5 เม.ย. 2020 เวลา 10:16 • ประวัติศาสตร์
872 วันแห่งการปิดล้อมที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์
การปิดล้อมเลนินกราด (ปัจจุบันคือ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก) โดยกลุ่มกองทัพเหนือของเยอรมัน
เพื่อต้องการทำลายแนวรบทางทิศตะวันออก
กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความทุกข์ทรมาน
และคร่าชีวิตประชาชนไปอย่างมากมาย
เหล่าผู้คนที่อยู่ในเลนินกราด
เมื่อรู้ว่าไม่สามารถหลีกหนีบริเวณแนวล้อมที่อยู่โดยรอบ พวกเขาจึงวางแผนแบ่งอาหารที่ยังพอมีเหลือ
ซึ่งส่วนมากคือขนมปัง
ให้พอเพียงกับคนกว่า 3.5 ล้านคน
โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละคนได้อาหารเพียง 300 แคลอรี่ต่อวัน
ซึ่งน้อยกว่าความต้องการเฉลี่ยในแต่ละวันถึง 5 เท่า
เมื่ออาหารใกล้หมด
พวกเขาจึงแบ่งให้แค่
ผู้หญิง คนชรา และเด็ก
แม้จะยื้อแค่ไหน ผ่านไป 1 ปี
อาหารของพวกเขาก็ไม่มีเหลือ
สัตว์เลี้ยงและหนู
จึงกลายเป็นตัวเลือกถัดไปเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอด
และต่อมาก็คือการกินเหล่าซากศพที่ตาย
ในภาพด้านบนคือหญิงสองคน
กำลังฉีกเนื้อจากซากม้าที่ตายแล้วไปทำเป็นอาหาร
ส่วนศพของคนนั้น ไม่มีรายงานว่าถูกนำไปกิน
แต่ศพที่ถูกนำไปสุมกองในบริเวณหนี่งของเมือง
ก็พบว่า แต่ละศพนั้นส่วนมากจะไม่มีแขนและขา
มีผู้คนบางส่วนที่ล้มตายจากโรคระบาดที่เกิดจากการกินอาหารเหล่านี้
แต่ส่วนมากล้วนล้มตายจากความอดอยาก
แม้ทางเมืองพยายามลดความโหดร้ายของสถานการณ์
โดยพยายามใช้พื้นที่ว่างเปล่า
ทำการเพาะปลูกพืชผักให้ได้มากที่สุด
แต่ถึงกระนั้นแล้ว 872 วันแห่งความโหดร้าย
8 กันยายน 1941 จนถึง 27 มกราคม 1944
ประชาชนและทหารชาวรัสเซีย
เสียชีวิตไปกว่า 1.5 ล้านคน
ประชากรที่เคยอาศัยอยู่กว่า 3.5 ล้านคนก่อนช่วงสงคราม เศรษฐกิจที่เคยรุ่งเรือง
ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง
หลังสงครามเหลือประชาชนเพียง 7 แสนคน
และใช้เวลาหลายสิบปี ในการกู้สิ่งที่เคยมีอยู่กลับมา
แต่แผลเป็นที่บาดลึกไปในจิตใจของชาวรัสเซีย
จะคงอยู่ตลอดไป
โฆษณา