Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ต้าจีน
•
ติดตาม
14 เม.ย. 2020 เวลา 03:26 • ประวัติศาสตร์
4 ปี มีผลงานยิ่งใหญ่ ฮั่วชี่ปิ้ง นักรบไร้พ่าย
“ซวุงหนูยังไม่สิ้น ไม่ขอถวิลคิดเรื่องครอบครัว”
คำกล่าวอมตะที่เหล่าทหารผู้เสียสละยึดเป็นคติประจำใจ คำกล่าวนี้มีที่มาจากจากยอดนักรบยุคราชวงศ์ฮั่น ฮั่วชี่ปิ้ง แม่ทัพใหญ่อายุน้อย ที่ผ่านเข้ามาในประวัติศาสตร์เพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ว่าผลงานนั้นยิ่งใหญ่และเป็นที่ประจักษ์ ดีกว่าคนที่อยู่ในแวดวงราชการหรือการเมือง ที่อยู่นานแต่ด้อยคุณภาพ และที่ร้ายไปกว่านั้นคือพวกที่เป็นไวรัสของราชการ ไวรัสพวกนี้ร้ายแรงยิ่งกว่าโควิด 19 เพราะมันไม่เฉพาะกินแค่ปอด แต่มันยังกินหิน กินทราย กินถนน กินหน้ากาก เรียกว่ามันกินทุกอย่างที่ขวางหน้า
เรื่องชาติกำเนิดของฮั่วชี่ปิ้งนั้น อาจจะเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งว่าคนเราแม้จะมาจากครอบครัวต่ำต้อย ยากจน หรือ ครอบครัวแตกแยก แต่ถ้าเป็นคนรักดีชอบเอาแต่สิ่งดีๆ เรื่องชาติกำเนิดไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย ตัวเราเองต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิต ขงจื้อนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ก็เสียบิดาไปตั้งแต่ยังอายุ 3 ขวบ มารดาต้องหอบหิ้วออกจากบ้าน เพราะไม่อยากอยู่ให้เป็นที่เกลียดชังของเมียหลวง ที่เทียวหาเรื่องเมียน้อย เหมือนละครหลังข่าว การกำพร้าพ่อไม่ใช่อุปสรรคในการใฝ่รู้ ฮั่วชี่ปื้งก็เหมือนกันแม้ว่าจะเกิดมาต่ำต้อย เว่ยซ่าวเอ๋อผู้เป็นแม่ เป็นแค่คนรับใช้ ฮั่วจ้งหยูผู้เป็นพ่อก็เป็นไพร่เกณฑ์ผู้ใช้แรงงาน โดยทั้งพ่อและแม่ก็มีสถานะเป็นแค่ทาสเท่านั้นเอง ซ้ำร้ายไปกว่านั้นพ่อกับแม่ลอบได้เสียกัน ไม่ได้แต่งงาน ไมได้จดทะเบียนสมรส
วันดีคืนดี แม่ก็เกิดฮั่วชี่ปิ้งออกมา ด้วยความยากจนก็ไม่ได้บำรุงอะไรมาก ฮั่วชี่ปิ้งจึงเกิดมาเป็นเด็กขี้โรค แม่จึงตั้งชื่อให้ว่า ชี่ปิ้ง อันมีความหมายว่า ไม่มีโรค
การเข้าสู่แวดวงขุนพลของฮั่วชี่ปิ้งนั้น ต้องขออธิบายเล็กน้อยถึงความเป็นมาเป็นไป ฮั่นอู่ตี้ มหาจักพรรดิ ได้พบกับรักกับเว่ยจื่อฟู นางรำประจำวังพระพี่นางของฮั่นอู่ตี้ ภายหลังเว่ยจื่อฟู มีวาสนาได้เป็นถึงฮองเฮา จึงทำให้เว่ยชิง ผู้เป็นพี่ชายได้ดิบได้ดีไปด้วย แม้จะเส้นใหญ่แต่ว่าความสามารถก็ใหญ่ตามเส้น ซึ่งเว่ยชิงเองได้เป็นถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด เว่ยซ่าวเอ๋อ แม่ของฮั่วชี่ปิ้งนั้น เป็นน้องสาวของเว่ยจื่อฟู ซึ่งตอนนี้นั่งผงาดเป็นฮองเฮาคนโปรดของฮั่นอู่ตี้ ตระกูลเว่ยจึงแปลงสภาพจากคนชั้นล่างเป็นชนชั้นไฮโซไปตามๆกัน
ฮั่วชี่ปิ้ง จึงมีโอกาสเข้าวังเป็นทหารรักษาพระองค์เมื่ออายุ 18 ปี และปีเดียวกันที่เข้าวังนี้ได้มีโอกาสติดตามน้าชายเว่ยชิงไปออกศึกเมื่อ 123 ปี ก่อน ค.ศ. ได้รับพระราชทานยศเป็นผู้บังคับกองพันคุมทหารม้าเร็ว 800 คนออกศึกในครั้งนี้ กลายเป็นนายพันอายุน้อยที่สุดในเวลานั้น
การศึกกับพวกซวุงหนูครั้งแรกนี้ ฮั่วชี่ปิ้งก็มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ นายพลนำทัพออกศึก 6 คน ปรากฏว่า แพ้ 2 เสมอ 4 ส่วนฮั่วชี่ปิ้งนายพันอายุน้อย กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สังหารพวกซวุงหนูได้หลายพันคน ทำให้นายพลทั้งหลายได้มีโอกาสกลับมาเห็นเวียงวังอีกครั้ง เสร็จศึกครั้งนี้ฮั่วชี่ปิ้ง ได้เลื่อนเป็นนายพล พร้อมกับบรรดาศักดิ์ “เจ้าพระยาชนะเลิศ” ในวัยไม่ถึง 20 ปี
1
121 ปี ก่อน ค.ศ. เผ่าซวุงหนูเจ้าเก่าออกมาแผลงฤทธิ์เช่นเคย ฮั่วชี่ปิ้งจึงได้อาสาออกรบ โดยคราวนี้ได้เป็นนายพลกองทัพม้าเร็วหนึ่งหมื่นคน เป็นหน่วยรบอิสระไม่ขึ้นกับการบังคับบัญชาของใคร การศึกครั้งนี้ผลงานของฮั่วชี่ปิ้งก็ยังยอดเยี่ยมเช่นเคย สามารถนำทัพเพียงหนึ่งหมื่นคน บุกถล่มเผ่าซวุงหนูต่างๆ ไกลถึง 500 กิโลเมตร ทำลายเผ่าซวุงหนูขนาดใหญ่รวม 5 ก๊ก ฆ่าตัดหัวได้จำนวนถึง 8,960 หัว ยังไม่พอยังสามารถขนเทวรูปทองคำองค์โตๆ ของพวกซวุงหนูกลับมาที่เมืองหลวงฉางอานได้อีก ทำให้เผ่าซวุงหนูหลายเผ่าอกสั่นขวัญแขวน กลัวจีนไปตามๆกัน
เพิ่มเติมเรื่องเผ่าซวุงหนู คือการเรียกรวมเผ่าๆต่างๆที่อยู่นอกกำแพงเมืองจีน ซึ่งมีมากมายหลายเผ่ามีหัวหน้าเผ่าหรือข่านเป็นผู้นำของแต่ละก๊กละเผ่าครับ
ผลการรบครั้งนี้ ทำให้จีนสามารถควบคุมเส้นทางการคมนาคมเพื่อติดต่อระหว่างจีนกับตะวันตก ก็คือเส้นทางสายไหมนั่นเองครับ
สองตาเผ่าซวุงหนูได้เห็นแสนยานุภาพของกองทัพจีน เผ่าที่รักตัวกลัวตายก็รีบยอมสวามิภักดิ์ แม้จะตุกติกอยู่บ้าง แต่เจ้าพระยาชนะเลิศอย่างฮั่วชี่ปิ้งก็สามารถใช้ปัญญาในการสยบลงได้ และได้นำผู้นำเผ่านั้นกลับมาถวายแด่ฮั่นอู่ตี้ฮ่องเต้ ฮั่นอู่ตี้จัดการพิจารณามอบยศให้เป็นเจ้าพระยาของฮั่น ให้ช่วยซ่อมกำแพงเมืองจีน ได้รับการขัดเกลาจิตใจ รับวัฒนธรรมของชาวฮั่น มีสัมพันธไมตรีที่ดีกับจีน หลายเผ่าเมื่อเห็นเผ่าที่ยอมสวามิภักดิ์ต่อจีนได้รับการปฏิบัติอย่างดี ก็ทยอยเข้ามายินยอมสวามิภักดิ์ต่อจีนมากขึ้น
เผ่าซวุงหนูยอมสวามิภักดิ์กับจีนครั้งนี้ ฮั่นอู่ตี้ชื่นชมฮั่วชี่ปิ้งอย่างมาก จึงได้พระราชทานสุราชั้นเลิศให้กับฮั่วชี่ปิ้ง
แต่ฮั่วชี่ปิ้งกลับเอาสุราเลิศรสนั้น เทลงไปในธารน้ำ บริเวณที่ทำพิธีสวามิภักดิ์ และให้ทหารที่ออกรบด้วยกันตักน้ำในธารน้ำนั้นขึ้นมาดื่ม โดยให้คิดว่าเสมือนได้ดื่มสุราพระราชทานจากขวดเดียวกัน นี้แหละครับจิตวิทยาชั้นเลิศของนักปกครอง เมื่อได้ผู้บังคับบัญชาดีถึงเพียงนี้ ก็ถึงไหนถึงกันสิครับ
แต่ก็ยังมีอีกหลายเผ่าที่ยังไม่ยอมสวามิภักดิ์ และยังก่อกวนสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวฮั่น ฮั่นอู่ตี้ เบื่อเต็มที หวังเผด็จศึกให้เด็ดขาดสิ้นซาก ได้สั่งระดมทหารม้าหนึ่งแสน และทหารราบอีกหนึ่งแสน แบ่งเป็น 2 กองทัพ ทัพราบนำโดยเว่ยชิง เป็นปีกซ้าย อีกทัพเป็นทัพม้า นำโดยฮั่วชี่ปิ้ง เป็นปีกขวา เมื่อ 119 ปี ก่อน ค.ศ.
ก่อนออกศึก ฮั่นอู่ตี้เห็นฮั่วชี่ปิ้งเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์อายุ 22 ปี เห็นว่าน่าจะมีคู่ได้แล้ว จึงมีพระราชดำริจะพระราชทานคฤหาสน์ใหญ่โตให้อยู่ และเตรียมหญิงงามไว้ให้ แต่ฮั่วชี่ปิ้ง กราบทูลด้วยเสียงแน่นหนักว่า “ซวุงหนูยังไม่สิ้น ไม่ขอถวิลคิดเรื่องครอบครัว”
การศึกครั้งนี้กองทัพปีกขวาที่นำโดยฮั่วชี่ปิ้ง มีผลงานยอดเยี่ยมเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา เพราะกองทัพของฮั่วชี่ปิ้งมีแต่หนุ่มๆไฟแรง แถมยังไม่พอยังมีซวุงหนูที่ยอมสวามิภักดิ์มาเป็นกำลังช่วยนำทาง มีความชำนาญด้านภูมิศาสตร์ภูมิอากาศ และคอยหาเสบียงเสริมให้ ทำให้ทัพฮั่วชี่ปิ้งทำงานอย่างได้ผล ตรงข้ามกับทัพเว่ยชิง ที่ผลงานไม่เข้าตา จนรองแม่ทัพหลี่กว่างตัดสินใจฆ่าตัวตายในสมรภูมิรบ
เสร็จศึกฮั่วชี่ปิ้งได้รับยศศักดิ์เทียบเท่าเว่ยชิง ได้รับพระราชทานครองครองราษฎรเพิ่ม ทหารในทัพฮั่วชี่ปิ้งได้รับยศถาบรรดาศักดิ์หน้าชื่นตาบานไปตามๆกัน ฮั่วชี่ปิ้งกลายเป็นซุปตาร์ ต้องออกรอบขึ้นรับรางวัลจากสถาบันต่างๆ เสื้อผ้า สิ่งของต่างๆ ที่มีรูปของฮั่วชี่ปิ้ง ล้วนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ฮ่องเต้ฮั่นอู่ตี้ ทรงตรัสชมผลการทำศึกครั้งนี้ว่า
“ศึกครั้งนี้ ทำให้ชาวฮั่นสามารถลบล้างความอัปยศที่ถูกพวกซวุงหนูระรานมาแต่โบราณกาลได้แล้ว”
แต่แล้วลูกผู้ชายยอดนักรบ ก็ต้องจากโลกนี้ไป เมื่อ 117 ปี ก่อน ค.ศ. ในวัยเพียง 24 ปี ด้วยโรคพยาธิ (ไม่ใช่พยาธิใบไม้ตับ พยาธิตัวหนอนตัวตืดนะครับ และเป็นลักษณะคนที่เจ็บป่วยออดๆแอดๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก ภาษาชาวบ้านมักเรียกกันว่า เป็นพยาธิ) ที่คุกคามชีวิตฮั่วชี่ปิ้งมาตั้งแต่เด็กๆ แม้จะอยู่ในสรภูมิรบเพียง 4 ปี แต่ขุนศึกฮั่วชี่ปิ้งได้สร้างผลงานไว้มากมาย ทำให้ชายแดนที่เผ่าซวุงหนูก่อกวนสร้างความเดือดร้อนมาแต่โบราณกาล สงบสุขลงนับทศวรรษ
1
ฮั่นอู่ตี้ โปรดให้สร้างสุสานของฮั่วชี่ปิ้ง ไว้หน้าพระสุสานหลวงของพระองค์ โดยหน้าหลุมฝังศพของฮั่วชี่ปิ้งมีป้ายศิลาจารึกว่า “สุสานจอมพลเจ้าพระยาชนะเลิศ ฮั่วชี่ปิ้ง แม่ทัพใหญ่ผู้บัญชาการกองทัพม้าเร็วแห่งราชวงศ์ฮั่น”
8 บันทึก
21
2
8
8
21
2
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย