14 เม.ย. 2020 เวลา 08:41 • ประวัติศาสตร์
Coffee Cantata ของคุณพ่อบาค : เมื่อกาแฟเป็นสิ่งต้องห้าม
เมื่อกล่าวถึง J. S. Bach ผู้ที่ชื่นชอบดนตรีคลาสสิกมักจะนึกถึงเพลงของเขาในทางธรรม คือบทเพลงที่เกี่ยวกับการใช้ในพิธีทางศาสนา หรือบทเพลงสรรเสริญพระเจ้า
แต่จริง ๆ แล้วมีบทเพลงที่คุณพ่อบาค (ด้วยชื่อบาคนี้เป็นนามสกุลของนักแต่งเพลงหลายคน เลยจะขอแทนท่านโยฮันน์ เซบาสเตียนว่าคุณพ่อแล้วกันนะคะ) แต่งที่ไม่ได้เกี่ยวกับทาง "ธรรม" อยู่มากเช่นกัน
หนึ่งในนั้นก็คือบทเพลงที่ตลกและน่าสนใจดีเหมาะกับการมาเขียนในบล็อกค่ะ นั่นคือบทเพลง Coffee Cantata
Cantata หมายถึงเพลงร้องที่มีดนตรีประกอบ แสดงในลักษณะแบบคอนเสิร์ตโดยไม่ได้มีฉากหรือแอคติ้งประกอบ (แต่ในปัจจุบันก็มีการปรับเปลี่ยนให้มีการแสดงหรือฉากไปตามที่ผู้แสดงต้องการ)
ส่วนทำไมบทเพลงนี้ ซึ่งชื่อจริงคือ Schweigt stille, plaudert nicht ในแคตตาล็อก BWV ลำดับที่ 211 มีชื่อเล่นของเพลงว่า Coffee Cantata ?
ต้องท้าวความไปถึงสถานการณ์ของการดื่มกาแฟในยุคนั้นเสียก่อน ชาวเยอรมันได้ลิ้มรสกาแฟเป็นครั้งแรกโดยการแนะนำของชาวอังกฤษ ร้านกาแฟแรก ๆ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 เกิดขึ้นโดยพ่อค้าชาวอังกฤษเข้ามาเปิดร้าน และเมื่อถึงยุคของกษัตริย์ฟรีดริช วิลเล็ม ที่ 1 ก็ยอมให้ชาวต่างชาติเปิดร้านกาแฟ หรือ coffee house โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าร้าน กาแฟในเยอรมันจึงเป็นกาแฟที่นำเข้าจากประเทศอังกฤษและอิตาลี
กาแฟและร้านกาแฟ กลายเป็นที่แพร่หลายอย่างมากในเยอรมัน แต่ก็กลายเป็นเครื่องดื่มที่มีผู้ต่อต้านและกล่าวหาว่าเป็นภัยไปพร้อม ๆ กัน ในฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เริ่มมีการกีดกันเสรีทางด้านการดื่มกาแฟ โดยจำกัดการค้าขายกาแฟและให้ใช้กาแฟดื่มได้เฉพาะในชนชั้นสูง ทำให้เกิดบทกวีที่เสียดสีข้อดีและข้อเสียของกาแฟ (ประพันธ์โดย Picander) ที่เป็นต้นแบบของบทเพลง Coffee Cantata ของคุณพ่อบาคบทนี้
เนื้อหาของบทเพลงได้เล่าเรื่องถึงคุณพ่อนามว่า Schlendrian ที่พยายามบังคับให้ลูกเลิกดื่มกาแฟ ส่วนลูกสาว Liesgen ก็คัดค้าน แล้วอธิบายว่ากาแฟนั้นดีอย่างไรบ้าง
"Ah! How sweet coffee tastes,
more delicious than a thousand kisses,
milder than muscatel wine."
พ่อจึงขู่ว่าถ้าไม่เลิกก็จะไม่ให้มีสามี! ลูกสาวจึงยอมว่าจะเลิกกาแฟก็ได้เพื่อให้ได้มีคนรัก แต่ก็แอบบอกข่าวออกไปว่าถ้าใครจะมาจีบ ก็จะขอให้มีสามีที่ยอมให้สาวเจ้าได้ดื่มกาแฟได้มากเท่าที่เธอต้องการ สุดท้าย บทเพลงสรุปว่า ในเมื่อทั้งคุณยาย คุณแม่ก็ยังชอบดื่มกาแฟ แล้วจะให้ลูกสาวไม่ติดกาแฟได้อย่างไร
เราสามารถฟังเพลงพร้อมทั้งอ่านเนื้อร้องจากเว็บไซต์ของ Netherlands Bach Society ได้ที่นี่ค่ะ ซึ่งในการแสดงของเขามีการประกอบฉากและท่าทางทำให้ดูสนุกมากทีเดียว
การกีดกันการดื่มกาแฟในเยอรมันเริ่มมีมากขึ้นเมื่อพระเจ้าฟรีดริชมหาราชออกกฎหมายคล้ายคลึงกับของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ในช่วงปลาย 1770 โดยกีดกันว่ากาแฟเป็นเครื่องดื่มของชนชั้นสูงเท่านั้น และเป็นภัยต่อชาวบ้านทั่วไป กาแฟทำให้เงินไหลออกนอกประเทศ และยังบอกว่าประชาชนควรจะดื่มเบียร์ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแห่งชาติ การกีดกันเพิ่มขึ้นไปถึงการจำกัดการคั่วกาแฟไว้กับชนชั้นสูงและข้าราชการ ส่วนเม็ดกาแฟต้องรับมาจากพระเจ้าฟรีดริชเท่านั้น ทำให้ท่านร่ำรวยมหาศาลจากการนี้
อย่างไรก็ตาม กาแฟในตลาดมืดก็ยังไม่หมดไป จากการห้ามคั่วกาแฟแบบผิดกฎหมาย ยังทำให้เกิดอาชีพนัก "ดมกาแฟ" ที่คอยดมหาการคั่วเถื่อนตามบ้าน โดยเข้าไปดมตรวจในบ้านของประชาชนเมื่อใดก็ได้ แน่นอนว่าเป็นที่คัดค้านของชาวบ้านเป็นอย่างมาก และยิ่งทำให้ตลาดมืดของกาแฟคึกคักมากขึ้น อย่างไรก็ตามไม่นานหลังจากพระเจ้าฟรีดริชสิ้นชีวิต กฎนี้ก็ถูกผ่อนผันลงในที่สุด และร้านกาแฟในเยอรมันก็กลับมามีแพร่หลายอีกครั้ง
การกีดกันกาแฟจากคนที่ติดคงเป็นไปได้ยาก เหมือนกับใน Coffee Cantata ที่บอกว่า
"If I couldn't, three times a day,
be allowed to drink my little cup of coffee,
in my anguish I will turn into
a shriveled-up roast goat."
อ้างอิง
โฆษณา