13 เม.ย. 2020 เวลา 15:01 • ความคิดเห็น
แข็งแกร่งเท่านั้น ถึงจะอยู่รอด
ฤา โควิด-19 คือส่วนหนึ่งแห่งวิวัฒนาการ และ กำลังคัดเลือกสายพันธุ์มนุษย์ !!!
สมัยเป็นเด็ก ผมจะชอบหนังสือ เกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ เป็นพิเศษ เราคงพอจะจำภาพกันได้ ถ้าจำไม่ผิด ตอนหลังจบเคารพธงชาติ 08:00 ตอนเช้า จะมีพี่ๆ เขาเอาหนังสือ เล่มเล็กๆ มาขาย มีหนังสือหลายอย่าง บ้างก็เป็นนิยาย บ้างก็เป็นเรื่องสั้น ที่เป็นที่นิยมสมัยนั้น ก็น่าจะเป็น หนังสือ เกี่ยวกับ เนื้อเพลง ละครดังหลังข่าวตอนนั้นมีหลายเรื่อง ผมจำไม่ได้ แต่ที่จำได้ ติดตาตรึงใจ ก็คือ ละครชุด เปาบุ้นจิ้น โอโห ! ตอนนั้นดังระเบิดเถิดเทิง ติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ขวัญใจของผมเองก็น่าจะเป็น องครักษ์ จั่นเจา ติดถึงขนาด อยากจะร้องเพลงเปาบุ้นจิ้นให้ได้ แต่มันก็ไม่ง่าย เพราะเป็นภาษาจีน แกะยังไงก็แกะไม่ออก ยังกะติดด้วยกาวตราช้าง 555 !!! เพราะเราไม่ได้พูดจีน ฯ
คนที่มาขายหนังสือ สมัยนั้น ก็ฉลาด เหมือนจะรู้ว่าคนส่วนมากติดละครเปาบุ้นจิ้น ก็เลยหาหนังสือที่มีเนื้อเพลง ละครเหล่านี้มาขาย ซึ่งก็ได้ผลแห่ะ ขายดิบขายดี เป็นเทน้ำเทท่า ซึ่งหนังสือเล่มเล็กเหล่านั้น ราคาแค่ 5 บาทเอง ครับถูกต้องราคาแค่ 5 บาท ผมไม่ได้พิมพ์ผิดหรอกครับ แต่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหา และ สาระ หลายหลากมากมาย โดยเฉพาะเนื้อเพลง เปาบุ้นจิ้น และเนื้อเพลง นักร้องดังอื่นๆ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริงๆถึงขนาดทำให้ผมจำเนื้อเพลงเปาบุ้นจิ้น ถึงทุกวันนี้ “ ข่ายโฟ่งโหย๊ว กูว เปาฉิ่งเทียน เถี่ยเมี่ยอู๊วฉื่อ เปี่ยน จงเจี่ยนฯ 😂😂😂
เห็นไหมหล่ะ 5 บาทไม่ธรรมดา กันล่ะจริงๆพี่น้องเอ้ย ถึงขนาดทำให้ผมร้องเพลงเปาบุ้นจิ้นได้ ตอนเปาบุ้นจิ้นดังๆ ถ้าจำไม่ผิดผมน่าจะอยู่ราว ป.3 สมัยนั้นตอนผมเป็นเด็กนักเรียนปฐม 5 บาทเนี่ยหายากมาก ไปโรงเรียนไม่ใช่มีตังค์ซื้อขนมทุกวันนี้ เหมือนลูกๆ เราทุกวันนี้น่ะครับ 2-3 บาทนี่ โห ดีใจลิงโลด สมัยลูกเราทุกวันนี้ขั้นต่ำ ต้อง 20 บาท อันนี้คือบ้านนอกน่ะ ในเมืองอาจจะเป็นร้อยฯ
ผมตอนนั้นก็เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ คือไม่ค่อยได้ตังค์ไปโรงเรียน พอเห็นเขามาขายหนังสือก็ไปดูเหมือนกัน สายตาผมไปเตะเข้ากับหนังสือเล่ม 1 “นักวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของโลก” หูยยยยย !!! บอกเลยอยากได้มาก ขอเขาเปิดอ่านดู ก็เห็นรายชื่อนักวิทยาศาสตร์หลาย สิบ คนที่สำคัญๆ และผลงาน เอาไงดีว่ะ อ่านแล้วอยากเอามานอนกอด อยากได้มาก แต่มีตังค์อยู่ 2 หรือ 3 บาทก็ไม่รู้ จำไม่ได้ตอนนั้นรู้แต่ว่ามีไม่ถึง 5 บาท เลยบอกพี่เขาว่า อยากได้หนังสือเล่มนี้แต่ไม่ตังค์ (แบบใสซื่อๆ บ้านนอกๆ) รอบหน้าผมจองเล่มนี้น่ะ เอามาด้วยพี่เขาก็รับปากว่า เขาจะเก็บไว้ให้เราฯ
ฝ่ายเราเมื่อเขารับปากจะเก็บหนังสือเล่มนั้นไว้ให้เรา หน้าที่เราคือหาตังค์ จะไปหาตังค์จากไหนว่ะเนี่ย ปกติเขาจะเข้ามาที่โรงเรียน เดือนละครั้ง (คาดว่าเขาน่าจะเวียนไปขายที่โรงเรียนอื่นเรื่อยๆ ) แต่เรานี่สิ ถ้าเขามารอบหน้าหาตังค์มาซื้อไม่ได้ คงได้อายเขาแน่ ฯ
ตอนเป็นเด็กสมัยนั้น พ่อติดเหล้ามาก ทุกวันผมต้องออกไปซื้อเหล้าให้พ่อ ไม่เช้า ก็เย็น วันละกั๊ก กั๊กละ 10 บาท กั๊ก 1 ก็เท่ากับ 1 ขวดกระทิงแดงเล็ก ทุกวันนี้ก็ยังมีขาย เช้าก็กั๊ก เย็นก็กั๊ก รวม 20 บาท 1 วัน พ่อก็จะเป็นคนสั่งให้เราไปเอาตังค์จากแม่ทีละ 10 บาท แม่เป็นคนเก็บตังค์ พูดง่ายๆ คือพ่อเป็นคนทำงานหาเงิน ให้แม่เก็บตังค์ พอพ่ออยากดื่มเหล้า ก็ให้เรามาเบิกตังค์จากแม่ไปซื้อเหล้า เราก็ไปทุกวัน บางทีเย็นๆ ดึกแล้วก็ต้องไปซื้อ กลัวผีก็กลัว ฯ
พอวันนั้นผมอยากได้ตังค์ไปซื้อหนังสือเล่ม5 บาทที่ว่าไว้ ก็เลยมาขอแม่ แม่ก็ไม่อยากให้ เพราะคงจะเก็บตังค์ไว้ซื้อเหล้าให้พ่อ แต่ผมนี่มั่นใจว่ายังไง แม่ก็ต้องมีตังค์แน่นอน ผมถึงขนาดพูดกับแม่ว่า “ขอตังค์แค่ 5 บาทไปซื้อหนังสือมาอ่านได้ความรู้ มีประโยชน์มากกว่า แม่เก็บตังค์เอาไปซื้อเหล้าให้พ่อดื่มอีก”..... แม่อึ้ง และเงียบไปพักก่อนจะล้วงเป๋าหยิบตังค์ 5 บาทมาให้ ในที่สุด ผมเลยได้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนั้นสมใจอยาก ผมเลยได้รู้จักนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น และจำได้มาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนแม่ก็บอกว่า ยังจำวันที่ผมพูดขอเงินค่าเหล้าพ่อมาซื้อหนังสือเล่มละ 5 บาท จวบจนทุกวันนี้ได้เช่นกัน ก็ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน พอไปพูดเรื่องนี้กับแม่ทีไร แกเหมือนจะน้ำตาไหล พูดเสียงคลอๆ ทุกที(อ้อ !! คุณแม่ผมแกเป็นคนอ่านหนังสือไม่ออกน่ะครับ แต่เขียนได้นิดหน่อย เหมือนคนโบราณสมัยก่อนนั่นหล่ะครับ) ส่วนพ่อผมเก่ง เรื่องหนังสือ อ่านออกเขียนได้อย่างดีเยี่ยม คงเพราะเหตุที่ท่านแม่ระลึกได้ว่าท่านอ่านหนังสือไม่ออก อยากให้ลูกๆ ได้ฉลาด อ่านออกเขียนได้กระมัง จึงยอมสละเงิน 5 บาทค่าเหล้า เพื่อให้ผมได้ซื้อหนังสือเล่มนั้น🥺🥺🥺
จนในที่สุด ผมก็ได้เจ้าเป็นหนังสือ “ยอดนักวิทยาศาสตร์ของโลก” สมใจนึก ในเนื้อหามีใครบ้างหล่ะ ที่จำได้
-อัลเบิร์ต ไอสไตน์ ผู้ค้นพบการทำระเบิดปรมณู
-หลุย ปาสเตอร์ ค้นพบวัคซีนป้องกัน พิษสุนัขบ้า
-เซอร์ ไอแซค นิวตัน เจ้าของทฤษฎีแรงโน้มถ่วง
-นิโคลา เทสลา บิดาแห่งกระแสไฟฟ้า AC/DC ฯลฯ
นั่นคือ ทั้งหมดที่ผมรู้ และลืมไปบ้างแล้วก็มีเยอะแยะ แต่มีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งคือ
-เกรเกอ เมนเดล บิดาแห่งพันธุกรรมศาสตร์ที่ค้นพบทฤษฎีแห่งการวิวัฒนาการ เขาเชื่อว่า ทุกการเกิดใหม่ของสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพืชและสัตว์ บนโลกใบนี้ มีการวิวัฒนาการ อยู่ตลอดเวลา เขาทดลองโดยการปลูกถั่ว และสังเกตการเปลี่ยนแปลง จนได้ทราบว่า ทุกอย่างมีการเปลี่บนแปลงและวิวัฒนาการจริงๆ (รายละเอียดเชิงลึกผมขอแนะนำ ท่านกูเกิ้ล เพิ่มเติมน่ะครับ)ฯ
เขายังพิสูจน์ว่า พันธุกรรม และสายพันธุ์ ที่แข็งแกร่งและโดดเด่นเท่านั้นถึงจะอยู่ได้ พูดง่าย ๆ คือ เราทั้งหมดถูกเลือก และ ถูกคัดสรรโดยธรรมชาติมาแล้วทั้งนั้นถึงมาเกิดบนโลกใบนี้ได้ เราทั้งหมดผ่านการเริ่มวิวัฒนาการ มาตั้งแต่เราเป็นตัวอ่อน อยู่ในครรภ์มารดาแล้วทั้งสิ้น จากรุ่น สู่รุ่น ถ้าใครกำลังท้อแท้ใจ เสียใจ โปรดอย่าลืมว่า เราคือคนหนึ่ง ที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกใบนี้ เพราะเราถูกเลือก และวิวัฒนาการมาแล้วไง 👏👏👏
เขายังชี้ให้เห็นถึงสายพันธุกรรมที่อ่อนแอของถั่วว่า มักจะถูกรุกรานโดยศัตรูพืช และติดเชื้อโรคได้ง่าย ทำให้เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ และไม่สามารถยืนหยัดทนอยู่ จนออกดอกแตกผล เพื่อการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ได้ เหล่าแมลง และ ศัตรูพืชนั้น จ้องที่จะเล่นงานต้นพันธุ์ที่อ่อนแอเสมอ ซึ่งตรงกันข้ามกับสายพันธุ์ที่แข็งแรง ซึ่งมีใบดอกที่สมบูรณ์ บานสะพรั่ง พร้อมดึงดูดแมลงมาเพื่อช่วยผสมเกสร ฯ
ฉันใดก็ฉันนั้น มนุษย์ ไม่ว่าจะหญิง หรือ ชาย ผู้มีรูปโฉมงดงาม ก็จะมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม มากกว่าคนหน้าตาธรรมดา หรือ ไม่มีจุดเด่นใดๆ ผมเชื่อว่านี่เป็นกฎธรรมดาของ เมนเดล อย่างแท้จริงนั่นเอง นั่นเป็นเพราะว่าธรรมชาติ กำลังคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดี เพื่อวิวัฒนาการนั่นเอง เพียงหากแต่ว่า ธรรมชาติมนุษย์ มีอารมณ์และการแสดงออกที่ซับซ้อนมากกว่าพืช และสัตว์ชนิดอื่นใดนั่นเอง ผู้หญิงอาจต้องการ ผู้ชายที่สูง หล่อ ผิวขาว ผิวดำแดง เลือกคนที่มีการศึกษาดี มีฐานะดี ผลที่สุดแล้ว นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนา เพื่อที่จะวิวัฒนาการ เจเนอเรชั่นถัดไป ของเธอนั่นเอง อันนี้คือการแสดงออกทางกายภาพของเธอนั่นเอง ซึ่งแตกต่างจากพืชที่ไม่มีการแสดงออกได้แบบนี้ สัตว์หลายชนิด ก็มีเช่น สุนัข เป็นต้น มักจะกัดกันเพื่อเลือกคู่ผสมพันธุ์ เป็นต้น
เอาหล่ะ พิมพ์มาซะยาวยืด ในเมื่อเราเชื่อว่า สิ่งมีชีวิตทุกอย่าง ทั้งพืช และ สัตว์ รวมทั้งมนุษย์ มีการวิวัฒนาการ เพื่อคัดเลือกสายพันธุ์ ที่แข็งแรงที่สุด แกร่งที่สุด ตามกฎของ เมนเดล แล้วอะไรหล่ะเป็นตัวกำหนดรูปแบบนั่น มันไม่ง่ายเลยที่จะหาเหตุมาพิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ว่า อะไรเป็นสาเหตุของการวิวัฒนาการ หรือ การผ่าเหล่าเป็นต้นได้ เรารู้แบบสรุปรวมๆ ว่าธรรมชาติมีวิวัฒนาการ ต้องการกำจัดสายพันธุ์ที่อ่อนแอ คงไว้แต่สายพันธุ์ที่แข็งแกร่งเท่านั้น ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้ เพราะมันเป็นกฎของธรรมชาติ มนุษย์ที่เกิดมาร่างกายไม่สมบูรณ์ ก็อาจจะอายุสั้นมากกว่า คนร่างกายแข็งแรงเป็นต้น (อันนี้ ไม่รวมปัจจัยเสี่ยงน่ะครับ)
สรุป ถ้ากฎของเมนเดลเป็นจริง และคงอยู่ และผมก็เชื่ออย่างนั้น แสดงว่า เราทั้งหมดที่อยู่บนโลกใบนี้ กำลังอยู่ภายใต้กฎของเมนเดล คือ ธรรมชาติ พยายามคัดสรรค์พันธุ์ที่อ่อนแอ ออกไป คงไว้แต่สายพันธุ์ที่แข็งแกร่ง จะด้วยวิธีการใดก็ตามธรรมชาติได้เลือกไว้แล้ว
การมาของสายพันธุ์ไข้หวัดมรณะ โควิด-19 ได้คร่าผู้คนไปเป็นเรือนแสน และติดเชื้ออีกเป็นล้าน แต่ที่น่าแปลกคืออัตราการเสียชีวิต ของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่นี้ ต่ำมาก แค่ 4% เท่านั้น แต่อัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นตามอายุ และ สภาพทางร่างกาย หากร่างกายอ่อนแอ มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว ก็มีเปอร์เซนต์การเสียชีวิต เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ที่น่ากลัวคือเรื่องอัตราการติดเชื้อมากกว่า ที่เชื้อมีความสามารถในการ แพร่ และ กระจายตัวได้เร็วมาก ผ่านละอองไอ และเสมหะ ของผู้ป่วยแล้วถ้า...หากเรามองตามกฎของเมนเดลเรื่องการวิวัฒนาการ คัดสรร สายพันธุ์หล่ะ
เป็นไปได้ไหม ที่โลกกำลังจะเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนถ่าย และ คัดเลือกสายพันธุ์ ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นให้มีอยู่บนโลกใบนี้ ผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ ส่วนมากคือผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 50 ขึ้นไป ส่วนคนหนุ่มสาว ที่แข็งแรง หายจากโรคนี้ ก็จะมีภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติ ฤาการคัดเลือกสายพันธุ์ที่แข็งแกร่งโดยธรรมชาติ และการวิวัฒนาการกำลังเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ หากว่ากฎของเมนเดล เป็นจริง ผมเชื่อเหลือเกินว่า วิกฤติโรคระบาดครั้งนี้เกิดมาเพื่อคัดแยกสายพันธุ์ที่อ่อนแอ คงไว้ แต่สายพันธุ์ที่ ......
“แข็งแกร่งเท่านั้น ถึงจะอยู่รอด”
คำนำ จากผู้พิมพ์
มันคือความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ควรอ่าน แต่ไม่ควรนำเอาไปเปรียบเทียบเพื่อการศึกษา บทความนี้ผู้เขียนคิด พิมพ์ขึ้นมา เนื่องจากกำลังปฏิบัติตามนโยบายรัฐ ว่าด้วยมาตรการการกักตัว เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แพร่ระบาด ของโรคไข้หวัด โควิด-19 เห็นว่าความคิดเห็นส่วนตัวบางอย่างอาจมีประโยชน์ เลยพิมพ์ และแชร์ขึ้นมาให้ท่านผู้อ่านไว้เป็นกรณีศึกษา
ขอบคุณครับ สำหรับคืนนี้ โปรดอย่าลืมล้างมือ ด้วยสบู่ และถูอย่างน้อย 20 วิ
นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์
โฆษณา