11 เม.ย. 2020 เวลา 05:57 • ไลฟ์สไตล์
ไม่ใช่แค่เราที่เป็นห่วง....
คนต่างจังหวัดที่มาทำงานในกรุงเทพ คงไม่มีใครไม่คิดถึงบ้านและญาติพี่น้อง ผมก็เหมือนกันในหนึ่งปีผมจะลากลับบ้าน 2 ครั้งๆละ 4 วัน ใน 4 วันนี้ผมจะใช้เวลาอยู่ครอบครัวและญาติพี่น้องให้มากที่สุด
แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ผมรู้สึกให้เวลาเวลากับท่านไม่เต็มที่เท่าไหร่
ทั้งที่น่าจะอยู่กับท่านให้มากกว่านี้
คนนั้นก็คือ “คุณพ่อ” ของผมเอง
ความผูกพันธ์ผมกับคุณพ่อเริ่มห่างเหินเมื่อผมอายุได้ประมาณ 5 ขวบ เมื่อแม่เสียชีวิตลงได้ 3 ปี คุณพ่อก็แต่งงานใหม่แยกตัวไปอยู่อีกบ้าน และมีลูกสาวกับแม่ใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณพ่อและแม่ใหม่ก็ไม่ได้มีอะไรที่เลวร้าย
ทุกอย่างเป็นไปปกติดี
ยกเว้นความผูกพันธ์ระหว่างผมกับพ่อ ยิ่งผมโตขึ้นความห่างเหินระหว่างเราก็ยิ่งมากขึ้น
เรียกว่าต่างคนต่างไปใช้ชีวิตของตัวเอง นานๆครั้งจึงจะได้เจอกันที ก็พูดคุยกันตามประสาพ่อลูกซักพักก็ต่างคนต่างไป
มีช่วงหลังๆมานี้ค่อยดีขึ้นหน่อย ด้วยความที่ผมเป็นผู้ใหญ่ขึ้น คุณพ่อก็แก่ตัวลง
เราจึงหันมาใก้ลชิดกันมากขึ้น
แต่ด้วยหน้าที่การงานของผม ทำให้ไม่สามารถอยู่กับท่านได้มากนัก
จึงได้แต่ค่อยเป็นห่วงอยู่ไกลๆ
ด้วยวัยท่านอายุจะ 80 แล้ว แม้ร่างกายยังดูแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว
แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ยิ่งมีโรคระบาดอย่างนี้ก็ยิ่งเป็นห่วง ได้แต่โทรศัพท์ถามข่าวกับพี่สาว
แม้คำตอบที่ได้รับจะทำให้รู้สึกสบายใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี.....
แต่ไม่กี่วันมานี้น้องสาวที่เป็นลูกต่างแม่ของคุณพ่อก็ทักไลน์มาหา....
แล้วถามว่าเพื่อนทำปลาแห้งขายอยากกินปลาแห้งไม ผมก็ตอบไปตามปกติว่าอยากกิน
แต่ก็รู้สึกสงสัยและแปลกใจนิดหนึ่ง เพราะปกติน้องคนนี้เราไม่ค่อยจะคุยไลน์ส่วนตัวกันเท่าไหร จนมาถึงข้อความสุดท้ายที่น้องบอกว่า
“คุณพ่อให้โทรถามทุกวันเลยว่าพี่เป็นยังไงบ้าง”
เมื่อได้อ่านข้อความนี้ ทำให้ผมเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที
ด้วยความรักและความห่วงใยของคนเป็นพ่อ กอบกับการที่อยู่ห่างไกลกันนั้น คงทำให้ท่านอดเป็นห่วงไม่ได้ แม้เราจะดูแลตัวเองดีไหน แม้เราจะบอกท่านว่าสุขภาพของเราแข็งแรงแค่ไหน ความห่วงใยที่ท่านมีต่อเราก็คงไม่ลดน้อยลง คงมีแต่เพิ่มขึ้นในทุกๆวันที่ผ่านไป
ยิ่งที่ที่ผมทำงานอยู่เป็นโรงพยาบาลด้วยแล้ว ความเสี่ยงที่มากกว่าสถานที่อื่นๆ
ยิ่งทำให้ท่านเป็นห่วงมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
ที่ผ่านมาขอยอมรับอย่างหนึ่งนะครับ ว่าไม่ค่อยรับรู้ความรู้สึกตรงนี้ของคุณพ่อเท่าไหร่ หลายครั้งทำเหมือนความรัก ความห่วงใยของท่าน เป็นเรื่องปกติธรรมดา แล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ซึ้งต่อมามันทำให้ผมรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่บ่อยครั้ง และคุณพ่อเองก็คงรู้สึกเสียใจและผิดหวังกับสิ่งที่ผมแสดงออกอยู่พอสมควร
ในสถานการณ์ที่เชื้อไวรัสกำลังระบาดอยู่ขณะนี้ เราต่างก็เป็นห่วงคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ลูกหรือญาติพี่น้อง โดยเฉพาะคนแก่ ผู้สูงอายุ เราพยายามปกป้องและดูแลท่านอยู่ตลอดเวลา จนบ้างครั้งเราก็ลืมไปว่าท่านเอง ก็รักและเป็นห่วง เป็นใย เราเช่นกัน
ท่านอยากเห็นเราดูแลตัวเอง อยากเห็นเราออกกำลังกายสม่ำเสมอเหมือนที่เราบอกท่าน อยากให้เราพักผ่อนเยอะๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ ป้องกันตัวเองทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน ท่านก็อยากบอกเราเหมือนที่เราบอกท่าน
ฉะนั้นเมื่อดูแลคนที่เรารักแล้ว ก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเราเองเท่านั้น แต่เพื่อคนที่รักและห่วงใยเราด้วย ถ้าเราดูแลตัวเอาดีแล้ว คนที่เรารักก็จะมีกำลังใจดูแลตัวเองด้วยเช่นกัน
เพราะคงไม่มีใครอยากได้ยินข่าวคนที่ตัวเองรัก ไม่สบายเป็นโน้น เป็นนี้หรอกใช่ไมครับ
ทุกคนต่างก็อยากเห็นคนที่ตัวเองรัก มีสุขภาพที่แข็งแรงและอยู่ด้วยกันไปนานๆ
อย่าลืมนะครับ....
“ไม่ใช่แค่เราที่เป็นห่วงคนที่เรารัก แต่คนที่รักเราเขาก็เป็นห่วงเราเช่นกันครับ”
🙏🙏ขอบคุณครับ🙏🙏
ผักอีตู่
11/04/63
ปล.ตั้งใจว่าจะเขียนสั้นที่สุด แต่ก็ยาวอยู่ดี ขอบคุณนะครับที่ทนอ่านจนจบ
ขอบคุณภาพ sodiu mmedia
โฆษณา