8 เม.ย. 2020 เวลา 05:03
ประสบการณ์ที่อยากแบ่งปัน เพื่อรอดไปด้วยกันในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ จากพิษ covid-19
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องดี ๆ ในชีวิตตอนนี้อย่างหนึ่ง คือ การที่ตัวเองยังรักษาตัวรอดพ้นจากการติดเชื้อโควิด-19 แม้ว่ายังจำเป็นต้องออกไปเผชิญความเสี่ยง เพราะงานประจำที่ทำอยู่ยังไม่เปิดช่องให้ Work from Home ได้เต็มที่ และการที่ยังดำเนินชีวิตได้โดยไม่รู้สึกว่าได้รับผลกระทบมากนักทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว และสถานการณ์ไม่ปกติจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งตามมาด้วยข้อกำหนด มาตรการตีกรอบการใช้ชีวิตที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
ผมไม่ใช่คนโชคดีหรือเก่งกาจอะไรหรอกครับ ตรงข้าม ผมก็ไม่ต่างจากทุกคนที่ตื่นตัวในการหาหนทางรักษาตัวรอด (แต่ไม่ใช่การมุ่งเอาตัวรอดแบบเห็นแก่ตัว) ซึ่งแต่ละคนก็คงมีแนวทางปฏิบัติของตน เช่นเดียวกับผม ซึ่งที่ผ่านมาผมยึดถือแนวทางรักษาเนื้อรักษาตัวโดยวิถีทางที่คิดว่าจะช่วยให้อยู่รอดปลอดภัยได้ในสถานการณ์ปัจุบัน ซึ่งผมนำมาแบ่งปันประสบการณ์ผ่านบทความนี้
วิถีทางที่ผมใช้ มี 3 ข้อใหญ่ ๆ ที่ผมผูกเป็นเสมือนคำขวัญเตือนใจ คือ
- ลดการเสพสื่อ
- ไม่ดื้อไม่รั้น
- ดำรงขวัญและกำลังใจ
1. ลดการเสพสื่อ คือ ลดปริมาณการรับข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ ที่มีทั้งข่าวจริง ข่าวบิดเบือน ข้อมูลที่อาจทำให้สับสนหรือเสียสุขภาพจิตโดยใช่ลง แล้วมุ่งเน้นรับข้อมูลจากแหล่งที่คิดว่าเชื่อถือได้ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าการรับข้อมูลทุกอย่างเข้ามา
2. ไม่ดื้อไม่รั้น คือ ทั้งไม่ดื้อ และ ไม่รั้น กล่าวคือ ไม่ต่อต้านหรือขัดขวางมาตรการต่าง ๆ ที่ทางการออกมาใช้อยู่ในปัจจุบัน และ ไม่ฝ่าฝืนหรือละเมิิดข้อกำหนด มาตรการนั้น ๆ แม้ว่าในบางเรื่องบางอารมณ์ ก็ยอมรับว่าอึดอัดหรือรู้สึกไม่สะดวกสบายไม่ต่างจากทุก ๆ คนก็ตาม
3. ดำรงขวัญและกำลังใจ คือ ระวังไม่ให้จิตตกหรือสติกระเจิดกระเจิงเกินไป ด้วยการสร้างรักษาขวัญและกำลังใจ ทั้งโดยอาศัยการมีวินัยในการดำเนินชีวิตซึ่งจะสร้างความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงบางครั้งจำเป็นต้องหาที่พึ่งทางใจทั้งจากการสวดมนต์ ทำสมาธิ หรือแม้แต่อาศัยวัตถุมงคล
นั่นคือประสบการณ์ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งสำหรับเรื่องราวประสบการณ์และการปฏิบัติโดยพิสดาร (หมายถึงโดยละเอียดนะครับ ไม่ใช่แปลว่าพิลึกพิลั่น) สามารถอ่านได้ในบทความฉบับเต็ม ตามลิงค์ด้านล่างครับ
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่า ถึงแม้ภัยคุกคามจากโรคระบาดและการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอันเป็นผลพวงสืบเนื่องกันมา จะเป็นภาวะที่ไม่พึงประสงค์ แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องประหวั่นพรั่นพรึงมากจนเกินไป เพราะเป็นสิ่งที่สามารถรับมือและแก้ไขได้
และสักวันจะมันผ่านไป เหมือนเมฆหมอกร้ายที่ไม่อาจปกคลุมท้องฟ้าได้ทุกฤดูกาล
โฆษณา