9 เม.ย. 2020 เวลา 01:00 • ธุรกิจ
ร้านขายของชำอยู่ยังไง
เมื่อร้านสะดวกซื้อเต็มเมืองไปหมด
เราอาจจะคุ้นเคยกับร้านสะดวกซื้อที่หันไปทางไหนก็เจอหลากหลายร้าน ทั้ง 7-11 CJ Big C Tesco Lotus บลาๆ อะไรก็ว่ากันไป...
เรามาถอดความสำเร็จของร้านสะดวกซื้อกัน ว่าทำไมถึงกระจายตัวอยู่เยอะขนาดนี้
1. เงินลงทุนหนา
เงินถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการลงทุนของธุรกิจ ถ้าไม่มีเงินก็จะไม่เกิดการต่อยอดและเติบโต
2.location
สังเกตกันไหม ว่าส่วนวใหญ่ร้านสะดวกซื้อมักจะตั้งอยู่ในบริเวณไหนกันบ้าง ? ทั้งแถวชุมชน บริเวณรอบมหาวิทยาลัย สถานที่ที่มีการอาศัยกันอยู่อย่างหนาแน่น เรียกว่าที่ไหนมีคนซื้อ ฉันก็จะไปตั้งร้าน
3. การบริหารงาน
ร้านสะดวกซื้อการรับสมัครพนักงานจะเป็นแบบ ใครมาสมัคร รับพิจารณา แล้วเข้าทำงาน แต่ถ้าเป็นร้านขายของชำจะเป็นแบบธุรกิจในครอบครัว ทำให้ร้านขายของชำเกิดความเสียเปรียบในตรงจุดนี้
4.ความหลากหลายของสินค้า
แน่นอน เครดิต ชื่อเสียงของร้านสะดวกซื้อมีความน่าเชื่อถือกว่าร้านขายของชำ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่สินค้าภายในร้านจะมีความหลากหลายและครอบคลุมมากกว่า
แต่ก็ว่าร้านขายของชำเรามักจะเห็นเป็นจุดๆ ไม่ได้กระจายตัวเยอะเท่าร้านสะดวกซื้อ ทั้งอยู่ตามหมู่บ้าน ตามช่วงร้านค้า
เราอาจจะคุ้นชินกับการซื้อของโดยทันที ต้องการใช้ เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ ก็มักจะเดินออกไปซื้อที่ร้านขายของชำตามหมู่บ้าน ก็เพราะมันอยู่ใกล้หนิหน่า
ตามร้านขายของชำส่วนมากก็เป็นผู้สูงอายุมาเป็นคนให้บริการภายในร้านหรือจะเป็นเจ้าหน้าที่ของหมู่บ้านนั้น ๆ
ใครต่อใครหลายคนก็มักจะคิดว่าการเปิดร้านขายของชำมันง่าย ก็แค่ไปซื้อของมาเยอะๆแล้วนำมาจัดเรียง พอลูกค้าเข้าคิดเงิน
แต่การบงทุนในการเปิดร้านขายของชำมันมีมากกว่าการซื้อของนะสิ ? ทั้ง
1. ตู้แช่
ถ้าไม่มีตู้แช่แล้วจะแช่เครื่องดื่มเย็น ๆ ไว้ที่ไหนล่ะ ? จะให้ลูกค้าไปหยิบในตู้เย็นของเจ้าของร้านเองก็ไม่ได้
2. ชั้นวางของ
ชั้นวางของก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เราจะวางสินค้าไว้ตามพื้นให้ลูกค้ามาหยิบ เป็นไปไม่ได้ ลูกค้าได้ไม่ประทับใจกันพอดี
3. สินค้าที่ต้องซื้อหมุนเวียนภายในร้าน
สินค้าหมุนเวียนภายในร้านก็คือของที่เราต้องซื้อเข้ามาเติมให้ชั้นวางของในร้านของเราเต็มอยู่เสมอ โดยอาจใช้การพยาการณ์การซื้อของลูกค้าประกอบกันไป
ทุกอย่างมันคือการลงทุน ไม่ลงทุนก็ไม่มีการเติบโตใด ๆ เกิดขึ้น
Pain Point ของคนที่มาร้านขายของชำคืออะไร?
1. ขี้เกียจ
ขี้เกียจขับรถออกไปข้างนอก ร้านค้าใกล้ๆบ้านก็มีซื้อที่นี้ก็ได้ ใช้ได้เหมือนกัน
2. ต้องการสินค้าราคาถูกกว่าในร้านสะดวกซื้อ
รู้ทั้งรู้ว่าในร้านสะดวกซื้อมันก็มีของแบบที่เราต้องการนะ แต่ราคามันสูงกว่าร้านขายของชำเสียอีก
3. ต้องการความรวดเร็ว
ความรวดเร็วชนิดที่ว่าไม่ต้องลงจากรถ ก็สามารถได้สินค้าไปเลย เพียงเปิดกระจกรถแล้วบอกป้าคนขายของ
KEY SUCCESS คือ
1. การทำระบบบัญชี
การให้ความสำคัญในเรื่องบัญชีทั้งการคิดบัญชีรายรับ รายจ่าย เพราะถ้าขาดการควบคุมระบบบัญชีจะก่อให้เกิดการขาดทุนไปแบบไม่รู้ตัว
2. การบริหารระบบสต็อกสินค้า
ใช้การพยากรณ์ว่าช่วงนี้สินค้าตัวไหนมักจะใกล้หมด สินค้าตัวไหนใกล้จะหมดอายุ
3. การจัดเรียงสินค้าให้ตรงตามหมวดหมู่ก้มีความสำคัญ
ถ้าขืนเราวางของมั่วซั่ว ลูกค้าจะเอายาสระผมแต่เราไปวางตรงบริเวณขนม จบเลย ลูกค้าได้ซื้ออย่างอื่นไปสระผมแทน
4. ป้ายราคาก็สำคัญนะ
อาจจะเป็นการติดป้ายใหญ่ๆเพื่อบอกราคาของสินค้าแต่ละตัวก็ได้ เพื่อให้ลูกค้ารับรู้ถึงราคาของสินค้านั้น ๆ
5. สำรวจสินค้าให้ตรงกับกลุ่มที่จะขาย
ถ้าร้านค้าของเราขายในหมู่บ้านก็อาจจะเป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ ครอบคลุมความต้องการของคนในหมู่บ้าน ทั้งของใช้ภายในบ้าน เครื่องปรุง บลา ๆ แต่ถ้าร้านค้าของเราขายบริเวณโรงเรียน ต้องเป็นสินค้าอุปกรณ์เครื่องเขียนหนัก ๆ และอย่าลืมของเล่นด้วย
6. จัดหน้าร้านให้มีระเบียบด้วย
ไม่ใช่ของวางไว้เต็มร้านเลย แบบนี้ลูกค้าที่ไหนมันจะมาเข้ากัน ?
7. ความสว่างของร้าน
1
8.location
ส่วนใหญ่ร้านขายของชำก็มักจะตั้งร้านอยู่แถวหน้าปากซอย เพราะจะเป็นจุดที่ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นร้านได้ง่ายและมาก
หลายคนอาจจะชอบรูปแบบการดำเนินงานของร้านขายของชำคือ ลงชื่อไว้ก่อน เดี๋ยวสิ้นเดือนค่อยมาจ่ายเงินนะป้า เอาจริงๆมันเหมือนเป็นการซื้อใจลูกค้าไปเลย555555 เป็นสิ่งที่ร้านสะดวกซื้อก็ทำไม่ได้มีแต่ร้านขายของชำที่จะทำแบบนี้
หากคุณชอบบทความนี้กดlike 👍
ประทับใจกดShare 🙌
แวะให้กำลังใจกันผ่าน Comment ✌
การตลาดอยู่ทุกที่ ทุกเวลา ทุกช่วงเวลาในชีวิตประจำวัน จนบ้างครั้งคุณก็
เผลอพูดออกมาว่า "เฮ้ย อะไรก็การตลาด"
#อะไรก็การตลาด
#Marketing
โฆษณา