10 เม.ย. 2020 เวลา 02:06 • ธุรกิจ
ฝันไปเถอะว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแบบ V-Shaped และที่สำคัญเราจะเผชิญกับ secular stagnation ภาวะเศรษฐกิจซึมยาวและถดถอยเรื้อรัง
การระบาดของ coronavirus ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง สถานการณ์แบบ crash landing แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นและเมื่อเกิดขึ้นมันน่าสะพรึงกลัวพอสมควร
Source: https://voxeu.org/article/larry-summers-secular-stagnation ตัวอย่าง secular stagnation แนวคิดของ Larry Summers
เมื่อห้าสัปดาห์ก่อนตัวเลขการว่างงานยังดูสวยงาม แต่ ปัจจุบันอัตราการว่างงานกลับทำสถิติใหม่สูงสุดตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้เห็นภาพง่ายๆ อัตราการว่างงานของสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ต่อวัน นั่นหมายความว่าจะถึงร้อยละ 30 ในหน้ารัอนนี้
วิกฤตรอบนี้ไม่ได้ส่งผลอย่างรุนแรงกับสหรัฐเท่านั้น แต่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้รับผลกระทบ ภาคธุรกิจที่แต่เดิมวิกฤตส่วนใหญ่ไม่เริ่มจากภาคการเงิน หรือภาคอสังหา กลับขยายไปทั่วทุกธุรกิจ ธุรกิจที่ปิดตัวไป มีแนวโน้มสูงที่จะไม่วามารถกลับมาเปิดได้อีกเลย ในยุโรปคาดว่าเยอรมันน่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะพึ่งพาการส่งออก ในขณะที่ฝั่งเอเชีย คาดว่าญี่ปุ่นถึงแม้การระบาดจะไม่มาก แต่ผลทางเศรษฐกิจมากพอสมควร แม้กระทั่งในจีนเอง อัตราการว่างงานยังสูงถึงรัอยละ 6
แม้กระทั่งอินเดียที่ประกาศชัดดาวน์ แต่อย่าลืมว่าแรงงานจำนวนมากของอินเดียเกือบ 470 ล้านคน มีเพียงร้อยละ 19 ที่ได้รับการคุ้มครองจากเครือข่ายประกันสังคม
หลายๆ ประเทศออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลแต่ดูเหมือนว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ง่ายเหมือนการประกาศหยุดธุรกิจเพื่อ shut down ธนาคารกลางสหรัฐอาจดูเหมือนว่าจะเดินตามตำราการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในช่วงปี 2008 แต่มูลค่าในครั้งนี้มากกว่า ปี 2008 มาก
ยิ่งเรา shutdown เศรษฐกิจนานเท่าไหร่ เศรษฐกิจจะเสียหายหนักมากเท่านั้น ถึงแม้ดูเหมือนจีนจะเริ่มฟื้นตัวแต่เราก็ไม่รู้ว่าจะมีการระบาดขึ้นมาเมื่อไหร่อีก หลายๆฝ่าย พยายามเรียกร้องให้มีการใช้นโยบายการคลังในการแก้ไขปัญหามากขึ้นกว่านี้ แต่กานใช้นโยบายการคลังมาคู่กับหนี้สาธารณะ ปัจจุบันเราสร้างหนี้ไว้แต่พักไว้ที่ธนาคารกลางชั่วคราว ซึ่งส่วนหนึ่งอาจไม่ทำให้หนี่พุ่งขึ้นมาก ด้วยภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ อย่างไรก็ตาม คำถามต่อไปในอนาคตเราจะจัดการกับหนี้ก้อนนี้อย่างไรในอนาคต ถ้าไม่ใช่การขึ้นภาษี
ใครจะไปนึกว่า ธนาคารกลางเริ่มที่จะกลับทิศในการดำเนินนโยบายการเงินหลังจากวิกฤต 2008 แต่ท้ายที่สุดการระบาดของไวรัสก็ต้องทำให้ธนาคารกลางหันกลับมาใช้นโยบายดอกเบี้ยแบบ ultra low อีกครั้ง
ณ จุดนี้ ไม่มีอะไรการันตีให้เราได้ว่าเราจะสามารถกลับไป ณ จุด normal economy และ normal lives ก่อนการระบาดของ coronavirus ได้เลย เศรษฐกิจสหรัฐและโลกตะวันตกถดถอย เศรษฐกิจเอเชียถดถอย ทำให้เกิด secular stagnation ตามแนวติดของ Larry Summers ว่าเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในภาวะที่เศรษฐกิจซึมยาวและถดถอยเรื้อรัง เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ นโยบายการเงินในรูปแบบต่างๆ ไม่สามรถกระตุ้นเศรษบกิจได้
เรียบเรียงจาก Foeign Policy บทความ The Normal Exonomy is never coming back
โฆษณา