4 เม.ย. 2020 เวลา 15:00
"ออมเงินได้แต่อย่าออมความผิด"
ทุกครั้งที่สะสม (ออม) เงิน = เงินเพิ่มมากขึ้น
ทุกครั้งที่สะสม (ออม) ความผิด = ความผิดเพิ่มมากขึ้น
เวลาเราทำผิดไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ คนส่วนใหญ่มักพูดคำว่า "ขอโทษ" แต่หลายครั้งที่คำว่าขอโทษก็ไม่ได้ช่วยอะไร เหตุการณ์จบจริงแต่ความรู้สึกของผู้ถูกกระทำไม่จบ
ผู้เขียนได้ยินคำพูดนี้บ่อยครั้ง "ความรู้สึกถ้าได้เสียไปแล้วมันไม่มีวันหวนกลับ" ซึ่งก็คือเรื่องจริง ไม่มีคำว่าเหมือนเดิมสำหรับผู้ที่ถูกกระทำ
ผิดครั้งแรกให้อภัยเพราะไม่รู้
ผิดครั้งต่อมาให้อภัยถือว่าให้โอกาส
แต่ถ้าผิดจนครบสามครั้งมันกลายเป็นความผิดสะสมที่เกินจะเยียวยา
หากเปรียบความผิดเหมือนเงินออม ผิด 1 ครั้ง ก็หยอดกระปุก ผิด 2 ครั้งก็หยอดกระปุก ผิดครั้งต่อมาก็หยอดกระปุก หยอดทุกครั้งที่ทำความผิด เหมือนการออมเงิน ถามว่าความผิดมีวันที่เต็มกระปุกหรือไม่ ก็คงไม่ต่างจากการออมเงิน จะมีสักกี่คนที่หากระปุกมาเริ่มหยอดใหม่ ความผิดเมื่อมันเต็มนั่นหมายความว่าสภาวะจิตใจ ความรู้สึกของผู้ที่ถูกกระทำย่อมไม่มีพื้นที่ว่างให้กับความผิดใด ๆ แล้ว
อย่าถามว่าทำไมให้อภัยไม่ได้
อย่าถามว่าทำไมเรื่องแค่นี้ถึงทำเป็นเรื่องใหญ่
เพราะความผิดที่เกิดขึ้นไม่ได้ต่างจากการหยอดเหรียญเพื่อออมเงิน คนออมบางครั้งก็ไม่ได้สนใจว่าเงินที่หยอดไปได้เท่าไหร่ แต่กระปุกที่รองรับเงินออมรู้ดีว่ามีมากหรือมีน้อย
ความรู้สึกของคนที่ถูกกระทำก็ไม่ต่างจากกระปุกออมสิน ความผิดก็ไม่ต่างจากเงิน เพียงแต่เงินมีค่าพอที่จะออม แต่ความผิดไม่มีค่าใดให้สะสมเลย
อย่าคิดเพียงว่าทำผิด กล่าวขอโทษ ทุกอย่างจบ
ไม่มีคำว่าจบถ้าหากยังคงทำผิดซ้ำ ๆ
"คนกระทำไม่จำ แต่คนถูกกระทำจำได้เสมอ"
ออมเงินได้เพราะเงินใช้จับจ่ายซื้อของใช้ที่จำเป็น แต่อย่าออมความผิด เพราะความผิดไม่ใช่สิ่งที่น่าออม
#ผู้เล่า
โฆษณา