9 เม.ย. 2020 เวลา 01:47 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อกาแฟสดเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ต้องยอมรับว่าติดกาแฟครับ หลังจากต้องอยู่บ้านยาวๆ ก็เตรียมกาแฟซองแบบ 3 in 1 รอไว้ตั้งแต่ยังไม่ประกาศ พรก. ฉุกเฉิน
3
มี Amazon แบบดริพอีกหลายกล่องเพราะแม่บ้านอยากได้ถุง เลยต้องซื้อ 4 กล่องรวดเดียว
มี M-150 ติดตู้เย็นตลอดโดยซื้อมาแบบยกแพ็ค เพราะดูแล้ว ปริมาณคาเฟอีนที่จะได้จาก 3 in 1 ไม่น่าจะพอแน่ๆ เช้ากาแฟร้อน บ่ายกระดกเอ็มแช่เย็น.. อร่อยครับ
มาถึงวันนี้ เครื่องชงกาแฟสดก็แล่นเข้ามาอยู่ในห้วงคำนึง กดถูกใจไว้ในแอพช้อบปิ้งก็นานแล้ว ถึงเวลาซะที ใช้ข้ออ้าง work from home เข้าสภาเพื่อขออนุมัติโดยพลัน
2
หะแรกตั้งงบไว้ไม่เกินสองพัน คำนวณคร่าวๆจ่ายค่ากาแฟไปวันละ 50-60 บาท กินทุกวันเดือนนึงก็ซื้อเครื่องได้ละ อ่านรีวิวไปมา ไปเจอโพสต์เครื่องชงกาแฟยอดฮิต 10 ลำดับแรก
shopee.com
เจออีกรุ่นยี่ห้อเดียวกัน เพิ่มเงินอีกพันเศษ ตัดใจเอารุ่นนี้ละกัน กดสั่งซื้อผ่อน 0% x 10 เดือน จ่ายเดือนละ 300 กว่าบาท ก็ได้มาครอบครอง นั่งส่องดูความคืบหน้าในการจัดส่งสามเวลาหลังอาหารก็ไม่ถึงซักที
1
รู้งี้ขอขับรถไปรับเองน่าจะเร็วกว่า ช่วงนี้รถก็ไม่ติดด้วย
ส่องไปส่องมา เออ.. ลองซื้อกาแฟเมล็ดกับเครื่องบดมาลองด้วยดีกว่า กาแฟแคบซูลที่แถมมา 40 ชุด คงกินได้ไม่กี่วัน ว่าแล้วก็กดสั่งซื้อเครื่องบดกาแฟไปอีก
shopee
(เครื่องที่ซื้อมาชงได้หลายแบบน่ะครับ ทั้งพอดส์ แคบซูล และแบบบด)
ลองที่บดแบบมือหมุนก่อนละกัน 199 บาท ลองดู รอ 2-3 วันของก็มา พร้อมๆกับที่หน้าร้านปรับลดราคาลงไปอีก 20 บาท กรรม..
หนักกว่านั้น เครื่องชงลดราคาไปอีก 300 ของที่สั่งไปก็ยังมาไม่ถึง.. กรรมซ้อน
เอาล่ะ.. ระหว่างนี้ก็นั่งดูรีวิว วิธีการใช้เครื่องไปก่อน ดูไปดูมา เมนูกาแฟนี่มันเยอะจริงๆ ทั้งร้อนและเย็น ทั้งมีนมและไม่มีนมเป็นส่วนประกอบ
2
การทำฟองนมก็มีเคล็ดลับหลายอย่างเหมือนกัน ณ จุดนี้ก็พอเข้าใจเสน่ห์ของกาแฟ ทั้งในมุมของผู้ซื้อ ทานประจำจนติด และมุมของผู้ขายซึ่งคงชื่นชอบการชงกาแฟเอามากๆ
1
ดูไปดูมา ในบ้านก็มีแต่แก้วสเตนเลสทั่วไป ถ้าจะหัดทำลาเต้อาร์ตคงจะไม่ได้การ ว่าแล้วก็ส่องแอพชอบปิ้ง เพื่อหาแก้วปั่นฟองนมหรือที่เรียกว่าพิชเชอร์นั่นเอง
shopee
อืมม..ขนาด 350ml ราคา 200 บวกลบนิดหน่อย พอทน กดถูกใจรอไว้ก่อน ขอลองชงดูก่อนละกัน เพราะสั่งไป 2-3 วันก็ได้ของละ ลองใช้แก้วที่มีอยู่ไปก่อนละกัน
1
กว่าจะได้กาแฟซักแก้ว หากทำด้วยความพิถีพิถัน คัดเลือกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ดี แม้กระทั่งแบบของถ้วยกาแฟ จะทำให้มีความสุขกับการดื่มกาแฟขึ้นอีกมาก แทบจะไม่เสียดายเงินค่ากาแฟที่ซื้อกินเลย
เท่าที่หาอ่านดู กาแฟหนึ่งช้อตใช้ผงกาแฟประมาณ 10 กรัม (เอาเลขกลมๆจะได้คำนวณง่ายๆ) กาแฟถุง 250 กรัม ชงได้ 25 แก้ว ราคามีตั้งแต่ 130-250 บาทต่อถุง เอาราคา 200 บาทต่อถุงละกัน แพงกว่านี้คงไม่ซื้อละครับ
200 หารด้วย 25 เท่ากับ 8 บาท ค่าน้ำค่าไฟอีก 2 บาทละกัน รวมเป็น 10 บาท ถ้ากินลาเต้ทุกวันก็มีค่านมอีก
ค่านมสดรสจืดตีไปลิตรละ 50 บาท ใช้ประมาณ 200ml ต่อครั้ง (มั่วๆประมาณเอาตามขนาดแก้วทั่วไป) ชงได้ 5 แก้ว เอาไปหาร 50 ตกแก้วละ 10 บาท
1
รวมๆก็ราว 20 บาท จากที่เคยซื้อกิน 50 บาท ประหยัดไป 30 บาทต่อแก้ว อู้หู..เยอะแฮะ คงไม่ได้คิดเลขผิดนะ.. 555
ลงทุนไปทั้งค่าเครื่อง ค่าที่บดกาแฟ เผื่อค่าพิชเชอร์ ไปเลยละกัน ตีเหมากลมๆไป 4,000 เอา 30 มาหาร
เราก็จะได้จุดคุ้มทุนที่ 130 ครั้งหรือชงไป 130 แก้ว ก็จะได้เงินทุนคืน หลังจากนั้น saving ล้วนๆครับ ทุกๆครั้งที่ชงกาแฟ จะได้เงิน 30 บาทไปจนกว่าเครื่องจะพัง หรือเราเลิกกินกาแฟ
แล้วนานมั้ยเหรอ... ถ้าเรากินวันละแก้ว ก็เอา 30 วัน ไปหาร 130 ครั้ง ก็ประมาณ 4 เดือน กับอีก 10 วัน
นานไปเหรอ.. ก็หาคนช่วยกินแล้วก็แชร์ค่าเครื่องครับ ณ จุดนี้ กินวันละสองแก้ว บวกของแม่บ้าน ถ้ากินทุกวัน ก็เร็วกว่าเดิม 3 เท่าครับ แต่ดูแล้วแม่บ้านคงไม่แชร์ค่าเครื่องด้วยเป็นแน่
ช่วงนี้ Work from home ดูๆแล้วน่าจะเกินเดือน เลยรีบซื้อช่วงนี้ จากเหตุผลแล้วข้อมูลที่คิดแบบเข้าข้างตัวเอง (เพราะอยากได้อยู่แล้ว) เลยเอามาแบ่งปันครับ
2
จริงๆระหว่างนี้ควรใช้จ่ายอย่างประหยัด อะไรที่ลดได้ก็ควรลดไปก่อน ผมก็คำนวณแบบทานทุกวันให้ดู และคิดเลขฝึกสมองนิดหน่อย
หากผมอยาก Save มากขึ้น โดยที่ยังกินกาแฟสดได้ทุกวัน ก็แค่เปลี่ยนเมนูจากลาเต้มาเป็นอเมริกาโน หรือเอสเพรสโซ เท่านี้ผมก็ลดต้นทุนไปได้ 50% แล้ว
เมื่อส่วนต่าง Saving มากขึ้น จุดคุ้มทุนก็จะน้อยลง ระยะเวลาคืนทุนก็จะเร็วขึ้น
ส่วนลาเต้หรือเมนูอื่นๆ เช่น ออเรนจ์กาโน (น้ำส้มคั้น+อเมริกาโน) ก็ไว้กินวันหยุดบ้าง
1
ถ้าทำแล้วอร่อย เปิดขาย Delivery ในซอยจะมีคนสั่งมั้ยนี่.. 555
มีเมนูทำกินเองที่บ้านง่ายๆ หรือมีเทคนิคการชงดีๆ ก็แนะนำกันมาได้ครับ
ว่าแล้วก็ส่อง Tracking ของบริษัทขนส่งต่อไป วันนี้จะมาส่งมั้ยน้อ...
สวัสดีครับ
2

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา