5 เม.ย. 2020 เวลา 02:45 • ความคิดเห็น
จันทร์รำพัน
ฉันคิดว่าควรจะเริ่มต้นเขียนจดหมายถึงเธอซะที
เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ฉันจะทำได้ ในเวลานี้
เธอเคยคิดถึงใครมากๆไหม คิดถึงแต่ก็ไม่ได้บอกให้เขารู้
เพราะเธอหวาดกลัวเกินไปที่จะเริ่มความสัมพันธ์กับผู้คน
ฉันเองเป็นเช่นนั้น ในวันนี้ฉันเฝ้ารอคอยการกลับมาของใครคนหนึ่ง
ถึงการรอคอยนี้จะสิ้นสุดลงที่ความว่างเปล่าก็ตาม
ฤดูกาลกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วล่ะ
ต้นข้าวในนาที่ฉันสู้อุตส่าห์ปลูกมันขึ้นมาด้วยน้ำพัก น้ำแรง
เติบโตอย่างช้าๆเข้าสู่วัยสาว เขียวขจีเต็มท้องทุ่ง
ในวันที่ลมหนาวพัดแรง ความอิ่มเอิบก็จะมาเยือน
ในวันนั้น “ทุ่งรวงทอง” ที่ฉันเคยได้ยินบทเพลงขับขาน
คงละลานตาอยู่ตรงหน้านี่เอง
เธอคงนึกภาพไม่ออกล่ะซี
คนอย่างเธอ แม้แต่ดินโคลนก็ไม่เคยสัมผัส
เธอเดินทางห่างออกไปไกลเหลือเกิน
ทั้งๆที่ยืนอยู่บนพื้นโลกเดียวกัน
แต่เราก็ราวกับว่ามาจากดาวคนละดวง
เธอใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ ดินแดนศิวิไลซ์ของใครหลายคน
ในขณะที่ฉันมีชีวิตอยู่ท่ามกลางหยาดเหงื่อและความขื่นขม
ชาวนาอย่างเราถูกเอารัด เอาเปรียบจากความโลภของนายทุน
และนโยบายของรัฐที่ซ้ำเติม
เธอจะคิดบ้างไหมหนอ...ว่าข้าวที่เธอกิน
ข้าวที่เลี้ยงชีวิตเธอให้เติบใหญ่ มันมาจากความทุกข์ยาก
หลายครั้งที่ปนเปื้อนหยาดน้ำตา
ชีวิตสำหรับเธอคืออะไร ?
ใช่การดิ้นรน – วิ่งวนอยู่ในโลกทุนนิยม
ที่ผู้คนหันหลังให้กับการศรัทธาความดีงาม
ไขว่คว้า ได้เพียงซากผุพังของความฝันรึเปล่า
ใช่แล้ว, ชีวิตเป็นเรื่องแปลกเสมอ
มีคนอย่างเธอ และฉันอยู่จริงบนโลกใบนี้
เธอหลวมรวมตัวตนเข้ากับวิถีวัตถุนิยมที่เร่งรีบ
ในขณะที่ฉันยืนอยู่บนทางขนานที่นาฬิกาหมุนย้อนกลับ
ความแตกต่างของเรา ทำให้ฉันรู้สึกถึงช่องว่างขนาดมหึมา
และมันก็คงจะทอดยาวออกไปเรื่อยๆ
จนกลายเป็นเส้นขนาน ที่ไม่มีหนทางบรรจบกัน
และถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังรอคอยการกลับมา
ของใครคนหนึ่งอยู่เสมอ...
โฆษณา