• โมะโมะฟุกุ อันโด
ชายผู้ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
โมะโมะฟุกุ อันโด ผู้ก่อตั้งบริษัทนิสชิน และผู้ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ถ้าพูดถึงเรื่องราวของหนึ่งในอาหาร ที่เราสามารถรับประทานได้ในช่วงที่คับขัน ยามที่เราหิวและไม่มีอะไรกิน ร่วมไปถึงในช่วงที่เงินใกล้หมดแบบมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ แน่นอนว่าเราจะต้องนึกถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (Instant Noodles) หรือที่คนไทยรู้จักกันอย่างคุ้นเคยว่า "มาม่า" (Mama : จริงๆ แล้วนี้เป็นชื่อของยี่ห้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชื่อดังยี่ห้อของไทย)
บะหมี่กึ่งสำเร็จอาหารแสนอร่อย และเหมาะสำหรับคนเงินเดือนน้อยอย่างยิ่ง
สำหรับในบทความนี้ เราขอนำทุกๆ ท่าน ไปทำความรู้ชายคนหนึ่ง ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และชื่อของชายคนนี้ก็คือ โมะโมะฟุกุ อันโด (Momofuku Ando : 安藤百福)
โมะโมะฟุกุ อันโด
โมะโมะฟุกุ อันโด เกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ.1910 ที่เมืองคากิ-โช (Kagi-Cho) หรือปัจจุบันคือ เมืองเจียอี้ (Chiayi) ในประเทศไต้หวัน (ขณะนั้นไต้หวันตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น) โดยอันโดมีชื่อในภาษาจีนว่า "เว่ยไป่ฝู๋" (Wei Bai-fu : 吳百福)
อันโดในช่วงวัยหนุ่ม
ในปี ค.ศ.1933 อันโดได้เดินทางมาที่ญี่ปุ่น เพื่อศึกษาต่อในด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยริทสุเมอิกัน (Ritsumeikan University) ในเมืองเกียวโต โดยในช่วงเวลาเดียวกันนี้ อันโดก็ได้ทำธุรกิจและเปิดบริษัทเสื้อผ้าเล็กๆ อีกด้วย
ในปี ค.ศ.1948 อันโดถูกดำเนินคดีในข้อหาหลีกเลี่ยงภาษี อันเนื่องมาจากที่เขาได้นำเงินที่ได้จากบริษัทเสื้อผ้าของเขา มามอบเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนยากจน แต่ทางการญี่ปุ่นกลับมองว่า นี้เป็นวิธีหลีกเลี่ยงภาษีของอันโด ส่งผลให้เขาถูกจำคุกอยู่ 2 ปี
อันโดในช่วงทศวรรษที่ 1950
หลังจากที่เขาพ้นโทษ บริษัทเสื้อผ้าของเขาก็ถูกฟ้องล้มละลาย ทำให้เขาต้องหันมาเปิดธุรกิจใหม่ โดยอันโดได้เปิดบริษัทขายเกลือเล็กๆ ที่เมืองอิเคะดะ (Ikeda) จังหวัดโอซาก้า ซึ่งในเวลาต่อมา บริษัทเกลือเล็กๆ แห่งนี้ จะกลายมาเป็นบริษัทผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
ในช่วงเวลานั้น สงครามโลกครั้งที่ 2 พึ่งสิ้นสุดลง และญี่ปุ่นก็ได้รับผลกระทบจากสงครามอย่างหนัก พวกเขาขาดแคลนอาหาร และได้รับเพียงขนมปังที่ทางการญี่ปุ่นได้รับมาจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ราเมงและอุด้งซึ่งเป็นอาหารเส้นของญี่ปุ่น ขาดแคลนและไม่มีวัตถุดิบ ปัญหานี้เองที่ทำให้อันโดพยายามหาทางแก้ไขปัญหา ที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นสามารถรับประทานบะหมี่ราเมงและอุด้งได้ ท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนอาหารนี้
โดยอันโดได้ใช้เวลาคิดค้น และแก้ไขปัญหานี้นานกว่า 10 ปี เพื่อให้ได้ซึ่งบะหมี่ที่ชาวญี่ปุ่นทุกคนสามารถเข้าถึง หารับประทานได้ง่าย และผลิตได้เป็นจำนวนมากๆ
อันโดกำลังทดลองทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
และในปี ค.ศ.1958 ขณะที่อันโดอายุได้ 48 ปี เขาก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชิกิน ราเมง (Chikin Ramen) หรือบะหมี่รสไก่ขึ้นมา ในราคา 35 เยน (แพงกว่าราเมงจริงๆ ประมาณ 6 เท่าในช่วงเวลานั้น)
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่ เป็นผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทนิสชิน
และนี้ก็คือ จุดเริ่มต้นของบะหมี่กึ่งสำเร็จ รวมไปถึงบริษัทนิสชิน (Nissin) บริษัทผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นรวมไปถึงของโลก
โดยในปี ค.ศ.1961 อันโดได้ก่อตั้งสมาคมอุตสาหกรรมอาหารกึ่งสำเร็จรูป (Instant Food Industry Association) เพื่อเป็นแม่แบบของวงการอาหารกึ่งสำเร็จรูปของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ อันโดยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานสมาคมผู้ผลิตราเมนนานาชาติ (International Ramen Manufacturers Association) อีกด้วย
ในปี ค.ศ.1971 นิสชินก็ได้เปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยขึ้นมาเป็นครั้งแรก ในรสไก่, รสเนื้อวัว และรสกุ้ง และนับแต่นั้นมา บริษัทนิสชินก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มาจนถึงปัจจุบัน
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยของนิสชิน
รูปปั้นของอันโด ภายในพิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
โมะโมะฟุกุ อันโด เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ.2007 ที่เมืองอิเคะดะ จังหวัดโอซาก้า ด้วยวัย 96 ปี ปิดฉากชายผู้คิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารที่มีส่วนสำคัญต่อวิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบันนี้
พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ในเมืองโอซาก้า ที่นิสชินสร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงอันโด และความเป็นมาของบะหมี่กึ่งสำเร็จ
*** Reference
#HistofunDeluxe
- 31
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
