12 เม.ย. 2020 เวลา 00:00 • กีฬา
เปเล่
ฉายา ใข่มุกดำ
ชื่อเต็ม : เอดิสัน อารันเตส โด นาสซิเมนโต้
วันเกิด : 23 ตุลาคม 1940
สถานที่เกิด : เตรส โคราซอส, บราซิล
ส่วนสูง : 1.74 เมตร (5 ฟุต 8 นิ้วครึ่ง)
ทีมชาติ : บราซิล (แขวนสตั๊ดแล้ว)
ตำแหน่ง : กองหน้า
เปเล่ เป็นลูกชายของ เจา รามอส โด นาสซิเมนโต้ พ่อของเขาเป็นนักฟุตบอลสังกัดทีมเล็กๆ ที่ไม่โด่งดัง ไม่เป็นที่รู้จัก และไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นอาชีพนี้จึงแทบจะทำรายได้เพื่อเลี้ยงครอบครัวไม่ได้เลย
1
เอดิสันมามีชื่อเรียกว่า “เปเล่” เมื่อตอนเรียนหนังสือ เขามีนักฟุตบอลในดวงใจชื่อว่า “บิเล่”เป็นผู้รักษาประตูทีมวาสโก ดา กามา แต่เขาเรียกชื่อนักฟุตบอลผิดไปเป็น “ปีเล่” ทำให้เพื่อนๆ ล้อและเรียกเขาว่า “เปเล่” ซึ่งในตอนแรกเขาไม่ชอบชื่อนี้มาก
เปเล่ เติบโตขึ้นมากับการเล่นฟุตบอลตามท้องถนนดินลูกรังในบ้านเกิด ไม่มีแม้กระทั่งถุงเท้าดังนั้นเรื่องรองเท้า ไม่ต้องฝันถึงกระทั่งลูกบอลที่จะใช้เตะยังมาจากกระดาษเอามาปั้นเป็นก้อนกลม
เปเล่ถูกค้นพบโดยวัลเดอมาร์ เดอ บริโต้ (Waldemar de Brito) นักเตะในลีกสูงสุดของบราซิลปี ค.ศ. 1956 เปเล่มีอายุได้ 15 ปี เขาก็ได้ถูกเดอ บริโต้ พาไปทดสอบฝีเท้าที่สโมสรซานโตส เปเล่สร้างความประทับใจให้แก่แฟนบอล สื่อมวลชน และ ผู้บริหารของทีมซานโตส ด้วยการลงเล่น ในวัยเพียง 15 ปีและยิงได้ถึง 4 ประตู จนบริโต้ บอกกับผู้บริหารทีมซานโตส ว่า " ตำนานของวงการฟุตบอลโลกกำลังเกิดขึ้นแล้ว"
อีกหนึ่งปีต่อมา การแข่งขันลีกบราซิลได้เริ่มขึ้น เปเล่ ได้ลงเล่นในฐานะตัวจริงของทีมซานโตส และโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ตอนนี้ชีวิตของเขามีแต่ทะยานไปข้างหน้า โดยลืมอดีตอันยากแค้น ไว้อยู่เบื้องหลัง ต่อจากนั้นอีก 10 เดือน เปเล่ ถูกเรียกตัวติดทีมชาติบราซิล
19 มิ.ย. 1958 ฟุตบอลโลก ที่สวีเดน เปเล่ ติดทีมชาติบราซิลไปแข่งขัน ด้วยวัยเพียง 17 ปี 293 วัน ซึ่งถือว่าเป็นสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก แต่ไม่หมดเพียงแค่นี้ เปเล่ ยังนำทีมชาติบราซิล คว้าแชมป์โลก ได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ตื่นตาตื่นใจ ให้ชาวยุโรปและคนทั้งโลกได้ชมกัน เปเล่จึงเป็นที่เล่าขานและเป็นที่ชื่นชมอย่างมากในตอนนั้น
แต่ในปี 1962 ฟุตบอลโลกที่ ชิลี เปเล่ ต้องโชคร้าย เมื่อลงแข่งได้เพียงนัดเดียวและได้รับบาดเจ็บทำให้เขาหมดสิทธิ์ลงเล่นช่วยทีม แต่บราซิลของเขา ก็ยังสามารถคว้าแชมป์โลก ได้เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน แต่เปเล่ไม่มีส่วนร่วมด้วยเลย
ปี 1966 ฟุตบอลโลกที่ อังกฤษ เปเล่ ก็อดลงเล่นอีก เมื่อบาดเจ็บอีกครั้งหลังโดนการเล่นนอกเกม และโดนไล่เตะในนัดเจอ โปรตุเกส ทำให้เขาไม่มีส่วนร่วมกับฟุตบอลโลกอีกครั้งหนึ่ง
แต่ในปี 1970 ฟุตบอลโลกที่ เม็กซิโก เปเล่ มาในความฟิตสมบูรณ์สุดขีด และมาพร้อมกับเพื่อนนักเตะที่เก่งกาจอย่างทอสเทา,แซร์ซิน
โญ่ และ ริเวลิโน่ บราซิลโชว์ฟอร์มได้สุดยอดอีกครั้ง และคราวนี้เปเล่ และเพื่อนร่วมทีมก็สามารถช่วยกัน คว้ามแชมป์โลกสมัยที่สามได้สำเร็จ
         ในนัดชิง บราซิล ทีมที่เล่นเกมรุกได้ดีที่สุด เจอกับ อิตาลี ทีมที่เล่นเกมรับได้ดีที่สุด แต่ด้วยฟอร์มอันสุดยอดของเปเล่ เขาช่วยให้บราซิล ถล่มอิตาลีไปถึง 4-1
1
วันที่ 2 ต.ค. 1974 หลัจากคว้าแชมป์โลกมา 3 สมัยแล้ว เปเล่ ตัดสินใจอำลาซานโตส และตัดสินใจออกไปหาความท้าทายใหม่ในบั้นปลายอาชีพค้าแข้งกับทีม คอสมอส ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาได้รับเงินถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อไปกระตุ้นกีฬาซอคเกอร์ ให้คนอเมริกันหันมาชื่นชอบกัน  ที่อเมริกา เปเล่ประสบความสำเร็จทุกอย่าง ไม่ว่า จะเป็นนักเตะยอดเยี่ยม ดาวซัลโว และทำให้คนที่นี่หันมาสนใจซอคเกอร์เพิ่มมากขึ้น และ จนกระทั่ง วันที่ 1 ต.ค. 1977 เปเล่ตัดสินใจแขวนสตั๊ด อำลาวงการลูกหนังอย่างเป็นทางการ ในนัดสุดท้ายที่ ไจแอนนต์ สเตเดี้ยม ซึ่งคอสมอส พบกับ ซานโตส สโมสรเก่าของเขานั่นเอง ซึ่งการอำลาเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ มีแฟนบอลหลายหมื่นคนเข้าร่วมการอำลาของเขา
สถิติของ เปเล่
 
เล่นให้ทีม :
🇧🇷 Santos FC (1956 - 1974) ลงเล่น 1,116 นัด ยิงได้ 1,091 ประตู
🇺🇸 New York Cosmos (1975 - 1977) ลงเล่น 111 นัด ยิงได้ 65 ประตู
เล่นให้ทีมชาติ Brazil (1957 - 1971) 114 นัด ทำได้ 95 ประตู (ลงเล่นแมตช์ทางการ 92 นัด ยิงได้ 77 ประตู)
รวมเล่นทุกรายการทั้งหมด 1,363 นัด ยิง 1,283 ประตู (รับรองโดย Guinness World Records : Most Career Football Goals : 1,283 goals in 1,363 games)
ทำแฮตทริค 92 ครั้ง
ทำ 4 ประตูในนัดเดียว 31 ครั้ง
ทำ 5 ประตูในนัดเดียว 5 ครั้ง
ใขามุขดำ เปเล่!!!
โฆษณา