4 เม.ย. 2020 เวลา 16:36
1. ตั้งมั่นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
คำว่า สมาธิ หมายถึงความตั้งมั่นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เรากำหนดจะทำให้เสร็จ ดังนั้นถ้าอยากให้งานเสร็จ เราก็ควรมีสมาธิอยู่กับงาน ไม่วอกแวกคิดเรื่องอื่น เพราะนอกจากจะทำให้เสียเวลาในการทำงานแล้ว การที่กระแสจิตซัดส่ายไปมายังทำให้จิตขาดพลังในการแก้ปัญหาต่าง ๆ อีกด้วย
2. วางแผนความคิด
หากเราลองเปรียบเทียบงานเป็นเหมือนเก้าอี้ตัวหนึ่ง แน่นอนว่าคงไม่สามารถยกเก้าอี้พร้อมกันได้ทีเดียวทั้งสิบตัว ฉะนั้นหากเราต้องเผชิญหน้ากับงานหลายอย่าง และไม่สามารถทำทุกอย่างให้เสร็จในเวลาเดียวกันได้ เราจึงควรจัดลำดับความสำคัญให้งานแต่ละชิ้น โดยเริ่มทำงานชิ้นที่เร่งด่วนที่สุดให้เสร็จก่อน แล้วค่อยหันไปหยิบงานชิ้นต่อไป จะได้ไม่ต้องกังวลว่างานจะเสร็จไม่ทันเวลา
3. เลือกงานหิน
เลือกงานหินขึ้นมาหนึ่งงาน (ควรเป็นงานที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำก่อน) แล้วตัดสินใจว่าจะทำให้เสร็จในรวดเดียวหรือว่าจะจำกัดเวลาเป็นเวลาเท่าไหร่ (เช่น ทำ 30 นาทีแล้วหยุดพัก)
4. สร้างพื้นที่การทำงาน
ก่อนเริ่มงานกำจัดทุกอย่างที่จะดึงความสนใจจากงานตรงหน้าออกให้หมด เช่น ปิดหน้าจอ ปิดมือถือด้วยค่ะ
5. เสียงเตือนตั้งนาฬิกาปลุก
หรือถ้าตั้งใจว่าจะทำไปจนกว่างานนั้นจะเสร็จก็พยายามทำสมาธิอย่าพะวงเรื่องอื่นก่อนถึงกำหนดเวลา
6. งานด่วนเข้าแทรก
เกิดมีงานด่วนกว่าเข้ามาจริง ๆ เลี่ยงไม่ได้ก็ควรจะพยายามจดโน้ตไว้ว่าขณะนั้นทำงานมาถึงไหน ตั้งใจจะทำอะไรต่อไปก่อนโดนขัดจังหวะแล้วจัดเก็บโน้ตนั้นกับงานไว้ด้วยกันเมื่อกลับมาเริ่มใหม่ภายหลังจะได้ต่อติด
7. คิดไม่ออกก็หยุดคิด
ในบางครั้งเมื่อสมองต้องคิดอยู่ตลอดก็คงมีช่วงที่มันเหนื่อยและอยากพักบ้าง เพราะฉะนั้นหากใครที่มีปัญหาแล้วคิดวิธีแก้ไขไม่ออกก็ควรปล่อยให้สมองได้พักผ่อนด้วยการหยุดคิดบ้าง โดยอาจจะออกไปเดินเล่นหรือนอนหลับสักงีบ เพื่อให้สมองปลอดโปร่งขึ้น แล้วค่อยกลับมานั่งคิดใหม่ รับรองว่าแนวคิดต่าง ๆ จะเกิดขึ้นตามมาเองโดยไม่ต้องฝืนคิดเลย
8. ให้รางวัลหลังงานเสร็จ
ให้รางวัลกับตัวเองด้วยการเช็คอีเมลล์หรืออ่านบล็อกที่ชอบ หรืออาจจะทำอะไรที่ทำให้คุณผ่อนคลายและมีความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะไม่กินเวลาทำงานของคุณมากเกินไป เพื่อเป็นพลังให้คุณพร้อมที่จะลุยงานต่อไปค่ะ
โฆษณา