr. XINHUANET
นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นก้าวที่สำคัญในวงการแพทย์จีน
เพราะถ้ามีวัคซีนรักษาโรค COVID-19 การควบคุมโรคระบาดก็จะง่ายขึ้น
จริงๆ แล้ว จีนยังคงอาศัยการรักษาด้วยแพทย์แผนตะวันตกอยู่ ส่วนแพทย์แผนจีนเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่วงการแพทย์จีนนำมาใช้รักษาผู้ป่วย
ซึ่งหากจีนจะขึ้นมาเป็นผู้นำทางการแพทย์จริงๆ อาจจะต้องพัฒนาเทคโนโลยีและยารักษาในแพทย์แผนปัจจุบันควบคู่กันไปด้วย
แล้วจีนยังต้องพยายามอีกแค่ไหนกว่าจะตามประเทศตะวันตกได้ทัน
จากการจัดอันดับความมั่นคงทางสุขภาพในปี 2019 ทำให้เราเห็นว่า
อันดับที่ 1 คือ สหรัฐอเมริกา
ส่วนจีนอยู่ในอันดับที่ 51 ของโลก
ดังนั้นจีนคงจะต้องเหนื่อยหน่อย ในการแซงขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ส่วนในความท้าทายที่สำคัญ คือ
การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับการแพทย์แผนจีน
แม้ว่าในปี 2018 องค์การอนามัยโลกจะให้การรับรองการแพทย์แผนจีนแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้หลายคนเชื่อถือในการแพทย์แผนจีนได้
ผู้ป่วย COVID-19 ในจีนบางรายไม่ยอมรับการรักษาด้วยยาจีน เพราะไม่เชื่อถือในตัวยาจีน
และคนยุโรปก็แทบจะไม่คุ้นเคยกับการรักษาด้วยแพทย์แผนจีน คงจะต้องพยายามอย่างหนักเพื่อให้พวกเขาเชื่อถือ
ยิ่งไปกว่านั้น องค์การอนามัยโลกยังทำให้ผู้คนเกิดความสับสน
เพราะก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกได้ออกมาแนะนำว่าไม่ควรรักษาโรค COVID-19 ด้วยแพทย์แผนจีน แต่ภายหลังก็ได้ถอนคำพูดโดยให้เหตุผลว่า
“การตัดสินใจลบข้อความดังกล่าวเป็นเพราะ การตีความที่กว้างเกินไปและไม่ได้คำนึงถึงประเด็นที่มีหลายคนใช้การแพทย์แผนจีนเพื่อบรรเทาอาการของโรค COVID-19”
Cr. XINHUANET
ดังนั้น มันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการไล่ตามการแพทย์ตะวันตกให้ทันเพียงอย่างเดียว
ยังต้องอาศัยการสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ผู้คนวางใจด้วย
แต่ความท้าทายนี้ก็อาจเป็นข้อได้เปรียบ เพราะจีนมีสิ่งที่ประเทศตะวันตกไม่มี อย่างเช่น พวกสมุนไพรจีน เรื่องนี้จึงอาจจะนำมาใช้เป็นจุดแข็งในการแพทย์จีนได้ เพราะถ้าจีนทำตามแบบการแพทย์ตะวันตกเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะไม่สามารถแซงประเทศอื่นๆ ขึ้นมาได้
เพราะเราก็เคยเห็นหลายๆ กรณีที่จีนเรียนรู้เทคโนโลยีจากประเทศอื่นๆ แล้วเอามาพัฒนาสินค้าของตนจนแซงหน้าหลายๆ บริษัทที่ผลิตมาก่อน
 
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับว่ามีความมั่นคงทางสุขภาพเป็นอันดับที่ 6 ของโลก
ไทยเป็นประเทศเดียวใน 10 อันดับแรก ที่เป็นประเทศรายได้ปานกลางระดับสูง
ส่วนอีก 9 ประเทศที่เหลือเป็นประเทศที่มีรายได้สูงทั้งหมด..
โฆษณา