6 เม.ย. 2020 เวลา 02:01 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ทฤษฎีจิตวิทยา "มนุษย์ไม่ได้มีคนดีและคนชั่ว"
1
ในสังคมของเรามักแบ่งคนออกเป็นคนดีและคนชั่ว จากผลของพฤติกรรมที่คนเหล่านั้นกระทำลงไป เช่น เมื่อเราเห็นข่าวอาสาสมัครช่วยเหลือน้ำท่วม ดับไฟป่า แจกสิ่งของ ฯลฯ เราก็จะชื่นชมคนเหล่านี้ว่าเป็นคนดีและได้รับการยกย่องจากสังคม ในขณะที่หากมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำเรื่องเลวร้าย ปล้น ฆ่า ทำร้ายร่างกาย ขโมย คนกลุ่มนี้ก็จะถูกตีตราจากสังคมว่าเป็นคนชั่ว เลว จากสังคมเช่นกัน
1
และนั่นก็ทำให้เกิดการแบ่งคนออกเป็นระหว่าง คนดี และ คนชั่ว
แต่คำถามต่อมาคือ คนเราดีร้อยเปอร์เซนต์ และ ชั่วร้อยเปอร์เซนต์ จริงหรือ??
คำตอบของคำถามนี้อาจขึ้นอยู่กับความเชื่อ ประสบการณ์ ของแต่ละคน ว่าจะมองเรื่องดังกล่าวอย่างไร แต่สำหรับนักจิตวิทยาแล้ว คำตอบคือ คนดีคนชั่วไม่มีอยู่จริง!!
เพราะเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น วันนี้สมองจ๋าจะพาท่านไปทำความเข้าใจ ผ่านทฤษฎีทางจิตวิทยาที่เรียกว่า "ทฤษฎีจิตวิเคราะห์"
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ ถือกำเนิดขึ้นโดยซิกมุนด์ ฟรอยด์ แพทย์ชาวออสเตรีย ผู้ทำการทดลองรักษาผู้ป่วยจนได้เกิดทฤษฎีทางจิตวิทยาที่โด่งดังไปทั่วโลก และกลายเป็นทฤษฏีพื้นฐานและคลาสสิคที่สุดในวงการจิตวิทยา
ซิกมุนด์ ฟรอยด์ ผู้ให้กำเนิดทฤษฎีจิตวิเคราะห์
โดยทฤษฎีจิตวิเคราะ์ดังกล่าวมองว่า มนุษย์มีโครงสร้างทางจิตใจด้วยกัน 3 ส่วน คือ id ego และ superego
ภาพจาก Simply Psychology
id คือ สัณชาติญานดิบของมนุษย์ที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจ ทั้งความต้องการทางเพศ ความก้าวร้าว สิ่งเหล่านี้ล้วนถูกเก็บอยู่ในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ทุกคน และจะไม่แสดงออกมาในยามปกติ
ego คือ ส่วนระหว่างสัณชาติญานดิบกับศีลธรรม นี่คือระดับที่มนุษย์ที่จะแสดงพฤติกรรมแบบปกติทั่วไป ไม่ถึงกับดีแบบสุด ๆ แต่ก็ไม่ได้ชั่วหรือเลวร้ายอะไร เช่น การต่อคิวโดยไม่แซงผู้อื่น การหยุดรถเมื่อเห็นสัญญาณไฟแดง เป็นต้น
superego คือ ส่วนของศีลธรรมที่ได้รับการปลูกฝังจากครอบครัว สังคม ทำให้พฤติกรรมมนุษย์ออกมาเป็นในด้านดี เช่น การช่วยเหลือผู้อื่น การให้ทาน การลุกให้คนชรานั่งบนรถเมล์ เป็นต้น
สรุปง่าย ๆ คือ มนุษย์หนึ่งคนจะมีสภาวะจิต 3 สภาะอยู่ในตัวคนเดียวกัน คือ
ชั่ว ปกติ ดี รวมกันอยู่ในจิตใจของมนุษย์ทุกคน
คำถามต่อมาคือ แล้วทั้ง 3 สภาวะจิตนี้ สัมพันธ์กันอย่างไร??
เรื่องนี้อธิบายได้ว่า โดยปกติแล้ว ego และ superego จะคอยควบคุม id เพื่อไม่ให้แสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีออกมา เช่น หากคุณหิวข้าวแล้วเห็นร้านขายข้าวแต่คุณกลับไม่ขโมยอาหาร นั้นก็เป็นเพราะ ego และ superego คอยควบคุม id อยู่ เพื่อไม่ให้คุณแสดงพฤติกรรมที่ในด้านลบออกมา แต่เมื่อใดก็ตามหาก ego และ superego ไม่สามารถควบคุม id ได้แล้ว เมื่อนั้นแหละที่คุณจะแสดงความก้าวร้าวหรือสิ่งที่ไม่ดีออกมาทันที
2
ประเด็นต่อมาคือ แล้วเมื่อไหร่กันล่ะที่ ego และ superego จะไม่สามารถควบคุม id ได้??
คำตอบก็คือ เมื่อมีอะไรบางอย่างมากระตุ้นส่วนลึกในจิตใจของคุณ มันคือส่วนลึกที่ถูกเก็บไว้ตั้งแต่เด็ก!!
1
เราจึงมักเห็นคนที่เกเร เพราะในวัยเด็กไม่ได้รับความรัก ความอบอุ่น และและการปลูกฝังคุณธรรมที่ดีพอมาตั้งแต่ตอนเด็ก จึงทำให้ ego และ superego ของคนกลุ่มนั้นไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างแข็งแรงพอที่จะควบคุม id ได้ และส่งผลให้พวกเขาแสดงพฤติกรรมแบบ id หรือความก้าวร้าวออกมาได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
และด้วยแนวคิดนี้เอง จึงได้นำไปสู่การอธิบายพฤติกรรมของอาชญากรและการใช้วิธีบำบัด รักษา ฟื้นฟู มาใช้กับผู้กระทำผิดแทนการลงโทษอย่างสาสม
ดังนั้น จากพื้นฐานทฤษฎีจิตวิเคราะห์ จึงมองว่ามนุษย์ไม่ได้เป็นคนชั่วที่มีสีดำ และไม่ได้เป็นคนดีที่มีสีขาว แต่มนุษย์เป็นสีเทา ที่พร้อมจะทำผิดและทำดีได้ทุกคน
และนี่ก็เป็นเพียงมุมมองทางจิตวิทยาส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักอาชญาวิทยา ฯลฯ นำมาปรับใช้ในการทำงานและมองมนุษย์อย่างเข้าใจ เพราะท้ายที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนว่าจะมองเรื่องนี้อย่างไร
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่างน้อยทฤษฎีจิตวิเคราะห์ก็ทำให้เราเข้าใจมนุษย์มากขึ้น และพร้อมที่จะให้อภัยและโอกาสเมื่อคนทำผิด ท่าม
กลางสังคมที่ตัดสินชีวิตคนคนหนึ่ง เพียงจากข่าวหรือตัวอักษรบนโลกออนไลน์เท่านั้น
♥️
รัก
1
โฆษณา