11 เม.ย. 2020 เวลา 03:53 • ความคิดเห็น
Burnout Syndrome จากการทำงาน
การเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างในชีวิตสำหรับบางคนอาจเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่ยังมีคนอีกประเภทหนึ่งที่มองว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย เป็นจุดเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ คุณยังจำความรู้สึกวันแรกที่เริ่มงานได้ไหมครับ โต๊ะทำงานใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่ งานใหม่ที่ท้าทาย
คุณทำงานอย่างเต็มที่กับการเริ่มต้นงานใหม่ ตื่นเต้นและสนุกไปกับมันไม่ว่างานนั้นจะผ่านเข้ามามากมายเพียงใด แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณกลับตื่นขึ้นมาด้วยเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังไปทั่วห้อง ที่ปลุกเร้าคุณให้เริ่มต้นวันใหม่แต่คุณกลับรู้สึกเหนื่อย คิดถึงเรื่องมากมายหลายพันเรื่องที่ต้องทำ ไม่มีแรงกายหรือแรงจูงใจที่จะทำงาน สิ่งหล่านั้นคือสิ่งที่บอกว่า คุณกำลังทรมารกับภาวะ "Burnout"
แล้ว Burnout Syndrome คืออะไรล่ะ ?
ก่อนที่จะไปรู้จักกับคำว่า Burnout Syndrome คุณต้องทำความรู้จักกับความเครียด ความเครียดจะเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเรื่องงาน ปัญหาชีวิตหรือส่ิงต่างๆที่ต้องพบเจอ แต่ความเครียดเหล่านี้บางครั้งอาจมาโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยก็ได้ โดยความเครียดที่สะสมในตัวเรา จะส่งผลให้เกิดภาวะBurnout Syndrome หรือว่าภาวะหมดไฟในการทำงาน
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะ Burnout Syndrome
1.ปัจจัยเรื่องงาน
งานเป็นสิ่งที่คนทำงานทุกคนต้องประสบพบเจอ แต่งานเหล่านั้นก็ส่งผลทำให้เราเกิดภาวะความเครียด ไม่ว่าจะเป็นงานที่ยากเกินความรับผิดชอบ งานที่มีแรงกดดันหรือภาวะตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา งานที่ไม่ถนัด การไม่ได้รับการยอมรับจากหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน ส่ิงต่างๆเหล่านี้ย่อมส่งผลให้เกิดภาวะความเครียด
2.ปัจจัยเกี่ยวกับการใช้ชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นการโหมงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน หน้าที่การรับผิดชอบรายจ่ายภายในบ้าน หรือว่าปัญหาความสัมพันธ์ทางลบกับทุกคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว คนรัก ก็ทำให้เกิดความเครียดได้เช่นกัน
3.ปัจจัยเกี่ยวกับตัวบุคคล
เป็นที่ทราบกันดีว่าแต่ละคน มีตัวตนที่แตกต่างกัน รับแรงกดดันได้ต่างกัน แก้ไขปัญหาได้ต่างกัน ซึ่งนั้นก็ส่งผลให้ความเครียดที่เกิดขึ้นแตกต่างกันออกไปด้วย
วิธีฟื้นฟูตัวเองจากภาวะ Burnout Syndrome
เมื่อคุณเข้าสู่ภาวะ Burnout Syndrome คุณจะต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองเพื่อออกสู่ภาวะ Burnout Syndrome คือคุณต้องรักษาสมดุลระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว
1.พักผ่อนให้เพียงพอ
2.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยง บุหรี่ แอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป
3.หาเวลาไปเที่ยวหรือออกไปข้างนอกเพื่อที่จะหลุดพ้นจากเรื่องการทำงานสักพัก
4.กำหนดความสำคัญของงาน ทำงานอย่างเป็นระบบ บริหารเวลาในการทำงาน เพื่อไม่ให้เวลาทำงานมาก้าวก่ายกับเรื่องส่วนตัว
5.หากเจองานที่ยากหรือเกินความสามารถให้ขอความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรืออาจจะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อที่จะได้แก้ไขงานร่วมกัน
6.หาเวลาทำกิจกรรมที่ชอบ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านนิยาย ทำสิ่งใดก็ได้ที่เป็นการผ่อนคลายตัวคุณมากที่สุด
7.งดการเล่นโซเซียล การที่เราตอบไลน์ หรือเล่น facebook ตลอดเวลา สิ่งนั้นทำให้ร่างกายได้รับข้อมูลข่าวสารมากเกินไป ทำให้สมองของคุณไม่ได้พักผ่อน ดังนั้นคุณควรออฟไลน์ซะบ้าง
อย่าลืมนะครับ ไม่ว่างานของคุณจะเยอะแค่ไหน คุณไม่จำเป็นต้องอุทิศชีวิตของคุณทั้งหมดให้กับงานเหล่านั้น คุณต้องออกจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนและความวุ่นวายออกมาออฟไลน์ตัวเองซะบ้าง เพื่อชาร์ตพลังด้วยสิ่งต่างๆที่คุณสนใจ สิ่งเหล่านั้นจะช่วยให้คุณมีความสุขมากขึ้นและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เขียนโดย : aspect
Designed by freepik
โฆษณา