8 เม.ย. 2020 เวลา 12:11 • ธุรกิจ
"รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง" เป็นสำนวนไทย หมายถึง รู้จักเอาตัวรอดหรือปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์
สำนวนนี้สามารถใช้ได้กับ Central Embassy ที่ได้เปิดตัวเมื่อปี 2557 โดยพัฒนาบนที่ดินที่แพงที่สุด ณ ตอนนั้น (ที่ดินของสถานฑูตสหราชอาณาจักร) และงบลงทุนที่สูงมากถึง 18,000 ล้านบาท ท่ามกลางพื้นที่ถนนเพลินจิตที่เรียกว่าหรูหราที่สุดบนกรุงเทพ พร้อมตั้งว่าเป็น ศูนย์การค้าที่ Luxury ที่สุดในกรุงเทพ
ตามที่พี่หมีคิดคือ Central Embassy เกิดจากการต่อยอดของ Central สาขาชิดลม ที่ยอดขายสูงสุดติดลำดับต้นๆ ของประเทศ แต่ Central ชิดลมจะมีร้านค้าค่อนข้างน้อย จึงทำให้เกิด Central Embassy ขึ้นมา
ซึ่งพี่หมีได้มีโอกาสไปเดินประมาณปีละครั้ง (ซึ่งน้อยมากเนื่องจากพี่หมีทำงานแถวสยาม สามารถเดินทางไปง่ายมาก) เนื่องจากเดินครั้งแรกแล้วรู้สึกว่า ศูนย์การค้านี้พี่หมีซื้อหรือทานอาหารอะไรไม่ได้เลย ราคามันสูงเกินเอื้อมไปหมด เลยไม่ค่อยได้ไปซ้ำเท่าไร (ศูนย์การค้าจะประสบความสำเร็จได้ต้องเกิดจากลูกค้าที่ไปซ้ำๆ) จนมีคนบอกว่าเป็นศูนย์การค้าที่ดีนะ เหมาะแก่การเดินเล่นเพราะไม่ค่อยมีคน และแอร์เย็นดี จนบางคนตั้งชื่อใหม่ว่า Central Empty หรือหากอยากทำงานในร้าน Starbuck ไปทำได้นะ ไม่มีคนเลย
แต่หลังจากผ่านไป 3 ปี พี่หมีก็ได้ยินข่าวว่า ผู้เช่าบางรายเมื่อครบสัญญาก็ไม่ต่อสัญญาเช่าและเริ่มมีการเปลี่ยนผู้เช่า ให้เข้าถึงผู้ใช้บริการมากขึ้นเริ่มมีร้านค้าที่ราคาเอื้อมถึง รวมถึงการขยาย Food Court (EATHAI) เพื่อให้รองรับกับผู้คนบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็น “คนทำงาน” ซึ่งอาจจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่แรกต้น
"แต่สุดท้ายศูนย์การค้า ร้านค้า จะอยู่รอดได้ ก็ต้องมีคนมาเดิน มาจ่ายเงิน คนที่จะมาเดินก็เน้นความสะดวก ก็ต้องเป็นคนที่อยู่ใกล้ คนที่อยู่ใกล้ ก็มีแต่คนทำงาน คนทำงานก็ไม่สามารถจ่ายเงินได้ครั้งนึงจำนวนมาก"
สุดท้าย Central Embassy ก็ต้องปรับตัว เริ่มมีเปิด Co Working Space ที่ชั้น 6 มีการเปิดร้าน Siwailai Club สำหรับเป็นที่ Hang Out หลังทำงาน เริ่มมีร้านชานมไข่มุก Koi The เข้ามาเปิด รวมถึงร้าน Muji และร้านอาหารที่ราคา หรือ ชื่อเข้าถึงง่ายและเป็นที่รู้จักคนกลุ่มคนทำงาน
เสาร์ที่ผ่านมาพี่หมีได้ไปเดิน Central Embassy อีกครั้ง ก็ได้เห็น Brand เสื้อผ้า Uniqlo มาเปิด ทำให้ภาพลักษณ์ของศูนย์การค้าดูเข้าถึงง่ายมากขึ้น ซึ่งค่อนข้างชัดเจนว่า กลุ่ม Central เรียนรู้ที่จะปรับตัวและไม่ฝืนกระแสความเป็นจริง และยอมเปลี่ยน Positioning ของตัวเอง เพื่อให้อยู่รอด
โดยมีข่าวนึงที่พี่หมีรู้สึกถึงความตรงข้ามชัดเจนเลย คือ อาทิตย์ที่ผ่านมาพี่หมีได้ยินว่า “เพลินวาน” ที่หัวหิน จะปิดตัวลง ปัจจัยนึงพี่หมีคิดว่า เพลินวาน อาจจะปรับตัวน้อยไป และพยายามรักษา Positioning ของตัวเองมากไป
"การย้อนวลาหาอดีต นั้นมันดี แต่อดีตของแต่ละวัยไม่เหมือนกัน อดีตของคนรุ่นนึงอาจจะแผ่นเสียง และ สมบัติ เมทะนี แต่อดีตของคนอีกรุ่น อาจจะ CD กับ Bodyslam"
โฆษณา