3 เม.ย. 2020 เวลา 11:00 • ธุรกิจ
เกิดอะไรขึ้น ทำไมกองทุนใหญ่ระดับประเทศถึงล้ม!!!
-เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเราจะเห็นข่าวการแจ้งปิดกองทุนของ บลจ. ทหารไทย ทั้งหมด 4 กองทุน อันได้แก่ ธนพลัส, ธนไพศาล, ธนเพิ่มพูน และ ธนไพบูลย์
-อะไรทำให้กองทุนขนาดใหญ่ของประเทศ สินทรัพย์รวมกันกว่าสองแสนล้านบาท มีการดำเนินการมาอย่างยาวนาน ให้ผลตอบแทนสูงแบบนี้ ปิดตัวลงได้ ทางกรรมการผู้จัดการ บลจ. ทหารไทย จำกัด คุณสมจินต์ ศรไพศาล ได้ให้เหตุผลว่า
“กองได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ นักลงทุนเกิด panic sell ขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้กองขาดสภาพคล่อง และต้องประกาศเลิกกองในที่สุด”
-ถ้าหากเป็นอย่างนั้น ทุกทุกกองทุนในประเทศคงได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน แล้วทำไมกองทุนของทหารไทยทั้ง 4 กอง ถึงโดนผลกระทบก่อนเพื่อน ขาดสภาพคล่องและปิดตัวไปอย่างรวดเร็วแบบนี้?
หากมาดูกันที่ไส้ในของกองทุนเปิด “ธนเพิ่มพูน” จะเห็นได้ว่ากองทุนมีกลยุทธ์ในการลงทุนต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และกองทุนสามารถลงทุนในตราสารหนี้ที่ Unrated หรือ Non-investment grade ทั้งในและต่างประเทศได้
ซึ่งกลยุทธ์ของกองทุนนี้จะเห็นได้ว่ามีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนทั่วไปพอสมควร ที่จะเน้นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และลงทุนในประเทศมากกว่า
1
-ถ้ามาดูสัดส่วนของประเภททรัพย์สินที่ลงทุน (% ของNAV) ของกองทุนธนเพิ่มพูน
เราจะเห็นได้ว่ากว่า 66%*ลงทุนในหุ้นกู้
ในขณะที่กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่กว่า 60%** ซึ่งนี้อาจจะเป็นแค่อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กองทุนของTMB ทั้ง 4 กองปิดไปอย่างรวดเร็ว
-คำถามถัดไปคือ แล้วกองอื่นในประเทศจะล้มตามด้วยหรือเปล่า รัฐบาลมาช่วยอะไรบ้างไหม?
ในแง่ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการออกมาตรการเพื่อช่วยกองทุนรวมต่าง ๆ
โดยแบงก์ชาติอนุญาตให้ ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าซื้อหน่วยลงทุนจากกองทุนรวมตลาดเงินและตราสารหนี้ที่เป็นกองเปิด สามารถนำมาวางเป็นหลักประกันกับแบงก์ชาติเพื่อมาทำ Repo ได้ ซึ่งทั้งนี้ เราก็คงต้องรอดูต่อไปว่ามาตราการนี้จะช่วยกองทุนได้มากน้อยแค่ไหน
-ด้านภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่ระดมทุนในหุ้นกู้ ก็เริ่มเกิดความกังวลว่า หากผู้ซื้อหลักในตลาดอย่างกองทุนมีปัญหาเช่นนี้ จะส่งผลกระทบกับการระดมทุนมากน้อยแค่ไหน?
เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่าผลกระทบจากเหตุการณ์นี้มีแน่นอนทั้งในแง่ของ Demand และ Yield ที่จะออก เพียงแต่มากน้อยแค่ไหน คงต้องดูที่พื้นฐานของบริษัทที่จะออกหุ้นกู้เองด้วย
โฆษณา