13 มิ.ย. 2020 เวลา 03:10 • ความคิดเห็น
💥 คดีฆาตกรรมที่ยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ 💥
ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับครอบครัวแรมซีย์กันก่อน 👨‍👩‍👧‍👦
1
ครอบครัวนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย
👨 พ่อ – จอห์น นักธุรกิจ
👩 แม่ – แพตซี่ แม่บ้าน, อดีตนางงามรัฐเวอร์จิเนีย
👦ลูกชาย – เบิร์ค อายุ 9 ขวบ
👧 ลูกสาว – จอนเบเนต์ อายุ 6 ขวบ
ภาพครอบครัว
ครอบครัวแรมซีย์อาศัยอยู่ในบ้านหลังโต ณ รัฐคอโรลาโด
1
ด้วยความที่แพตซี่เคยประกวดนางงามมาก่อน ♛ ก็เลยเอาความชอบตรงนี้มาปลูกฝังให้กับลูกสาว
เธอแต่งหน้าแต่งตัวให้ลูก (ค่อนข้างเกินวัย) และพาขึ้นเวทีประกวด เวทีร้องเพลงต่าง ๆ จนหนูน้อยจอนเบเนต์มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในรัฐคอโรลาโด
จอนเบเนต์
เวลา 4 ทุ่มของวันคริสมาสต์ ปี ค.ศ. 1996 🎄จอห์นกับแพตซี่พาลูก ๆ ทั้งสองเข้านอน
เช้าวันต่อมา เวลาประมาณตี 5 แพตซี่พบจดหมายเรียกค่าไถ่วางอยู่ที่หัวบันได 📝 มีใจความประมาณว่า
“ลูกสาวของคุณอยู่กับเรา
และตอนนี้เธอปลอดภัยดี
แต่ถ้าคุณอยากให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อจนถึงปี 1997
คุณจะต้องถอนเงิน 118,000 เหรียญออกจากบัญชี
แล้วใส่มันลงในถุงกระดาษสีน้ำตาล
1
ช่วง 8-10 โมงเช้า เราจะโทรมาบอกว่าต้องส่งเงินอย่างไร
คนของเราจับตาดูครอบครัวคุณและเจ้าหน้าที่อยู่
ถ้าคุณแจ้งเรื่องนี้กับตำรวจ ลูกสาวคุณหัวหลุดแน่” 💌
// น่าแปลกตรงที่จำนวนเงิน 118,000 เหรียญ
เป็นจำนวนเดียวกับเงินที่จอห์นได้รับโบนัสจากบริษัทในปีนั้น
จดหมายเรียกค่าไถ่ที่ยาวผิดปกติ
แพตซี่โทรแจ้ง 911 ด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกสุดขีด
“มีเหตุลักพาตัว มีจดหมายทิ้งไว้ ลูกสาวของเราหายตัวไป เธออายุ 6 ขวบ ผมบลอนด์..ช่วยเราด้วย”
📼 คลิปเสียงแพตซี่โทรแจ้ง 911
อยากให้ลองใส่หูฟังแล้วฟังดูให้ดี ประมาณนาทีที่ 1.19 จะได้ยินเสียงเด็กผู้ชาย (ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเบิร์ค) พูดว่า “แม่ฮะ”
นาทีที่ 1.22 เบิร์คพูดขึ้นมาอีกว่า
“ผมจะถูกจับหรือเปล่า?”
👊🏻 เรื่องแปลกก็คือ แพตซี่ไม่ได้เอ่ยชื่อลูกสาวตัวเองเลย และไม่บอกด้วยซ้ำว่าเธอสวมชุดอะไรก่อนจะหายตัวไป ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญมากเวลาแจ้งคนหาย 🎀
👊🏻 มีการตรวจพบภายหลังว่า กระดาษและปากกาที่ใช้เขียนจดหมายนั้น
ล้วนเป็นของที่วางอยู่ในบ้านแรมซีย์ทั้งสิ้น
แปลว่าคนร้ายใจเย็นมากกกกกกก.. ✍🏻 นั่งเขียนจดหมายที่มีความยาว 2 หน้าครึ่ง ในระหว่างที่เจ้าของบ้านกำลังนอนหลับอยู่ชั้นบน 🤔
จอนเบเนต์
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง และทำการตรวจค้นโดยรอบบ้าน กลับไม่พบร่องรอยการบุกรุกหรือลักลอบเข้ามา
ทางด้านจอห์นกับแพตซี่อ้างว่า เบิร์คหลับสนิทตลอดทั้งคืน
👊🏻 ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกจุดที่น่าสงสัย เพราะเบิร์คให้การกับเจ้าหน้าที่ภายหลังว่า จากในห้องนอนของเขา สามารถได้ยินแม้กระทั่งเสียงปิดประตูตู้เย็นในห้องครัว แต่ทำไมเขาถึงไม่ได้ยินเสียงแม่ที่กรีดร้อง หลังจากที่พบจดหมายเรียกค่าไถ่ หรือเสียงชุลมุนด้านล่างเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง
1
พนักงานสืบสวน ลินดา อาร์นท์
พนักงานสืบสวน ลินดา อาร์นท์ 🕵️‍♀️ มาถึงในช่วงสาย และคอยจดรายละเอียดต่าง ๆ ที่พบเห็นภายในบ้าน
จุดที่ผิดสังเกตก็คือจอห์นและแพตซี่ดูไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่
โดยเฉพาะช่วงระหว่าง 8-10 โมงที่คนร้ายควรจะโทรมา พวกเขากลับไม่มีทีท่าจดจ่อกับโทรศัพท์เลย ☎️
ยิ่งเวลาผ่านไปโดยที่ไม่มีใครติดต่อเข้ามา คนที่เป็นพ่อแม่ก็ควรต้องร้อนรนไม่ใช่หรอ..?
ช่วงบ่ายจอห์นและเพื่อนของครอบครัวที่ชื่อ ฟลีท ไวท์ พากันไปค้นชั้นใต้ดิน 🔎 และได้ไปที่ห้องเก็บไวน์ซึ่งมืดสนิท
หลังจากที่เปิดไฟแล้ว 💡 พวกเขาก็พบร่างของจอนเบเนต์นอนแน่นิ่ง โดยที่ร่างกายถูกห่อด้วยผ้าสีขาว ข้อมือของเธอถูกผูกไว้เหนือศีรษะ รอบคอของเธอถูกพันด้วยเชือกไนลอน และมีเทปกาวสีดำปิดปากอยู่
1
// แปลกมากก..
ทำไมคนร้ายถึงได้วางจดหมายเรียกค่าไถ่ไว้
แต่กลับทิ้งศพไว้ที่ห้องใต้ดิน????
1
ฟลีท ไวท์ ตะโกนให้เรียกรถพยาบาล
จอห์นดึงเทปที่ปิดปากของลูกสาวออก ก่อนที่จะอุ้มเธอขึ้นไปชั้นบน
[ ฟลีท ไวท์ ให้การภายหลังว่า
จอห์นร้องออกมาก่อนที่จะเปิดสวิตช์ไฟซะอีก
อย่างกับรู้อยู่ก่อนแล้วว่าลูกสาวตัวเองนอนอยู่ตรงนั้น ]
🕵️‍♀️ ลินดา อาร์นท์ เล่าว่า
เธอเห็นจอห์นแบกร่างของลูกสาวขึ้นมาและวางลงกับพื้น
1
เมื่อเธอได้ประสานตากับจอห์นในตอนนั้น เธอก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นและฆาตรกรตัวจริงคือใคร
แต่เธอบอกว่าจะไม่มีวันเปิดปากพูดเรื่องนี้
และเธอก็ไม่คิดว่าฆาตรกรจะถูกดำเนินคดี 🤷‍♀️
👊🏻 จุดนี้น่าสนใจและค่อนข้างน่าหงุดหงิด แต่ถ้าหากเป็นไปตามที่ลินดา อาร์นท์ กล่าวอ้าง ก็ชวนให้คิดว่าฆาตกรอาจจะเป็นเบิร์ค เพราะที่รัฐคอโรลาโด เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 10 ปี จะไม่ถูกสั่งฟ้องในคดีฆาตรกรรม
หลังจากการชันสูตรศพ พบว่าจอนเบเนต์มีการบาดเจ็บที่กะโหลกศีรษะจากการถูกตีด้วยวัตถุทื่ออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนที่จะเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ
อย่างไรก็ตาม.. ไม่พบหลักฐานว่ามีการข่มขืน แต่ก็ยืนยันไม่ได้ชัดว่ามีการกระทำชำเราหรือไม่
ผลการชันสูตรยังเผยให้เห็นอีกว่า
จอนเบเนต์กินสับปะรดเข้าไปประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนตาย
และจากภาพถ่ายภายในบ้านของแรมซีย์ในวันเกิดเหตุ
พบว่ามีชามสับปะรดวางอยู่บนโต๊ะ
และมีแก้วใส่ชา 1 ใบวางอยู่ข้าง ๆ
เมื่อตรวจลายนิ้วมือ ปรากฏว่ามีลายนิ้วมือของเบิร์คและแพตซี่บนชามสับปะรด และลายนิ้วมือของเบิร์คบนแก้ว
1
แพตซี่อ้างว่า ที่เป็นแบบนั้น ก็เพราะเธอกับเบิร์คช่วยกันล้างจาน (ทั้ง ๆ ที่ที่บ้านก็มีแม่บ้าน 😒) และยังบอกอีกว่าเบิร์คไม่มีทางเป็นฆาตกรได้ เพราะเขาหลับตลอดตั้งแต่เมื่อคืน และเพิ่งตื่นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงบ้าน
1
ทั้งจอห์น, แพตซี่, เบิร์ค ต่างพากันหลีกเลี่ยงการพูดถึง 'สับปะรด' มากซะจนน่าสงสัย ราวกับว่าเป็นเรื่อง "ต้องห้าม" ยังไงอย่างงั้น
1
แพตซี่กับจอนเบเนต์
หัวหน้าตำรวจเชื่อว่าจอนเบเนต์ถูกตีด้วยวัตถุบางอย่าง อาจจะเป็นไฟฉายหรืออะไรที่คล้าย ๆ กัน จนสลบไป ก่อนที่เธอจะถูกรัดคอในช่วงระยะเวลา 45 นาที-2 ชั่วโมงหลังจากนั้น
หัวหน้าตำรวจเชื่อมาตลอดว่านี่เป็นการฆาตรกรรมที่มีการจัดฉาก
มีการตรวจพบไฟฉาย 🔦 วางอยู่ในห้องครัว แต่แปลกมาก เพราะไม่พบลายนิ้วมือของใครเลย เมื่อตรวจถ่านไฟฉาย ก็ไม่พบลายนิ้วมือเช่นเดียวกัน อย่างกับว่ามีใครลบมันออกไปเรียบร้อยแล้ว
สิ่งหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำผิดพลาดร้ายแรงก็คือการไม่ทำป้าย “กั้นคนนอก” เข้า-ออกสถานที่เกิดเหตุตั้งแต่วันแรก แถมยังปล่อยให้เพื่อน ๆ และญาติ ๆ เข้าออกบ้านตามอำเภอใจ ซึ่งอาจทำให้หลักฐานภายในบ้านเสียหาย
1
หลังการสืบสวนผ่านไปหลายปี คดีนี้ก็ไม่ได้รับการคลี่คลาย
จอห์นกับแพตซี่ไม่เคยถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ
จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ว่า
ใครฆ่าจอนเบเนต์? และทำไปเพื่ออะไร?
จอห์นกับแพตซี่
แพตซี่สียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปีค.ศ. 2006
ส่วนจอห์นแต่งงานใหม่ในปีค.ศ. 2013 และย้ายไปอยู่มิชิแกน
💥 ทฤษฎีของแอด 💥
"เบิร์คเป็นคนฆ่า ส่วนพ่อแม่ช่วยกันปกปิด"
จอนเบเนต์เป็นเหมือนดาวเด่น
เธอเป็นทุกอย่างที่เบิร์คไม่ใช่
เบิร์คทั้งเงอะงะ แถมบุคลิกก็ไม่ดี
เบิรคและจอนเบเนต์
เป็นไปได้ว่าเขามีความอิจฉาน้องสาวอยู่ลึก ๆ เพราะเธอได้รับความสนใจจากทุกคน โดยเฉพาะพ่อกับแม่อยู่เสมอ
คิดว่าเหตุการณ์น่าจะเป็นแบบนี้
- เบิร์คเกิดหิวขึ้นกลางดึก ก็เลยลงมาหาอะไรกินในครัว
- จอนเบเนต์อาจจะลงมาก่อนหรือตามลงมาทีหลัง
- จอนเบเนต์เห็นสับปะรด จึงคิดจะหยิบมากิน แต่เบิร์คห้ามเธอไว้ เพราะมันเป็นของกินของเขา
- จอนเบเนต์ไม่สนใจ หยิบสับปะรดเข้าปาก เบิร์ครู้สึกโกรธมาก 😡😡
(มันไม่ใช่แค่เรื่อง 'สับปะรด' สำหรับเบิร์ค
ลองคิดดูสิ น้องสาวเรามีทุกอย่างที่เราต้องการ แถมวันนี้ยังจะมาคุกคามพื้นที่ส่วนตัวของเรา ด้วยการแย่งของโปรดที่เราตั้งใจจะเก็บไว้กินคนเดียวอีก)
เบิร์คคว้าไฟฉายมาฟาดหัวเธอจนเธอหมดสติไป
- เบิร์คปลุกพ่อกับแม่มาดูจอนเบเนต์
- จอห์นและแพตซี่พยายามปลุกจอนเบเนต์ แต่เธอก็ไม่ตื่น
เบิร์คยอมรับว่าเขาฟาดหัวน้องสาวเพราะน้องแย่งสับปะรด
2
- จอห์นและแพตซี่เข้าใจว่าจอนเบเนต์เสียชีวิตแล้ว
จึงใช้ผ้ารัดคอเธอ (จนตายจริง) เพื่อจัดฉากฆาตรกรรม
อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องการโทรแจ้ง 911
เสียงของแพตซี่เต็มไปด้วยอาการหอบเหมือนคนร้อนรน แต่หลังจากที่เธอพูดจบและคิดว่าตัวเองวางสายไปแล้ว (ทั้งที่ความจริงสายยังไม่ตัด) เสียงหอบ เสียงร้องไห้ ก็เงียบหายไปทันที..
คือมันแปลกมาก ๆ ที่ตัดอารมณ์ตัวเองไปซะอย่างงั้น
อันที่จริง หลังจากที่เสียงเงียบไป
มีคนได้ยินเสียงเบิร์คพูดขึ้นมาว่า
“หาอะไรเจอบ้าง?”
แต่ทางครอบครัวแรมซีย์ปฏิเสธมาตลอด
ว่านั่นไม่ใช่เสียงของเบิร์ค
📹 คลิปตอนที่เบิร์คถูกพาตัวไปพบนักจิตวิทยา
นักจิตวิทยาถามเขาว่า
"คิดว่าจอนเบเนต์ตายยังไง"
เบิร์คตอบว่า “น่าจะโดนค้อนทุบหัวมั้งฮะ” พร้อมกับใช้มือทำท่าทุบในอากาศ 😰 ดูเขาไม่ยินดียินร้ายกับการตายของน้องสาวเลยซักนิด
แถมเขายังเอาของเล่นขึ้นมาปิดบังใบหน้าของตัวเอง ซึ่งเป็นอาการของคนที่กำลังโกหก
แปะลิงก์ให้สำหรับใครที่อยากอ่านเพิ่มเติม 💕
1
โฆษณา