5 เม.ย. 2020 เวลา 07:13 • ไลฟ์สไตล์
น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า
คำพังเพยโบราณคำนี้ แสดงให้เห็นว่า คนสมัยก่อนนั้นอยู่กันอย่าง
ถ่อยทีถ่อยอาศัยกัน พึ่งพากัน ใครมีอะไรก็แบ่งปั่นกัน
แต่มาสมัยนี้ไม่รู้ทำไม สิ่งเหล่านี้ถึงค่อยๆจางหายไป
เราให้เพิ่งพาเขา เราก็หวังสิ่งตอบแทนจากเขา
เขาให้เราพึ่งพา เขาก็หวังผลประโยชน์จากเราเช่นกัน
อย่างนี้ถึงจะยอมให้กันและกัน
การดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ปากท้องฉันต้องอิ่มก่อน
ทำให้เราเหมือนอยู่ลำพังเพียงคนเดียว
ทั้งที่ความเป็นจริง เราอยู่กันเป็นฝูง เป็นหมู่เหล่า เป็นสังคม
แต่เรากลับเห็นสังคม เป็นคู่แข่งแย่งชิงกับเรา
ทุกคนต่างอยากได้ก่อน อยากได้มากเข้าไว้
จนลืมไปว่าเราไม่สามารถ อยู่รอดได้โดยลำพัง
มีเพียงการพึ่งพาอาศัยกันเท่านั้น เราถึงจะอยู่รอดได้
และอยู่ได้อย่างยั่งยืนด้วย
ธรรมชาติก็ต้องพึ่งพาเรา เราก็ต้องอาศัยธรรมชาติไม ถึงจะอยู่ร่วมกันได้
นายจ้างกับลูกจ้างก็เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันใช่ไม
เพื่อนร่วมงาน หัวหน้ากับลูกน้อง ก็ต้องคอยเกื้อหนุนกันและกัน
เจ้าหนี้กับลูกหนี้ เรากับลูกค้า อะไรที่ช่วยเหลือกันได้ก็ต้องทำ
ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เราทุกคนต้องเป็นน้ำให้เรือพึ่ง
ต้องเป็นป่าให้เสือปกป้อง อาศัย
เป็นผู้ให้โดยไม่ต้องร้องขอ เป็นผู้รับที่รู้จักพอ
แบ่งปันกันแม้จะทุกข์ยาก พึ่งพิงกันในยามอ่อนล้า
รับมาแล้วให้ไป วิกฤติที่เราเจออยู่ตอนนี้ จากหนักก็จะเป็นเบา
จากเดินได้สี่ ห้าก้าว จะเป็นสิบก้าว ร้อยก้าว พันก้าว จนถึงฝั่งด้วยกันทุกคน
น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า
ยามวิกฤตเช่นนี้ยังใช้ได้อยู่เสมอ
ถ้าเราไม่อาศัยซึ้งกันและกัน มันก็ยากที่เราจะรอดเพียงลำพัง
รวมพลังเข้าด้วยกัน แล้วมันจะนำพาเรา ไปเจอวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
อนุญาตภาพ khaosod.co.th
บทความโดย / ผักอีตู่
โฆษณา