Innocent Defendant : อัยการแดนประหาร (2017)
ซีรีส์สืบสวนสอบสวน ลุ้นระทึก และคำถามว่าด้วยเรื่องความรุนแรงของการประหารชีวิตคนดี เมื่อเทียบกับการปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ? พร้อมคำตอบตามหลักการของ Type one & Type Two Error
Innocent Defendant (2017) หรือ " อัยการแดนประหาร " ซีรีส์เรื่องเยี่ยมสัญชาติเกาหลี ว่าด้วยเรื่องของ " พัคจองอู " อัยการหนุ่มจากสำนักอัยการกลางประจำกรุงโซลที่ต้องมาทำคดีฆาตกรรมหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ คือ ซางมินโฮ รองประธาน" ชามยองกรุ๊ป " บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลและเส้นสายมากมาย
พัคจองอูตามสืบคดีนี้จนคืบหน้าไปมาก ทำให้ซางมินโฮตกที่นั่งลำบากเพราะพยานหลักฐานทุกอย่างเชื่อมโยงมาถึงตัวเขา
.
.
แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าตนเองมีความผิด แต่ซางมินโฮก็ไม่ต้องการที่จะรับโทษ เขาจึงสร้างหลักฐานเท็จให้ตำรวจเชื่อว่าเขาฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด และได้สวมรอยเป็น " ซาซอนโฮ " พี่ชายฝาแฝดของเขา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานของ" ชามยองกรุ๊ป " แทน
สิ่งที่ซางมินโฮทำลงไปนั้น ไม่สามารถตบตาอัยการพัคจองอูได้
เขาเป็นคนเดียวที่สงสัยและติดใจการตายของซางมินโฮ จึงพยายามสืบหาความจริงจนได้เบาะแสสำคัญ
แต่แล้วในคืนก่อนวันแถลงข่าวเพื่อจับกุมซางมินโฮ ทั้งเมียและลูกของพัคจองอูก็ถูกฆาตกรรม และผู้ต้องหาในคดีนี้ก็คืออัยการ" พัคจองอู "
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น ...
พัคจองอูรู้สึกตัวอีกครั้งในเช้าวันหนึ่ง ก่อนจะทราบว่าเวลาได้ล่วงเลยมากว่า 4 เดือนแล้ว เพื่อนในห้องขังบอกกับเขาว่า เขามักจะสูญเสียความทรงจำอยู่บ่อยๆ
.
.
นี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาหลับไป ... และตื่นขึ้นมาโดยที่จำอะไรไม่ได้
เขาไม่รู้ว่าเหตุใดจึงได้มาอยู่ที่เรือนจำแห่งนี้ มีอะไรเกิดขึ้นกับครอบครัวของเขา ? อะไรทำให้อัยการหนุ่มอนาคตไกล ต้องกลายมาเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม
พัคจองอูต้องคืนความทรงจำของเขากลับมาให้ได้ เพื่อสู้คดีที่มีโทษประหารชีวิตเป็นเดิมพัน ซึ่งทนายอาสาที่เข้ามาช่วยเขาสู้คดีนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นทนายสาว "ซออึนเฮ" ซึ่งพัคจองอูรู้จักเป็นอย่างดี
.
เธอคือทนายของผู้ต้องหาในคดีที่เขาเป็นอัยการสั่งฟ้อง และ "ซออึนเฮ" ก็คือทนายที่ไม่เคยว่าความชนะเลย
พัคจองอู จะรอดพ้นข้อกล่าวหาได้หรือไม่ ? และความทรงจำของเขาจะกลับมาไหม ? โปรดติดตามต่อได้จากซีรีส์ Innocent Defendant "อัยการแดนประหาร " ความยาว 18 ตอน สามารถรับชมได้จาก Viu หรือ Netflix
นี่คือซีรีส์ที่ถ้าหลวมตัวดูแล้ว คุณอาจจะถูกกระชากวิญญาณให้ดูรวดเดียวจบ18 ตอนเลยก็ได้ ระดับความสนุกของเรื่องนี้ผมให้สิบเต็มสิบ
แนะนำสำหรับคอหนังแนวสืบสวน สอบสวน ห้ามพลาดเด็ดขาด
หลังดูจบ...ผมติดใจกับโครงเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้มาก
มันคือเรื่องของคนดีคนหนึ่งซึ่งถูกใส่ร้ายจากความผิดที่เขาไม่ได้ทำ
แถมคนร้ายตัวจริงยังสร้างหลักฐานตบตาเจ้าหน้าที่ได้อย่างแนบเนียนจนยากที่พัคจองอูจะรอดพ้นคดีได้
(ไม่ได้สปอยด์นะครับ ถ้าดูซีรีส์คงเดาได้ไม่ยากว่าเขาคือผู้บริสุทธิ์)
ผู้ชมจะได้ลุ้นไปกับการสืบหาความจริงเพื่อเรียกความทรงจำกลับคืนมา
และยังต้องเอาใจช่วยพัคจองอูที่ต้องต่อสู้กับการถูกกดขี่ในเรือนจำ แถมยังโดนกลั่นแกล้งจากอิทธิพลและเส้นสายของซางมินโฮอีกด้วย เป็นการเฉือนคมไปมาระหว่างพระเอกกับผู้ร้ายชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร (ฉลาดด้วยกันทั้งคู่)
ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงคำถามหนึ่งที่เคยได้ยินในวิชา " สถิติ "
" ถ้าต้องเลือกระหว่างการที่คนดีถูกประหาร กับ การปล่อยคนชั่วให้ลอยนวล เธอจะเลือกอะไร ? "
.
.
อาจารย์ถามคำถามนี้เพื่ออธิบายให้นักศึกษาเข้าใจความแตกต่างของ Type I error กับ Type II error
สำหรับการทดสอบสมมติฐานในวิชาสถิติ นี่คือสิ่งที่ต้องรู้ก่อนนำไปใช้
ในการทดสอบสมมติฐานทางสถิติ ผู้ทดสอบสมมติฐานจะไม่ทราบความจริงของสมมติฐานที่ตั้งขึ้นมา ? พวกเขาทำได้เพียงเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างเพื่อนำมาวิเคราะห์ผ่านตัวเลขเท่านั้น
ซึ่งผลจากการทดสอบสมมติฐานจะให้ค่าสองแบบ คือ
การยอมรับสมมติฐานว่าจริง กับ ปฏิเสธสมมติฐานนั้น ซึ่งไม่ว่าจะยอมรับหรือปฎิเสธก็มีโอกาสเกิดความผิดพลาดขึ้นได้
.
.
ซึ่งความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น แบ่งได้เป็นสองประเภท คือ
.
ความผิดพลาดประเภทที่หนึ่ง (Type I error)คือ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเมื่อสมมติฐานนั้นเป็นจริง แต่ถูกปฏิเสธ กับความผิดพลาดประเภทที่สอง (Type II error)คือ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเมื่อสมมติฐานนั้นเป็นเท็จ แต่ถูกยอมรับว่าจริง
อธิบายแบบนี้อาจจะเข้าใจยาก ขอยกตัวอย่างเพื่ออธิบายในแบบที่ง่ายขึ้น
อาจารย์สอนให้จำแบบนี้
Type I error คือ การปฎิเสธความจริง เปรียบได้กับการประหารชีวิตคนดี
ส่วน Type II error คือ การยอมรับความเท็จ เปรียบได้กับการปล่อยคนชั่วให้ลอยนวล
กรณีนี้ยกตัวอย่างโดยอ้างถึงการพิจารณาคดี
การตัดสินชี้ขาด ต้องดูจากพยานหลักฐานของคดี ซึ่งไม่ว่าจะตัดสินในรูปแบบไหนก็อาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ เช่น เมื่อตัดสินให้ดำเนินคดี ก็มีความเป็นไปได้ที่การตัดสินนั้นจะเป็นการลงโทษผู้ที่ไม่ได้ทำผิด หรือ ถ้าตัดสินให้พ้นโทษ ก็มีความเป็นไปได้ว่าเป็นการตัดสินที่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
จะสังเกตว่าไม่ว่าจะตัดสินแบบใดก็เสี่ยงโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดแบบใดแบบหนึ่งเสมอ ?
คำถามคือแล้วความผิดพลาดแบบไหนที่รุนแรงกว่ากัน ?
(ให้เวลาคิด 2 นาที แล้วค่อยไปอ่านเฉลยด้านล่าง)
.
.
.
.
.
.
.
คำตอบคือ การตัดสินให้คนดีรับโทษ (ประหารคนดี) นั้นรุนแรงกว่าการปล่อยให้คนชั่วลอยนวล เพราะการลงโทษคนดี คือ การลงโทษผู้ที่ไม่สมควรถูกลงโทษ
หรือ ถ้าหนักไปกว่านั้นอย่างเช่น ประหารชีวิตคนดี นั่นหมายถึงการที่คนดีคนหนึ่งได้ตายจากโลกนี้ไป
ด้วยเหตุนี้ ระบบการพิจารณาคดีอาญาจึงใช้ระบบ " กล่าวหา " คือ เป็นระบบที่มีการกล่าวหาจากใครบางคน แล้วมีผู้พิพากษามาทำหน้าที่ตัดสินโดยยึดจากพยานหลักฐาน โดยผู้กล่าวหาจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานมาให้ชัดเจนที่สุด
.
.
.
หากพยานหลักฐานที่มียังไม่สามารถทำให้ " ศาลสิ้นสงสัย " ศาลก็จะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าการพิจารณาคดีให้ความสำคัญกับการปกป้องผู้บริสุทธิ์มากกว่าการลงโทษคนผิด
หากพยานหลักฐานไม่ชัดเจนก็จะถือว่าจำเลยคือผู้บริสุทธิ์ แม้การทำแบบนี้จะทำให้มีคนชั่วบางส่วนลอยนวลไปได้ แต่ก็ป้องกันการสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อใส่ร้ายคนบริสุทธิ์ได้เช่นกัน
ใครจะไปนึกว่าวิชา " สถิติ " จะมีคำถามที่น่าสนใจแบบนี้อยู่ด้วย
แถมยังเป็นคำถามที่เชื่อมโยงไปถึง " นิติศาสตร์ " ในเรื่องของการพิจารณาคดีด้วย ซึ่งการสอนแบบนี้ ทำให้ผมจำได้อย่างแม่นยำเลยว่า
" การประการคนดี (Type I error)รุนแรงกว่าการปล่อยคนชั่วให้ลอยนวล (Type II error) "
.
.
เห็นด้วยไหมครับ ?
เครดิตข้อมูล :
ซีรีส์เรื่อง innocent defendant(2017)
บทความเรื่อง " False Positive/Negative หนังสือมนุษย์เศรษฐกิจ 3.0
นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์ : ผู้เขียน
บทความเรื่อง " พิสูจน์จนสิ้นสงสัย " The matter
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
