8 เม.ย. 2020 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
Uli Derickson วีรสตรีผู้ช่วยชีวิตผู้โดยสารกว่า 152 คน
Uli Derickson คือแอร์โฮสเตสชาวเยอรมันเชื้อสายอเมริกันผู้กล้าหาญที่ช่วยชีวิตผู้โดยสารนับร้อยและชื่อของเธอยังตราตรึงอยู่จนถึงทุกวันนี้
เรื่องราวเริ่มต้นในเช้าวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ.1985 (พ.ศ.2528) เมื่อเครื่องบินของสายการบิน Trans World Airlines ที่มุ่งหน้าจากเอเธนส์ไปโรม ได้เทคออฟ ออกเดินทางตามปกติ
แต่ในเวลา 10.00 นาที ผู้โดยสารชายจำนวนสองคนได้ลุกจากที่นั่ง พร้อมชักปืนและระเบิดออกมาข่มขู่ผู้โดยสาร และขู่ให้ Derickson พาทั้งคู่ไปยังห้องนักบิน
เมื่อไปถึงห้องนักบิน ผู้โดยสารทั้งคู่ได้ใช้ปืนและระเบิดมือขู่นักบินให้บินไปยังเบรุต
ผู้โดยสารทั้งสองนี้ แท้ที่จริงเป็นผู้ก่อการร้ายกลุ่ม Hezbollah จากเลบานอน
1
ในทีแรก หอบังคับการที่เลบานอนปฏิเสธที่จะให้เครื่องลง แต่เมื่อกัปตันอธิบายให้หอบังคับการเลบานอนทราบถึงสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ หอบังคับการจึงยอมให้นำเครื่องบินลง
ผู้ก่อการร้ายทั้งสองนั้นพูดอังกฤษแทบไม่ได้ แต่หนึ่งในนั้นพูดภาษาเยอรมันได้ และโชคดีที่ Derickson พูดภาษาเยอรมันได้ และได้ขอให้ผู้ก่อการร้ายปล่อยผู้โดยสารหญิงออกไป แต่เมื่อทั้งคู่ปฏิเสธ Derickson จึงได้ขอให้ปล่อยคนแก่และเด็ก ซึ่งก็สำเร็จ
1
ต่อมา เมื่อพักเติมน้ำมันในอัลจีเรีย ภาคพื้นดินในอัลจีเรียปฏิเสธที่จะเติมน้ำมันให้หากไม่จ่ายเงินค่าน้ำมัน ทำให้ผู้ก่อการร้ายทั้งสองโมโห Derickson จึงใช้บัตรเครดิตของเธอ จ่ายค่าน้ำมันไปก่อน ซึ่งเป็นเงินที่มากถึง 6,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 180,000 บาท)
เมื่อเติมน้ำมันแล้ว ผู้ก่อการร้ายทั้งสองได้สั่งให้นักบินเดินทางต่อไปเบรุต ซึ่งในระหว่างนี้ ทั้งสองก็ได้เริ่มจะใช้ความรุนแรง โดยเรียกให้ผู้โดยสารที่เป็นสมาชิกกองทัพอเมริกันออกมา และทั้งสองก็จะทำการซ้อม
จากนั้น ผู้ก่อการร้ายทั้งสองก็สั่งให้ Derickson เก็บพาสปอร์ตของผู้โดยสารที่นามสกุลเป็นชาวยิว เพื่อที่จะทำการซ้อม แต่ Derickson ก็ได้ทำการซ่อนพาสปอร์ตของคนที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นอันตราย หากผู้ก่อการร้ายทั้งสองทราบ
1
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีทหารเรือชาวสหรัฐถูกผู้ก่อการร้ายทั้งสองยิงตาย
ต่อมาเมื่อถึงเบรุต ผู้ก่อการร้ายทั้งคู่บังคับให้บินกลับไปอัลจีเรีย ซึ่งที่นี่เองที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่ถูกปล่อยเป็นอิสระ
ต่อมา ผู้ก่อการร้ายได้เรียกร้องให้ทางการปล่อยนักโทษชาวเลบานอนกว่า 1,000 คนในอิสราเอล ซึ่งก็มีการปล่อยตัวนักโทษเพียง 31 คน
แต่ด้วยความกล้าหาญและฉลาดของ Derickson ก็สามารถช่วยชีวิตผู้โดยสารไว้ได้เกือบหมด มีเสียชีวิตเพียงรายเดียวเท่านั้น
1
Derickson ยังคงทำงานเป็นแอร์โฮสเตสต่อไปจนป่วยเป็นมะเร็งในปีค.ศ.2003 (พ.ศ.2546) และเสียชีวิตในปีค.ศ.2005 (พ.ศ.2548)
ปิดฉากชีวิตวีรสตรีผู้นี้
โฆษณา