8 เม.ย. 2020 เวลา 00:48 • กีฬา
ความเหมือนที่แตกต่างของเหล่ากองหน้า
ดาบิด บีย่า , เฟอร์นานโด ตอร์เรส, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, โรมาริโอ้
ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าผู้เล่นที่สามารถขึ้นมามีส่วนร่วมในการทำประตูนั้นไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่กองหน้าแท้ๆอีกต่อไปแล้ว ส่งผลทำให้บทบาทใหม่เกิดขึ้นอย่างมากมายในวงการเกมลูกหนัง อาธิเช่น ปีกที่มีความสามารถในการทำประตูได้ดีทุกวันนี้ก็ทุกดันขึ้นมาเป็นปีกกึ่งกองหน้าด้านข้างซ้ายขวา เพลย์เมกเกอร์บางคนที่มีความสามารถในการทำประตูได้ดีก็ทุกจับมาเล่นเป็นกองหน้าตัวหลอก(False 9) ในยามที่ทีมขาดกองหน้าเก่งๆไป
แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าพวกเขาเหล่านี้จะสามารถทำประตูได้เป็นก่อเป็นกำ ถึงกระนั้นน้อยคนนักที่จะมีสัญชาตญาณความเป็นเพชฌฆาตในแบบฉบับกองหน้าแท้ๆกันทุกคน ซึ่งคริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ลิโอเนล เมสซี่ถือเป็นข้อยกเว้น ด้วยเหตุนี้ทำให้กองหน้าแท้ๆมีความพิเศษอยู่ในตัวเสมอที่ไม่มีตำแหน่งไหนสามารถทดแทนได้
ถึงแม้เอกลักษณ์ของกองหน้าหมายเลข 9 แท้ๆทุกคนล้วนเป็นเรื่องของสัญชาตญานในการจบสกอร์ แต่ที่จริงแล้วพวกเขามีความแตกต่างกันอยู่มาก ในบรรดาตำแหน่งเดียวกันนั้นมีหลากหลายรูปแบบบางคนก็แปลกแยกไม่เหมือนใคร แต่อย่างไรก็ตามถึงจะแตกต่างกันแค่ไหนทุกคนก็ล้วนมีเอกลักษณ์ที่คล้ายคลึงกันอยู่ดี จนสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท
(หมายเหตุ นี่เป็นการวิเคราะห์ส่วนตัว ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยนะครับ ถ้าหากมีความคิดเห็นเพิ่มเติมอย่างไรเชิญแสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับ)
1. กองหน้าร่างยักษ์ (Target Man)
ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, แฮร์รี่ เคน
กองหน้าประเภทนี้มีร่างกายที่สูงใหญ่ แข็งแกร่ง และเล่นลูกโหม่งกลางอากาศได้ดี สไตล์การเล่นของพวกเขาจะคอยดวลแย่งลูกกลางอากาศกับกองหลังฝ่ายตรงข้ามเพื่อที่จะทำประตูหรือส่งบอลต่อให้เพื่อนร่วมทีมเล่น
แต่ในปัจจุบันฟุตบอลเปลี่ยนไปมาก ฟุตบอลเล่นบนพึ้นกันซะส่วนใหญ่จึงทำให้ Target Man อย่าง มาริโอ มานด์ซูคิช อดีตผู้เล่นแชมป์ยุโรปกับบาเยิร์นมิวนิค ไม่เป็นที่ต้องการสักเท่าไหร่หรืออย่างมากก็แค่ลงมาช่วยเป็นตัวพักบอลแค่นั้นไม่ได้มีบทบาทสำคัญเหมือนแต่ก่อนแล้ว
แต่ก็มีกรณีพิเศษที่ทำให้กุนซือยังคงต้องเลือกใช้อยู่อย่างในกรณีที่เป็น Target Man พันธุ์หายาก อย่างดีดิเย่ร์ ดร็อกบา เป็น Target Man ที่มีความเร็ว ทำให้สามารถพักบอลแล้วสร้างจังหวะยิงเองได้อย่างรวดเร็ว และอย่างซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็น Target Man ที่มีทักษะในการเลี้ยงบอลและสร้างสรรค์เกมได้ดี ทำให้สามารถถอยต่ำลงมาช่วยทำเกมจ่ายบอลสวยๆได้
ตัวอย่าง Target Man ชั้นยอดได้แก่ อลัน เชียร์เรอร์ ตำนานฉายา“ฮอตช๊อต”ของนิวคาสเซิล, มิโรสลาฟ โคลเซ่ ตำนานชาวเยอรมัน, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ตำนานกองหน้าของเชลซี, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ตำนานจอมพเนจรชาวสวีเดน และ แฮร์รี่ เคน ยอดกองหน้าชาวอังกฤษ
กองหน้าประเภทนี้เหมาะกับทีมที่นิยมเล่นบอลโยนยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่กองหลังอีกฝ่ายไม่เชี่ยวชาญในการเล่นลูกกลางอากาศ หรือในสถานการณ์ที่ถูกเพรซซิ่งกดดันจนขึ้นเกมจากหลังขึ้นหน้าไม่ได้ กองหน้าประเภทนี้คือคำตอบ
2. กองหน้าจอมเทคนิคความเร็วสูง (Advanced Striker)
เซอร์จิโอ กุน อเกวโร่, เธียร์รี่ อองรี, คีเลียน เอ็มบัปเป
กองหน้าประเภทนี้มีความเร็วจัดจ้านและมีความสามารถในการเลี้ยงบอลที่ดีมากด้วยเช่นกัน ทำให้พวกเขามักจะไม่ได้ยืนอยู่ประจำตำแหน่งแต่จะคอยวิ่งฉีกตัวประกบออกด้านข้างเพื่อเลี้ยงบอลหาจังหวะยิงประตูหรือจ่ายบอลให้เพื่อนส่งผลให้กองหน้าประเภทนี้อันตรายอย่างมากในการประกบ
นอกจากนี้บ่อยครั้งที่พวกเขาจะคอยชิงไหวชิงพริบอยู่บริเวณกองหลังตัวสุดท้ายเพื่อเอาชนะกับดักล้ำหน้าและสอดมารับลูกจ่ายทะลุช่องหรือลูกโยนยาว ดังนั้น Advanced Striker จึงขึ้นชื่อเรื่องความเก่งกาจในการดวลตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตูเป็นอย่างมาก
ในภายหลังในยุคที่แผนการเล่นเริ่มนิยมใช้สามกองหน้ามากขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่พวกเขามีนั้นทำให้พวกเขาสามารถปรับตัวเองไปเล่นปีกกึ่งกองหน้าได้ด้วยเช่นกันอาธิเช่น เธียร์รี่ อองรี และ ดาบิด บีย่า สมัยอยู่บาร์ซ่า
ตัวอย่าง Advanced Striker ชั้นยอดได้แก่ เธียร์รี่ อองรี ตำนานกองหน้าของอาร์เซน่อล, ซามูเอล เอโต้ ตำนานชาวแคมารูน, ดาบิด บีย่า ตำนานชาวสเปน, เซอร์จิโอ กุน อเกวโร่ ยอดกองหน้าของแมน ซิตี้ (ช่วงพีค) และ คีเลียน เอ็มบัปเป ยอดกองหน้าอนาคตไกลของปารีส แซงต์ แชร์แมง
กองหน้าประเภทนี้สามารถนำมาใช้ได้เกือบทุกแผนการ แต่จะมีประโยชน์ขั้นสูงสุดถ้าถูกนำมาใช้ในทีมที่เน้นตั้งรับรอสวนกลับ
3. กองหน้าจอมล่องหน (Poacher)
ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง, แกร์ด มุลเลอร์, เจมี่ วาร์ดี้
กองหน้าประเภทนี้มีอีกชื่อที่เรียกว่า จิ้งจอกในกรอบเขตโทษที่จะเริ่มล่าเหยื่อก็ต่อเมื่ออยู่ในกรอบเขตโทษแล้ว พวกเขาไม่ได้มีความสูงใหญ่ไม่ได้มีความเร็วหรือเทคนิคการเลี้ยงบอลใดใดที่หวือหวาแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะอาวุธที่แท้จริงของพวกเขานั่นก็คือไหวพริบในการหาพื้นที่ทำประตูที่เหมือนการล่องหนเข้าไปยิงแบบเนียนๆ
ในเกมพวกเขาอาจจะดูเหมือนหายตัวไปจากเกมเลยหรือแทบจะไม่มีส่วนร่วมในการทำเกมใดใดทั้งสิ้น แต่ในทางกลับกันประตูที่พวกเขาทำได้คงจะเป็นสิ่งที่ชดเชยกันได้อยู่พอสมควรเพราะ Poacher มักจะมีสถิติจำนวนประตูที่สูงมากๆ แต่อย่างไรก็ตามประตูพวกนั้นล้วนมาจากการแท็บอินหรือการยิงจ่อๆหน้าประตูซะมากกว่า และบ่อยครั้งที่พวกเขามักจำเป็นต้องพึ่งพากองหน้าคู่หูอย่าง Target Man หรือจอมทัพหมายเลข10 ในการสนับสนุนการเล่นของพวกเขา
ในปัจจุบัน Poacher แบบต้นตำรับอย่าง แกร์ด มุลเลอร์ นั้นแทบจะสูญพันธุ์ไปหมดแล้วในฟุตบอลระดับสูงเพราะเกมการเล่นในปัจจุบันที่เน้นให้ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการทำเกมรุกและรวมถึงเกมรับที่เน้นให้ทุกคนเริ่มเพรซซิ่งกดดันตั้งแต่ในแดนของคู่ต่อสู้ ดังนั้นทำให้พวกเขาเป็นได้แค่เพียงตัวเลือกสุดท้ายเพียงเท่านั้น หรืออย่างมากก็อาจเป็นซูปเปอร์ซับลงมาทำประตูในช่วงท้ายเกมได้เหมือนอย่างที่ ชิชาริโต้ ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ อดีตผู้เล่นแมน ยูไนเต็ดได้ทำไว้หลายต่อหลายครั้ง
1
แต่ก็มีกรณีพิเศษที่ทำให้กุนซือยังคงต้องเลือกใช้อยู่อย่าง Poacher ที่มีพัฒนาการมาจากแบบต้นตำรับจนมีความสามารถที่เหนือชั้นกว่า โดยพวกเขานั้นมีคุณสมบัติบางส่วนที่คล้ายคลึงกับ Advanced Striker อย่างปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ที่มีความเร็วจัดจ้าน ทำให้พวกเขาสามารถสร้างจังหวะทำประตูโดยการชิงจังหวะสอดมารับลูกจ่ายทะลุช่องหรือลูกโยนยาว และ อย่างโรมาริโอ้ ที่มีความสามารถในการเลี้ยงบอลสูง ทำให้พวกเขาสามารถสร้างจังหวะทำประตูได้ด้วยตัวเอง ทักษะเหล่านี้ที่เพิ่มเข้ามาถือเป็นอาวุธเสริมที่จะช่วยทำให้พวกเขาอันตรายยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็น
นอกจากนี้ในกรณีที่ Advanced Striker มีอายุมากขึ้นพวกเขาก็สามารถปรับบทบาทเป็น Poacher ได้เช่นกัน
ตัวอย่าง Poacher ชั้นยอดได้แก่ แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานชาวเยอรมัน, โรมาริโอ้ ตำนานชาวบราซิล, ฟีลิปโป้ อินซากี้ ตำนานกองหน้าของเอซี มิลาน, ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ยอดกองหน้าชาวกาบอง และ เจมี่ วาร์ดี้ ยอดกองหน้าของเลสเตอร์ ซิตี้
Poacher เหมาะกับทีมที่เล่นระบบเอื้อแก่พวกเขาโดยการมีผู้เล่นสร้างสรรค์เกมคอยสนับสนุนอยู่รอบตัวพวกเขา และเหมาะเป็นตัวเลือกในม้านั่งสำรองในสถานการณ์ที่ทีมต้องการประตูอย่างเร่งด่วนในช่วงท้ายเกม หรือ ในกรณีที่ต้องการเพิ่มกองหน้าในกรอบเขตโทษในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับทีมเน้นรับที่ชอบอุด
4. กองหน้าร่างสมบูรณ์ (Complete Striker)
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, โรนัลโด้, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
กองหน้าประเภทนี้เป็นกองหน้าพันธุ์หายากที่สุด แทบจะเหมือนเป็นปรากฏการณ์ของวงการลูกหนังเลยก็ว่าได้ พวกเขาถือเป็นกองหน้าที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบที่สุดเพราะว่าพวกเขารวมคุณสมบัติของกองหน้าทุกๆประเภทอยู่ในตัวคนเดียวโดยมีทั้งร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือนTarget Man และมีทักษะการเลี้ยงบอลและความเร็วที่สูงเหมือน Advanced Striker อีกด้วย
ดังนั้นทำให้พวกเขาสามารถใช้เทคนิคการเลี้ยงบอลฝ่าแนวรับด้วยความเร็วสูงไม่พอแถมยังพร้อมชนทุกๆคนที่ขวางหน้าด้วยร่างกายที่แข็งแกร่ง ซึ่งเห็นได้ชัดว่านี่คือกองหน้าที่กองหลังยากจะรับมือที่สุดและมีความสารพัดประโยชน์อย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตามก็ยากที่จะหาใครที่เป็นสุดยอดทุกๆความสามารถได้ อย่างเช่น บางคนมีร่างกายแข็งแกร่งแต่ก็ขาดร่างกายที่สูงชันไปนิดหน่อยอย่าง โรนัลโด้ (R9) หรือ บางคนมีเทคนิคการเลี้ยงบอลที่ดีเยี่ยมแต่ก็ขาดความรวดเร็วไปนิดหน่อยอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ มีเพียงไม่กี่คนบนโลกที่จะมีความสามารถครบเครื่องได้ขนาดนั้น ยกตัวอย่างเช่น มาร์โก ฟาน บาสเท่น และ เฟอร์นานโด ตอร์เรส (สมัยอยู่ลิเวอร์พูล)
นอกจากนี้ในกรณีที่กองหน้าประเภทนี้มีอายุมากขึ้นพวกเขาก็สามารถปรับบทบาทเป็น Target Man ได้เช่นกัน
ตัวอย่าง Complete Striker ชั้นยอดได้แก่ มาร์โก ฟาน บาสเท่น ตำนานหนึ่งในสามทหารเสือชาวฮอลแลนด์, โรนัลโด้ ตำนาน "เอล ฟีโนมีโน่" ชาวบราซิล, อังเดร เชฟเชนโก้ ตำนานกองหน้าของเอซี มิลาน, เฟอร์นานโด ตอร์เรส สมัยรุ่งโรจน์กับลิเวอร์พูล, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ตำนานชาวฮอลแลนด์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดกองหน้าชาวโปแลนด์
กองหน้าประเภทนี้สามารถนำมาใช้ได้ทุกๆแผนการแล้วแต่กุนซือจะปรับใช้ เหมาะกับทุกสไตล์การเล่น
โฆษณา