14 เม.ย. 63 - ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "โควิด19 สายพันธุ์ที่ระบาดทั่วโลก ได้มีการศึกษาพันธุกรรมของ โคโรน่าไวรัส โควิด19 กันมากทั่วโลกโดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา ในปัจจุบันมีการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว มากกว่า 5,000 สายพันธุ์ และแบ่งสายพันธุ์ของไวรัส แล้วแต่ใครจะกำหนด เช่นเป็น A B C
A เป็นสายพันธุ์เริ่มแรก โดยเปรียบเสมือน B วิวัฒนาการ มาจาก A และ C วิวัฒนาการมาจาก B หรืออาจกล่าวว่า C เป็นลูกของ B แต่ไม่ได้บอกว่าใครรุนแรงกว่าใคร บอกว่าความเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก บอกเส้นทางเดินของไวรัสว่ามาจากที่ใด
ในการวิเคราะห์แบบมีหลักเกณฑ์ ของ GISAID โดยดูตำแหน่งความหลากหลายทางพันธุกรรม polymorphism สายพันธุ์ของโควิด-19 ในปัจจุบัน มีจุดเริ่มต้นเป็นสายพันธุ์ S (serine) แล้วมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมเป็น L (Leucine) สายพันธุ์ L แพร่ขยาย ได้รวดเร็วกว่า และแพร่กระจายเข้าสู่ ยุโรป และอเมริกา ต่อมาจึงแยกสายพันธุ์ L แยกออกเป็นอีก 2 สายพันธุ์ G (glycine) และสายพันธุ์ V (Valine)
ดังนั้นสายพันธุ์ของโควิด-19 ในปัจจุบันจึงแบ่งเป็น 3 สายพันธุ์ คือ S, G และ V และยังมีสายพันธุ์อื่น ๆ อีกที่ยังไม่ได้กำหนด เราศึกษาในประเทศไทย พบว่าลักษณะของสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทย มีลักษณะที่จำเพาะ เราอยากจะตั้งชื่อว่า สายพันธุ์ T ไม่ใช่มาจาก Thailand แต่ T มาจากการเปลี่ยนพันธุกรรม ไปเป็น Threonine ในส่วนของ spike gene ที่ยื่นออกมา ถ้าเรามีการศึกษาเยอะและมากพอ
สายพันธุ์ G เข้าสู่อเมริกาทางด้านตะวันออก สายพันธุ์ S เข้าสู่อเมริกาทางด้านตะวันตก ในอเมริกาเองจึงมีทั้ง G และ S
สายพันธุ์ V และ G ระบาดในยุโรป สำหรับ Australia ช่วงแรก จะเป็นสายพันธุ์ S ที่มาจากจีน และเอเชียตะวันออก และต่อมา V และ G เข้ามาทีหลัง ผ่านการเดินทางเข้ามาจากยุโรป
บ้านเราที่พบมากยังเป็นสายพันธุ์ S ที่มาจากประเทศจีนในระยะแรก และระยะหลัง สายพันธุ์ทางตะวันตก โดยเฉพาะยุโรป ที่จะเป็นสายพันธุ์ V และ G เข้ามาสู่บ้านเรา โดยรวมแล้วสายพันธุ์ผสมกันไปมา เพราะการเดินทาง จากประเทศหนึ่งไปสู่ประเทศหนึ่ง