5 เม.ย. 2020 เวลา 05:55 • สุขภาพ
การรับประทานวิตามินซีช่วยป้องกัน COVID-19 จริงหรือไม่?
การรับประทานวิตามินซีช่วยป้องกัน COVID-19 จริงหรือไม่? : health.howstuffworks
วิตามินซี หนึ่งในวิตามินที่ใครหลายคนรู้จัก มีอยู่ในผักผลไม้หลายชนิด บางคนทานเป็นอาหารเสริมเพราะเชื่อว่าช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หวัด ภูมิแพ้
ยิ่งในช่วงการระบาดของ COVID-19 ความต้องการบริโภคก็เพิ่มสูงขึ้น แต่การรับประทานวิตามินซีมีส่วนช่วยป้องกันได้หรือไม่นั้น....
ทุกท่านสามารถเลือกได้ด้วยตัวเองหลังจากอ่านบทความนี้จบครับ
1
1.
วิตามินซีหรือกรดแอสคอร์บิก (ascobic acid) เป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) มีความสำคัญต่อกระบวนการต่างๆภายในเซลล์ด้วยการเป็น cofactor ช่วยในปฏิกิริยาการสังเคราะห์คอลลาเจน คาร์นิทีนและสารสื่อประสาทกลุ่ม catecholamines เรียกได้ว่าหากขาดไปกระบวนการเหล่านี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้
หน้าที่ของวิตามินซีในกระบวนการของร่างกาย : Nutrients
2.
มนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร แหล่งของวิตามินซีจะอยู่ในผักและผลไม้เป็นหลัก โดยอาศัยปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงจากน้ำตาลกลูโคส แต่ก็มีสัตว์บางชนิดที่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เองที่ตับ เช่น สุนัขและแมว
3.
ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำในแต่ละวันของคนไทย ในผู้ใหญ่เพศชายแนะนำ 100 มก./วัน ผู้หญิง 85 มก./วัน หากตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรแนะนำให้ได้รับเพิ่ม 10-60 มก./วัน นอกจากนี้ผู้ป่วยที่ผ่าตัด ต้องการเพิ่มสูงขึ้น 200-500
มก./วัน เนื่องจากร่างกายต้องการใช้มากขึ้น โดยที่ปริมาณสูงสุดที่รับได้ไม่ควรเกิน 2,000 มก./วัน เพราะอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น คลื่นไส้ ปวดเกร็งช่องท้องและท้องเสีย แต่ก็ถือว่ามีความเป็นพิษน้อยมากเนื่องจากร่างกายมีการดูดซึมได้ลดลงหากได้รับในปริมาณที่สูงขึ้นและจะขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ
4.
หากพูดถึงวิตามินซี ภาพของผลส้มจะเด้งขึ้นมาทันทีใช่มั้ยครับ แต่ผักและผลไม้หลายชนิดมีวิตามินซีสูงกว่าส้มมาก เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม พริกหวานแดง/เขียว ผักคะน้า ซึ่งการรับประทานผักและผลไม้เหล่านี้แค่วันละ 100 กรัม ร่างกายก็ได้รับวิตามินซีเพียงพอแล้วครับ เห็นมั้ยครับว่าไม่ยากเลย
5.
ในแง่ของภูมิคุ้มกัน วิตามินซีมีส่วนร่วมตั้งแต่การสร้าง collagen ช่วยสมานแผล ป้องกันผิวจากการได้รับสิ่งแปลกปลอมภายนอก เพิ่มการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิด Phagocytes จอมเขมือบที่จับกินสิ่งแปลกปลอมทุกอย่างที่เข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ยังมีบทบาทไปเพิ่มการแบ่งตัวและพัฒนาของเม็ดเลือดขาวชนิด B และ T-lymphocytes เซลล์ภูมิคุ้มกันที่ทำหน้าที่สร้าง antibody จำเพาะกับเชื้อโรค
วิตามินซีช่วยเสริมการทำงานของ Phagocyte : Nutrients
6.
การใช้รักษาและป้องกันโรคไข้หวัด (Common cold) ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส มีข้อมูลวิเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ (Systematic reviews) บอกว่าการรับประทานวิตามินซี ไม่ได้ช่วยในการรักษาและป้องกันไข้หวัด แต่อาจมีประโยชน์ในการลดระยะเวลาของการเป็นหวัด พบว่าการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำมากกว่า 200 มก./วัน ทำให้ระยะเวลาที่เป็นหวัดลดลง 8% ในผู้ใหญ่ 14%ในเด็ก ซึ่งหากรับประทานในขนาด 1,000-2,000 มก./วัน ระยะเวลาการป่วยจะลดลง 18% แต่ถ้าในคนที่ไม่เคยรับประทานวิตามินซีมาก่อน อยากจะรับประทานเมื่อเริ่มมีอาการเป็นหวัด จะไม่มีประโยชน์ในการลดระยะเวลาของการป่วยหรือลดความรุนแรง
7.
ผู้ป่วยที่มีระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute respiratory distress syndrome ,ARDS) เนื่องจากติดเชื้อไวรัส มี case report ที่ได้รับวิตามินซีทางหลอดเลือดดำในขนาดสูง เสริมจากการรักษาตามปกติพบว่าช่วยลดระยะเวลาการอยู่ใน ICU และสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้เร็วขึ้น เชื่อว่าวิตามินซีมีส่วนช่วยลดกระบวนการอักเสบภายในปอดที่เกิดขึ้น
8.
COVID-19 เกิดจากเชื้อไวรัสและผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการทางระบบหายใจ ซึ่งบางคนรุนแรงจนเกิด ARDS คำแนะนำของทางการจีนใน Shanghai 2019 Coronary Virus Disease Comprehensive Treatment Expert Consensus แนะนำให้ใช้วิตามินซีทางหลอดเลือดดำ (IV form) เป็นตัวเสริมในการรักษาผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยอาการหนัก ซึ่งขนาดที่ใช้ต่อวันจะสูงมากถึง 100-200 มก./น้ำหนักตัว(กก.) ทั้งนี้นักวิจัยจีนเริ่มเก็บข้อมูลเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของวิตามินซีในผู้ป่วยที่อาการ severe จำนวน 140 คน โดยที่จะให้วิตามินซีในปริมาณ 12 กรัม ทางหลอดเลือดดำทุกๆ 12 ชม. ผลจะเป็นอย่างไรนั้นน่าจะได้ทราบกันในช่วงปลายปีนี้ครับ
9.
Dr. Andrew Weber แพทย์อเมริกาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินบอกว่าเขาเองก็ใช้วิตามินซีในการดูแลผู้ป่วย COVID-19 เพราะมีข้อมูลว่าหากผู้ป่วยมีการติดเชื้อและมีกระบวนการอักเสบเกิดขึ้นของระบบในร่างกาย (Sepsis)
ผู้ป่วยมักจะมีระดับวิตามินซีในเลือดลดลงจึงจำเป็นต้องได้เสริมเข้าไป ซึ่งก็พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับวิตามินซีทางหลอดเลือดดำมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ทั้งนี้ผู้ป่วยที่เขาดูแลก็ยังได้รับยาอื่นๆร่วมด้วยเช่น hydroxychloroquine, azithromycin จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าอาการที่ดีขึ้นเกิดจากการวิตามินซี IV form เท่านั้น
วิตามินซี IV form เท่านั้นที่มีแนะนำใช้ในผู้ป่วยอาการหนัก : Lifehub
10.
วิตามินซีรูปแบบ Oral form ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนการใช้ป้องกันหรือรักษาผู้ป่วย COVID-19 แม้การรับประทานเป็นประจำจะช่วยลดระยะเวลาป่วยของโรคหวัดธรรมดาที่เกิดจากไวรัสเช่นกันได้ แต่สำหรับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้นยังไม่มีงานวิจัยมาช่วยตอบคำถามนี้ เรียกได้ว่าอาจจะลดหรือไม่ลดก็ได้ยังไม่มีใครทราบครับ
จะเห็นได้ว่าการให้วิตามินซีขนาดสูงในผู้ป่วย COVID-19 อาจมีประโยชน์จริงครับโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่อาการหนักและเป็นการใช้ในโรงพยาบาล แต่ก็เฉพาะรูปแบบ IV form เท่านั้น ส่วนการรับประทานวิตามินซีเสริมเพื่อป้องกันการติดเชื้อยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีประโยชน์หรือไม่ครับ
สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังในการรับประทานวิตามินซีขนาดสูงคือมีโอกาสทำให้ท้องเสีย ไม่สบายท้อง ปวดมวนท้อง เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และ นิ่วในไต
การรับประทานเป็นอาหารเสริมสามารถทานได้หากคิดว่าไม่ค่อยได้ทานผักหรือผลไม้ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านการดูดซึมถึงแม้จะทานในปริมาณสูง ร่างกายก็จะมีจุดอิ่มตัวในการรับวิตามินซีและส่วนเกินที่เหลือจะถูกขับทิ้ง ดังนั้นการแบ่งรับประทานวันละ 2-3 ครั้ง ร่างกายมีโอกาสดูดซึมวิตามินซีมากกว่าการรับประทานในครั้งเดียวครับ
...Need to know...
- สีของวิตามินซีไม่ใช่สีส้มแต่เป็นสีขาว
- ผู้ป่วย G6PD ควรเลี่ยงการรับประทานวิตามินซีในขนาดสูงติดต่อกัน เนื่องจากมีโอกาสที่เม็ดเลือดแดงจะแตกได้ง่าย
- วิตามินซีมีส่วนช่วยในกระบวนการดูดซึมธาตุเหล็ก จึงมีการผสมในยาสำหรับผู้บริจาคโลหิต FBC
......ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันนะครับ ครบ 1,000 Follower แล้ววววว....
จะพยายามเขียนให้ทุกท่านได้ติดตามมากกว่าเดิมนะครับ ความตั้งใจจริงๆคืออยากส่งต่อข้อมูลให้กันทุกๆวัน แต่ไม่ง่ายเลยครับด้วยความเป็นคนที่ทำอะไรช้า กว่าจะได้ซักเรื่องนี่จากไดอารี่แทบจะเป็น weekly แทนละครับ 555
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
โฆษณา