4 เม.ย. 2020 เวลา 15:15
สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล คำพูดส่อสันดาน
เพราะสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ขอให้ผู้สูงวัยที่มีอายุเกิน ๗๐ ปี อยู่กับบ้าน ผู้เขียนซึ่งอยู่ในข่ายก็เชื่อฟัง ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ส่วนตนด้วย เพราะยังไม่อยากตายเพราะโควิค-19
การอยู่บ้านทุกวันก็ต้องปรับตัวใหม่ครับ เดิมข่าวที่ได้รับจากหลายๆ ช่องทางก็อ่านเฉพาะหัวข่าว ส่วนโทรทัศน์ก็ชมบางช่อง โดยเฉพาะข่าวสารทางไลน์นั้นไม่ค่อยได้อ่านเพราะไม่ค่อยเชื่อถือ นอกจากไลน์ของสื่อมวลชนหรือของเพื่อนที่ส่งข่าวของสื่อมวลชนให้
ส่วนทีวีนั้นดูหลายช่องมากขึ้น ช่องที่ไม่เคยดูเช่น NBT ตอนนี้ก็ต้องคอยชม นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษก ศบค. หรือศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเวลา ๑๑.๓๐ น. เป็นต้นไป
ภาพจากกูเกิ้ล
ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งนะครับว่าคุณหมอทวีศิลป์ นั้น รัฐบาลน่าจะยืมตัวมาเป็นข้าราชการการเมืองสักพัก ให้ดำรงตำแหน่งโฆษกรัฐบาลไปเลยก็ได้ครับ เพราะนอกจากท่านจะสุภาพ นอบน้อม สุ้มเสียงน่าฟังแล้ว ยังอธิบายเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่ายได้ด้วย
ขอการันตีคุณภาพของคุณหมอทวีศิลป์ ในฐานะที่เคยทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์เก่าอยู่หลายปีครับ
กลับมาเรื่องการติดตามข่าวโควิค-19 ต่อนะครับ สรุปได้ว่าผู้เขียนติดตามข่าวทุกช่องทางครับ
คืนวานนี้ (วันศุกร์) ชมข่าวโทรทัศน์ก็ได้ชมการโต้แย้งกันระหว่างคนไทยที่เดินกลับจากต่างประเทศและไม่ยอมถูกกักตัว ๑๔ วัน ตามที่ราชการกำหนดกับพลตรีท่านหนึ่งซึ่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ไม่ขอลงรายละเอียดในเรื่องนี้หรอกนะครับ เพราะมีทั้งข่าว ทั้งคลิปและผลต่างๆ ตามมาหลายประการ
ที่กล่าวถึงเรื่องข้างบนเป็นแค่ปูพื้นเท่านั้นแหละครับ จุดสำคัญอยู่ที่เหตุเชื่อมโยงไปถึงความไม่พอใจของคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศในวันนั้น และได้โพสต์ด่ารัฐบาล
อาจมีหลายคนที่โพสต์ด่าตามประสาคนที่เมื่อไม่ชอบอะไรก็ระบาย แต่เมื่อผู้เขียนเห็นคำพูดของผู้หญิงคนหนึ่งที่เผยแพร่ทาง IG แล้ว ก็อดที่ระบายไม่ได้เช่นกัน ดูภาพถ่าย IG ข้างล่างซิครับ ใช้ภาษาหยาบคายมาก ต้องขอโทษครับที่นำลง แต่จำเป็นเพราะเป็นจุดสำคุญของเรื่อง ได้ตัดชื่อ IG ออกแล้วครับ
ภาพจากไลน์
ปกติเมื่อเขียนถึงผู้หญิง ผู้เขียนใช้คำว่าสุภาพสตรี แต่เห็นการพูดที่ได้แสดงความรู้สึกข้างบนแล้ว เรียกว่าสุภาพสตรีไม่ลงครับ
ผู้หญิงคนนี้คงคิดว่าไม่มีผู้ใดทราบว่าเธอคือใคร เพราะ IG เป็นเพียงนามแฝงอไม่ได้ใช้ชื่อจริง แต่เธอดูถูกรัฐบาลยังไม่พอ ยังดูถูกผู้รู้ด้านเทคโนโลยีของคนไทยด้วย
เพราะมีผู้ค้นพบเฟสบุ๊คของเธอ ชื่อจริง นามสกุลจริง สถานที่เรียนชั้นมัธยม ที่ทำงานในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่แน่ใจว่ายังรับราชการอยู่หรือไม่เพราะระบุว่าปัจจุบันอยู่ที่นิวยอร์ก
ผู้เขียนไม่เปิดเผยชื่อในที่นี้หรอกครับ แต่เชื่อแน่ว่าคนไทยไม่น้อยที่รู้ชื่อจริง นามสกุลจริงของเธอแล้ว เพราะเห็นการเผยแพร่ทางโซเชียลกันพอสมควร ไม่งั้นผู้เขียนก็คงไม่ทราบหรอกครับ
คนไทยจำนวน ๑๕๘ คน ที่หลบหนีไม่เข้าสถานที่กักตัวซึ่งน่าจะมีผู้หญิงคนนี้อยู่ด้วยนั้น ทางการทราบชื่อและที่อยู่หมดแล้ว ทั้งนี้ ได้กำหนดให้รายงานตัวภายใน ๑๘.๐๐ น. ที่ผ่านมา ข่าวล่าสุดทราบว่าผู้ที่หนีการกักตัวได้เข้ารายงานตัวครบแล้วครับ
ก็ไม่น่าเชื่อนะครับว่าผู้หญิงที่มีการศึกษาดี หน้าตาก็พอไปวัดได้ แถมอยู่เมืองนอกซึ่งไม่ทราบว่าไปศึกษาต่อหรือไปทำงาน แต่เมื่อจะถูกกักตัวก็พูดเหมือนไม่ได้ใช้ปากของคนพูด
คนผู้นี้หากอยู่ในจำนวน ๑๕๘ คน ดังกล่าวข้างต้น นอกจากต้องถูกลงโทษตาม พรก. ฉุกเฉิน และ พรบ. ควบคุมโรค ซึ่งสมควรได้รับการลงโทษสถานหนักแล้ว
หากยังเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่ ก็ขอฝากส่วนราชการเจ้าสังกัดให้พิจารณาโทษทางวินัยด้วยเพราะคำพูดดังกล่าวเป็นการเหยียดหยามดูหมิ่นรัฐบาลที่ตนเองเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งต้องสนองนโยบายของรัฐบาลตามหน้าที่
การกระทำเช่นนี้จึงมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
แต่หากลาออกไปทำมาหากินที่นิวยอร์กแล้ว ทางราชการก็น่าจะฟ้องร้องเอาโทษฐานดูหมื่นผู้อื่นได้
คนที่ปากไม่ดีเช่นนี้ต้องเอาโทษให้หนักครับ
พุธทรัพย์ มณีศรี
โฆษณา